โดย ผศ. เยาวนาถ นรินทร์สรศักดิ์
ตำนานเทพเจ้าของอียิปต์ มีหลากหลายตำนานแตกต่างกันไปตามความเชื่อของแต่ละเมือง แต่ละถิ่น แต่ละยุค ในจันทร์นี้ อ.นาถ ขอมาเล่าเรื่อง “กำเนิดโลก กำเนิดเทพ” เป็นความเชื่อที่อยู่ใน ยุคโบราณของอียิปต์ใต้ ตามตำนานของ “เฮลิโอโพลิส” (Heliopolis) ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ นะคะ
ตำนาน “เฮลิโอโพลิส” กล่าวไว้ว่า แต่เดิมก่อนที่สรรพสิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมา โลกของเราเป็นเพียงผืนน้ำว่างเปล่าทั้งผืนโลก ซึ่งในตำนานเรียกผืนน้ำนั้น ว่า “นุน” (NUN) ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นผืนน้ำที่มีความสับสนวุ่นวายมากๆ เลยค่ะ อยู่มาวันหนึ่ง อภินิหารแห่งเทพและเทวาของอียิปต์ก็เริ่มขึ้น แล้วค่ะ …มีไข่ใบนึงจุติขึ้นกลาง นุน และลอยเท้งเต้งอยู่ใน นุน ไม่นานนัก เปลือกไข่ฟองนั้นก็ปริแยกออก มีผืนดินไหลแผ่ออกมาจากไข่ใบนั้นกลายเป็นเกาะเล็กๆ จึงนับได้ว่าเป็นผืนดินผืนแรกของโลกบนพื้นน้ำ “นุน” ตามความเชื่อของการกำเนิดโลกของแต่ละชาติ แต่ละทวีป แต่ละศาสนา ดูจะมีความเป็นมาคล้ายๆ กัน เช่น ในทางพระพุทธศาสนาของเรา ก็มีเรื่องการกำเนิด “วุ้น” จากพื้นน้ำ เป็นจุดกำเนิดแรกๆ ของโลกและเกิดสิ่งมีชีวิตบนโลก เช่นกัน
นุน NUN
จากตำนานที่เล่าขานกันมา เมื่อ “นุน” กำเนิดเป็นผืนดินขึ้นมา ได้มีเทพองค์หนึ่ง ชื่อว่า “อตุม Atum” กำเนิดเกิดขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้ด้วย “เทพอตุม (Atum)” ตามตำนานของ “เฮลิโอโพลิส” ถือเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ค่ะ (อย่างไรก็ตามเรื่องราวเกี่ยวกับเทพของอียิปต์ ก็จะมีเทพองค์หนึ่งซึ่งเป็นสุริยเทพที่โด่งดังกว่านั้นก็คือ สุริยเทพ “รา” นั่นเอง ซึ่งต่อมาชาวอียิปต์ก็ถือว่า “รา” เป็นเทพของดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ในขณะที่ “อตุม” จะเป็นดวงอาทิตย์ในเวลากลางคืนค่ะ)
เทพ อตุม (Atum)
จากนั้น เทพอตุม ผู้เดียวโดดเดี่ยวบนผืนดินท่ามกลางนุนที่เวิ้งว้าง มีความเหงาเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ เทพอตุม จึงได้สร้างลูกของตนเอง ซึ่งจุติขึ้นจากของเหลวของตนเอง (อาจจะเป็นเลือด น้ำตา ของเทพอตุมก็ได้นะคะ ห้ามคิดมาก) จากนั้นก็ได้ก่อกำเนิดเทพ 1 องค์ ชื่อ “เทพชู Shu” และเทพี อีก 1 องค์ ชื่อ “เทฟนุต Tefnut” ค่ะ ซึ่งเทพชู Shu เป็นตัวแทนของอากาศ ส่วน เทพีเทฟนุต เป็นเทพีแห่งฝนและความชุ่มชื้นค่ะ ทั้งเทพชูและเทพีเทฟนุต ก็ได้มาเติมเต็มให้ อตุม ได้มีความสุขอยู่ผืนดินบนเกาะกลางนุน
เทพชู และ เทพีนุต (Shu & Nut)
อยู่มาวันหนึ่ง เทพชูและเทพีเทฟนุต ขณะที่เดินอยู่ริมตลิ่ง ปรากฏว่า เทพและเทพี ทั้งสองตกลงไปในน้ำ และจมหายลงไปท่ามกลางสายน้ำนุน รอบเกาะ เทพอตุม ตกใจมากแต่ไม่สามารถติดตามหาลูกทั้งสองได้ ด้วยความเป็นเทพผู้สร้างของอตุม จึงได้ควักลูกตาทั้งสองข้างของตนเอง แล้วเสกให้เป็น “ดวงตาวิเศษ” เพื่อให้ตามหาลูกทั้งสองจนได้พบ เทพชูกับเทพีเทฟนุต และนำกลับมาที่เกาะได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่า ดวงตาวิเศษ ที่ได้ตามหาลูกของ เทพอตุม กลับมาให้นั้น ได้พบว่า เทพอตุมได้เนรมิตดวงตาใหม่ให้กับตัวเองเสียแล้ว ดวงตาวิเศษ จึงน้อยใจว่าตนเองคงจะหมดประโยชน์เสียแล้ว เทพอตุม ล่วงรู้ได้ความรู้สึกของดวงตาวิเศษจากจิตสัมผัสของตนเอง จึงเสกให้ดวงตาคู่เดิมนั้น กลายร่างเป็น งูที่สวยงาม แล้วให้งูนั้นมาเป็น มงกุฏพันรอบศรีษะ ของตนเอง เพื่อแทนดวงตาที่ 3 บนหน้าผาก มีชื่อว่า ยูเรอัส (Uraeus) ซึ่งเราจะพบเห็นอยู่บ่อยๆ จากรูปปั้นกษัตริย์ฟาโรห์ หรือภาพแกะสลัก ภาพวาดตามผนังถ้ำ จะมีมงกุฏหรือมีรูปงู ชูคออยู่ตรงหน้าผาก

จากการที่อยู่บนเกาะอย่างมีความสุข เทพชูและเทพีเทฟนุต ได้สมรสกันและได้ให้กำเนิดพระโอรสและพระธิดา คือ เทพเก๊บ (Geb) เป็นเทพแห่งพื้นแผ่นดิน และเทพีนูต (Nut) เป็นเทพีแห่งท้องฟ้า ต่อมาทั้งสองได้ให้กำเนิด ทั้งโอรสและธิดา เป็นดวงดาวต่างๆ มากมาย แต่วันหนึ่ง เทพีนูตผู้เป็นพระมารดา เกิดรู้สึกรำคาญ หงุดหงิดกับลูกๆหมู่ดาวทั้งหลาย จึงกลืนกินลูกทั้งหมดเก็บเข้าไปไว้ในร่างกาย เมื่อเทพเก๊บทรงทราบ ก็พิโรธ เทพีนูต ผู้เป็นมเหสีมาก ทำให้เทพีนูตเกิดความกลัวเทพผู้เป็นสวามี จึงซ่อนตัวเองโดยการยืดวรกายออก และโก่งตัวครอบแผ่นดินเอาไว้ โดยมีลูกๆ ที่เป็นดาวอยู่เต็มท้อง ส่วนเทพเก๊บ ผู้ซึ่งเป็นเทพแห่งพื้นแผ่นดิน ก็ได้ทอดวรกายลงแล้วแหงนหน้าขึ้นบนฟ้า เพื่อตามหาลูก และได้พบลูกๆของตนเองเป็นดวงดาวที่สวยงามที่กระจายอยู่เต็มท้องฟ้า ซึ่งอยู่ในท้องของ เทพีนูตนั่นเอง โดยมี เทพชู ผู้เป็นบิดา ยืนยกแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นค้ำลำตัวของเทพีนูตไว้ คอยห้ามไม่ให้ลูกทั้งสองทะเลาะกัน เปรียบเสมือน เทพชู ผู้เป็นบิดาเป็นอากาศ ที่อยู่ระหว่าง เทพีนูต เป็นท้องฟ้าประดับดาว ส่วนเทพเก๊บ ก็เปรียบเสมือนแผ่นดินที่รองรับท้องฟ้า เอาไว้ค่ะ….

ตำนาน “เฮลิโอโพลิส” ได้กล่าวว่า เทพเก๊บและเทพีนูต ได้ให้กำเนิดพระโอรสและพระธิดา รวมทั้งสิ้น 4 พระองค์ คือ เทพโอสิริส เทพไอซิส เทพเซต และเทพีเนฟทิส ซึ่ง อ.นาถ จะนำมาเล่าความเป็นมา ของเทพแต่ละองค์ ในจันทร์ต่อๆ ไป นะคะ
เรียบเรียง และวาดภาพประกอบ : ผศ.เยาวนาถ นรินทร์สรศักดิ์
_______________________________________________________________________
อ่านบทความอื่น ๆ
“จันทร์รู้เรื่อง” ไปเที่ยวทิพย์ ดู “มัมมี” กันเถอะ
“จันทร์รู้เรื่อง” สุนทรียศาสตร์ ลัทธิ และความเชื่อทางศิลปะตะวันตก
มูทั้งที ต้องปัง ๆ กันทุกคน
หมาสุดโหด ตามตำนานโบราณ
You must be logged in to post a comment Login