Connect with us

Lifestyle

ข้อควรรู้ของอาหารที่เหมาะกับน้องหมา

Published

on

โดย น้องบลาบลาบู๋ว์

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า การเลี้ยง ดูแลสุนัขนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ต้องใส่ใจน้อง มีเวลาให้ มีทุนทรัพย์ และต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ไอ้ต้าวของเราอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ นั่นก็คือการเลือกอาหารค่ะ แต่อาหารสำหรับสุนัขเองก็มีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ แล้วมันต่างกันยังไง เราควรจะเลือกอาหารแบบไหนให้น้องหมาของเรา วันนี้น้องบลาบลาบู๋ว์จะพามาไขข้อสงสัยนี้กันค่ะ กับ ให้ต้าวสี่ขากินอาหารเม็ด อาหารเปียก หรือบาร์ฟดีนะ

            ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนว่า อาหารเม็ด อาหารเปียก และบาร์ฟต่างกันยังไง เผื่อมีพี่ ๆ บางคนยังไม่เข้าใจ อาหารเม็ดก็คืออาหารที่เป็นเม็ดแห้ง ๆ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ สามารถพบเห็นได้บ่อยตามโฆษณาต่าง ๆ มีหลายเกรด หลายแบรนด์ให้เลือก ส่วนอาหารเปียกคืออาหารอาหารสุนัขที่มีน้ำผสมอยู่ในปริมาณมาก  โดยจุดเด่นของอาหารเปียก คือเนื้อหรือรสสัมผัสจะดีกว่าอาหารเม็ด ส่วนบาร์ฟ คืออาหารสด เช่นโคร่งไก่บดสด เนื้อวัวสด ปลาดิบ หรือไข่ดิบเป็นต้น โดยอาจจะมีผักสดผสมอยู่ด้วยคร่าาาา

            แล้วเราควรเลือกแบบไหนกันล่ะ นี่เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ตายตัวค่ะ มันขึ้นอยู่กับตัวทาสเลย โดยอาหารเม็ดจะสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่า เก็บรักษาง่ายกว่า เก็บได้นานกว่า และที่สำคัญ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเน่าเสียของอาหารค่ะ สามารถเทอาหารทิ้งไว้ได้นาน แถมอาหารเม็ดยังช่วยพัฒนากรามและการขบเคี้ยวของสุนัข รวมไปทึงทำให้ฟันแข็งแรงอีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือ อาหารเม็ดมีความน่ากินน้อยกว่าอาหารเปียก ด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของตัวอาหาร ทำให้อาจไม่เหมาะสำหรับเจ้านายที่ขี้เบื่ออาหาร และเจ้านายที่กำลังไม่สบาย หรือมีปัญหาในช่องปากและกราม

            มาที่อาหารเปียกกันบ้าง อาหารเปียกจะได้เปรียบตรงที่รสสัมผัสและกลิ่นที่ได้บอกไปข้างต้น เนื่องจากอาหารเปียกส่วนมาจะทำมาจากเนื้อสัตว์จริง ๆ จึงทำให้อาหารเปียกกินง่ายกว่า มีรสสัมผัสที่อ่อนนุ่มละมุนปาก ทำให้เหมาะกับน้องหมาที่มีอายุมาก หรือมีปัญหาเรื่องฟันและช่องปาก เหมาะกับสุนัขที่กำลังป่วยเป็นอย่างดีด้วยค่ะ

แต่ถึงกระนั้นก็อย่าเพิ่งคิดว่าอาหารเปียกมีแต่ข้อดีนะ เพราะถ้าเราให้อาหารเปียกกับสุนัขติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เจ้านายสุดที่รักของเรามีปัญหาในช่องปากได้ ทั้งเรื่องของกราม เพราะสุนัขจะแทบไม่ได้เคี้ยวอาหารเลย โดยเฉพาะเจ้านายตัวน้อยที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นานนัก การให้อาหารเปียกกับน้องในทุก ๆ มื้อจะทำให้กรามของน้องไม่พัฒนา และทำให้มีปัญหาในที่สุดค่ะ อีกเรื่องที่อาหารเปียกเสียเปรียบอาหารเม็ดก็คือ อาหารเปียกเมื่อเปิดหรือแกะซองออกมาแล้ว จะเก็บได้ไม่นาน โดยหากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องจะสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ทำให้ต้องเก็บในตู้เย็น ซึ่งนั่นหมายความว่าวิธีการเก็บรักษา หลังจากเปิดซองบรรจุภัณฑ์จะยุ่งยากกว่าอาหารเม็ด โดยไม่การันตีว่าเจ้านายของเรา จะยอมรับอาหารค้างคืนนี้ได้หรือไม่ และในด้านของราคาอาหารเปียกเองมีราคาที่สูงกว่าอาหารเม็ดอีกด้วย

และสุดท้าย บาร์ฟ ถือเป็นอาหารที่ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษของน้องหมาที่สุด จึงทำให้ฟัน เหงือกและกระดูกของน้องหมาแข็งแรง น้องหมาได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ลดปัญหากลิ่นปากได้ ช่วยบำรุงผิวหนังและขนได้เป็นอย่างดี ช่วยให้อึเป็นก้อน และมีกลิ่นที่ไม่รุนแรงด้วยค่ะ ที่สำคัญ มั่นใจได้เลยว่า ไม่มีสารกันบูดหรือการแต่งกลิ่นแต่งสีแน่นอนนนน

ขอเบรกก่อนค่ะ ใช่ว่าบาร์ฟจะมีแต่ข้อดี พอเป็นของสด เรื่องความสะอาดต้องมาเป็นอันดับแรก ทั้งความสดใหม่ ทั้งพยาธิ การจัดเก็บและเตรียมให้น้องหมากินก็ยุ่งยาก  แถมต้องคำนวนปริมาณ และสัดส่วนโภชนาให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อให้ถูกต้องด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำให้น้องหมาขาดสารอาหารได้ ซึ่งนั่นหมาถึงค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย และไม่ควรให้น้องหมาที่ป่วยกินบาร์ฟนะคะ

จากที่น้องบลาบลาบู๋ว์เล่ามา พี่ ๆ คงจะพอเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะ ว่าเราควรให้ไอ้ต้าวของเรากินอาหารแบบไหนดี โดยทั้งอาหารเม็ด อาหารเปียก และบาร์ฟต่างก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่ต่างกัน สุดท้ายก็ขึ้นอยู่ที่ตัวพี่ ๆ เอง ว่าจะให้เจ้านายสี่ขาสุดที่รักของเรากินอาหารแบบไหน แต่ที่สำคัญคือ การให้น้องหมาของเรากินอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน สะอาด และที่สำคัญ ให้กินในปริมาณที่พอดี ไม่อย่างนั้นน้อง ๆ อาจจะเป็นโรคอ้วนได้ค่ะ

______________________________________________________________________________

อ่านบทความอื่น ๆ

โรคอ้วนในสุนัข อันตรายแค่ไหน จัดการอย่างไรดี

รู้นิสัยทาส จากการเลี้ยงเจ้านาย (ภาค1)

รู้นิสัยทาส จากการเลี้ยงเจ้านาย (ภาค2)

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: