ศ.เยาวนาถ นรินทร์สรศักดิ์
สวัสดีค่ะ จันทร์นี้มาต่อกันกับ เทพฮอรัส พระเอกของดินแดนไอยคุปต์ ผู้เป็นเจ้าของ The Eye of HORUS อันศักดิ์สิทธิ์ และโด่งดังทั่วโลก และเป็นต้นกำเนิดของฟาโรห์แห่งอียิปต์ ค่ะ
เทพฮอรัส เป็นโอรสองค์เดียวของ เทพโอสิริส กับ เทพีไอซิส ซึ่งเป็นพระเอกในจันทร์นี้ของเรานั่นเอง เทพฮอรัส (Horus) มี เทพีฮาธอร์ (Hathor) ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรัก ความสุข การแต่งงาน การเต้นรำ และความงดงามเป็นพระชายา เทพฮอรัส เป็นหนึ่งในเทพที่ได้รับการนับถือสูงสุดในอียิปต์ ชาวไอยคุปต์ต่างสรรเสริญพระองค์ในฐานะเทพผู้กล้า เทพแห่งแสงสว่าง และเทพแห่งความหวัง ผู้เป็นราชันย์แห่งการแก้แค้นและได้ชัยชนะ รูปลักษณ์เทพฮอรัส อันเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คือ พระองค์มีพระเศียรเป็นเหยี่ยว มีพระเนตรข้างซ้ายเป็นดวงอาทิตย์ และข้างขวาเป็นดวงจันทร์ ทรงสวมมงกุฎสองชั้นหรือแกะสลักเป็นรูปวงสุริยะ มีปีกอยู่ที่รั้ววิหารประจำพระองค์ หรือ ก็คือนกเหยี่ยวกำลังบินอยู่เหนือการสู้รบของฟาโรห์ ในพระหัตถ์มีแส้แห่งความจงรักภักดี และวงแหวนแห่งความเป็นนิรันดร์ เทพฮอรัส เติบใหญ่ขึ้น และได้รับการฝึกเพลงอาวุธและเวทมนตร์ จาก เทพฮามาคิสต์ ผู้เป็นลุงจน เก่งกาจ ฉกาจฉกรรจ์ เลยค่ะ
หลังจากได้สังหาร เทพโอสิริสผู้เป็นพระเชษฐา ที่เป็นพระบิดาของเทพฮอรัสแล้ว เทพเซธ ก็ได้ยึดครองบัลลังค์ และทำให้ดินแดนไอยคุปต์อยู่ในความมืดดำปกคลุมทั้งอาณาจักร มีหลายตำนานที่ได้กล่าวถึง การต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังค์กลับคืนระหว่าง เทพฮอรัส กับเทพเซธ ในตำนานแต่ละเล่ม แต่ละภูมิภาค แต่ละความเชื่อและความศรัทธาของดินแดนไอยคุปต์ ก็แตกต่างกันไปในรายละเอียดปลีกย่อย มีทั้งเรื่องมหัศจรรย์พันลึก พิสดารและน่าตื่นเต้น ไปจนถึงเข้าขั้น Rate 18+ กันเลยทีเดียว จันทร์นี้ อ.นาถ ขอเล่าการต่อสู้ของ 2 เทพ ผู้ยิ่งใหญ่แบบซอฟท์ ๆ และขอพุ่งเป้าไปที่ ที่มาของ “ดวงตาของเทพฮอรัส” (The Eye of Horus) เอาใจสายมูเตลู แบบเรา ๆ กันดีกว่า นะคะ
ครั้นเทพโอสิริส ผู้เป็นพระบิดาได้ถูกเทพเซธผู้เป็นอนุชาสังหารแล้ว ก็ได้ไปเป็นผู้พิพากษาอยู่ในดินแดนปรโลก ครั้งหนึ่งในระหว่างการต่อสู้ของ เทพฮอรัสกับเทพเซธ เทพฮอรัส ได้เกิดเพลี่ยงพล้ำโดนเทพเซธ ควักดวงตาข้างซ้ายของ เทพฮอรัส ออกไป โดยตำนานว่าไว้ว่า ดวงตาข้างซ้ายของเทพฮอรัส คือพระอาทิตย์ ส่วนดวงตาข้างขวาคือดวงจันทร์ เมื่อ เทพเซธ ควักดวงตาซ้ายของเทพฮอรัสที่เปรียบดั่งพระอาทิตย์ออกไป จึงทำให้ทั้งดินแดนไอยคุปต์กลับมืดมิดไปในทันใด แต่ทว่า เทพฮอรัส อยู่อย่างทุกข์ทรมาณได้ไม่นาน ดวงตาพระอาทิตย์ของเทพฮอรัส ก็ได้ถูกฟื้นฟูโดย เทพีฮาธอร์ ผู้เป็นชายาของเทพฮอรัส ช่วยรักษาจนดวงตาข้างซ้ายกลับมาดีดังเดิม เทพฮอรัส ได้นำดวงตาอันวิเศษเป็นตำนานนี้ ไปมอบให้แด่ เทพโอซิริส ผู้เป็นพระบิดา เพื่อให้ดวงตานั้นฟื้นฟูพลังชีวิตของบิดาตน แม้เทพีไอซิส รวมทั้งเพื่อนสนิท และเทพฮอรัส ผู้เป็นโอรส จะไปช่วยให้ฟื้นขึ้นมาจากปรโลก ทว่าเทพโอสิริสก็เต็มใจที่จะเป็นผู้พิพากษาในปรโลกมากกว่าจะกลับมาบนโลกมนุษย์อีกแล้ว
จากนั้น เทพฮอรัส ได้ต่อสู้ทำสงครามกับเทพเซธผู้เป็นอา จนสามารถเอาชนะ และทวงคืนราชบรรลังก์อันเป็นของพระองค์โดยชอบธรรมกลับคืนมาได้ ซึ่งนั่นทำให้ดินแดนไอยคุปต์กลับมาสว่างสดใสได้อีกครั้ง ชาวอียิปต์จึงถือได้ว่า เทพฮอรัส เป็นผู้นำดวงตาวิเศษ มามอบความสงบและสันติสุขกลับคืนสู่ดินแดนไอยคุปต์ ชาวอียิปต์เปรียบพระองค์เป็นดั่ง “ฟาโรห์ผู้ปกครองไอคุปต์” ให้สงบสุขเป็นเวลายาวนานมาอีกหลายร้อยปี ด้วยตำนานดังกล่าว สัญลักษณ์รูปตาที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆ ในศิลปะของอียิปต์นั้น คือ “ดวงตาของฮอรัส” (The Eye of Horus) ที่มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเสียสละ การฟื้นฟู ความสงบ สันติ และการปกป้อง นั่นเอง “ดวงตาแห่งฮอรัส” มีลักษณะคล้ายดวงตามนุษย์แต่มีหางตาอย่างเหยี่ยว ตามลักษณะพระเศียรของเทพฮอรัส บ้างก็ปรากฏหยดน้ำตาบริเวณด้านล่างของดวงตาด้วย คาดว่าเป็นดวงตาข้างซ้ายของ เทพฮอรัส ที่เคยถูกเทพเซธ ควักออกไปนั่นเอง
สายมู’ ทางตะวันตก เชื่อกันว่า “ดวงตาของฮอรัส” (Eye of Horus) เป็น “เครื่องลาง” ที่มีพลังในการรักษา และป้องกันการเสื่อมสลายของศพฟาโรห์ และมัมมี่ และยังใช้เพื่อป้องกันโรคสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ และในช่วงประวัติศาสต์ยุคกลาง และอาณาจักรกลาง นักโบราณคดีพบว่าศพมัมมี่ส่วนมากจะหันไปทางซ้าย และภาพ ดวงตาของฮอรัส ทั้งคู่มักจะวาดหรือแกะสลักไว้ทางด้านซ้ายของโลงศพ โดยแสดงถึงว่าดวงตาฮอรัสนี้ จะใช้เป็นหน้าต่างสู่โลกภายนอกให้กับมัมมี่ในโลงศพ อีกทั้งดวงตานี้ยังมีหน้าที่ปกป้องมัมมี่ ให้ปลอดภัยจะอันตรายใด ๆ จนกว่าดวงจิตของฟาโรห์ จะกลับคืนสู่ร่างได้อีกครั้ง
การใช้สัญลักษณ์รูป ดวงตาของฮอรัส นี้ ในอียิปต์มีความเชื่อและศรัทธามาก และแสดงออกค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดจากตำนานเก่าแก่แห่งดินแดนไอยคุปต์ มีความเชื่อว่า “ดวงตาของฮอรัส” เป็นเครื่องลางศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถป้องกันความชั่วร้าย มนต์ดำ และสิ่งอัปมงคลได้ จากการที่นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ได้พบ The Eye of HORUS ในลักษณะ ภาพแกะสลักบนผนัง ภาพวาดบนโลงศพ ในสุสาน ปิรามิด เครื่องประดับต่าง ๆ ของมัมมี่ฟาโรห์ และรอยสลักที่ทำขึ้นในสถานที่ฝังศพของมัมมี่ เป็นลักษณะเพื่อการป้องกันสิ่งชั่วร้าย “ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของฮอรัส” นี้ ได้ถูกพรรณนาไว้อย่างมากมาย ในฐานะสัญลักษณ์แห่งพลังของผู้กล้า ปกป้อง คุ้มครอง เทพแห่งแสงสว่าง ความหวัง และชัยชนะ “ดวงตาของเทพฮอรัส” จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของการถวายการบูชาและปกป้องได้
ทุกวันนี้ ใครที่เป็น สายมู’ ตัวจริงที่แท้ True จะต้องมี “The Eye of HORUS” ไว้ติดตัวกันนะคะ เพราะมีความเชื่อว่าสัญลักษณ์นี้ คือ “ดวงตาที่สาม” ซึ่งรูปแบบของดวงตาของฮอรัส มีทั้งเป็น อัญมณี จี้ห้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และเครื่องประดับต่างๆ และได้กลายเป็นรอยสักที่ได้รับความนิยมของหนุ่มสาว “ชาว Tattoo” ซึ่งมีความเชื่อว่าดวงตาของฮอรัส จะช่วยรักษา ปกป้อง คุ้มครองสายมู’ จากสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และได้รับชัยชนะ เสมือนมีเทพฮอรัสผู้ฉลาดหลักแหลม ที่มีดวงตาที่มองทะลุได้อย่างรู้แจ้งเห็นจริงคอยช่วยเหลือไว้นั่นเอง ทั้งนี้ “ดวงตาแห่งฮอรัส” ยังได้รับการเปรียบว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรอบรู้ สุขภาพดี และความมั่งคั่ง มีพลังอำนาจที่ส่งผลต่อการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับโลกที่ไม่มีความมั่นคง และช่วยแก้ไขสิ่งที่ไม่เที่ยงธรรมอีกด้วย และยังถูกใช้เป็น “สิ่งบูชาถึงพ่อ” ที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อ เทพโอสิริส ผู้เป็นพระบิดาของ เทพฮอรัส นั่นเองค่ะ
ตำนานของ “เทพฮอรัส” เจ้าของ “The Eye of Horus” ผู้เป็นต้นกำเนิดของฟาโรห์
ยังมีต่อให้สายมู’ ได้ “จันทร์รู้เรื่อง” กันอีกนะคะ พบกันจันทร์หน้าค่ะ
____________________________________________________________________________________
อ่านบทความอื่น ๆ
“จันทร์รู้เรื่อง” เทพแห่งการจุติและอมตะ
“จันทร์รู้เรื่อง” กำเนิดโลก กำเนิดเทพ
“จันทร์รู้เรื่อง” ไปเที่ยวทิพย์ ดู “มัมมี” กันเถอะ
You must be logged in to post a comment Login