หลังจากที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงข่าวเปิดตัวนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนา เพื่ออาสาทำหน้าที่กอบกู้และแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ โดยยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการควบรวมพรรค
โดยนายสุวัจน์ ระบุว่าพรรคชาติพัฒนาต้องการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ทั้งด้านนโยบายและผู้สมัคร โดยมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญกับการแก้ปัญหาของประเทศ และในขณะนี้ถือว่าประเทศกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตที่สุด โดยเฉพาะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จึงต้องการมืออาชีพด้านเศรษฐกิจมาทำงานเพื่อแก้ปัญหาและกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ชักชวนนายกรณ์ มาร่วมมือกันทำงานเพื่อชาติ
ส่วนเรื่องที่จะชู นายกรณ์ เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้มองจุดนั้น ตำแหน่งในอนาคตค่อยว่ากันอีกที ให้เป็นไปตามจังหวะทางการเมือง
ส่วนอนาคตจะมีการร่วมทำงานทางการเมืองกับ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน วันนี้ขอเริ่มทำงานกับนายกรณ์ก่อน
ทางด้านนายกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน พรรคการเมืองมีส่วนสำคัญในการทำงาน ซึ่งเป้าหมายของตนต้องการช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้อง ช่วยสร้างโอกาสและความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ และได้มีการหารือกับนายสุวัจน์ และการตัดสินใจของตนที่จะจับมือกัน เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และเชื่อว่า เมื่อจับมือกันจะมีโอกาสช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น และจากนี้ไปจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้มาในนามส่วนตัว
ส่วนจะลาออกจากหัวหน้าพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า เรื่องเกี่ยวกับพรรค ต้องมีกระบวนการที่จะพิจารณาตามขั้นตอนของกฏหมายพรรค
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ณ ที่ทำการของพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ได้แถลงข่าวภายหลังจากที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคกล้า ไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาว่า “ตนกับนายกรณ์รู้จักกันมานาน รู้จักกันดี นายกรณ์เป็นคนมีความมุ่งมั่น มีความคิดอยากเห็นการเมืองที่ดีขึ้น และยังมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นอยู่ซึ่ง นายกรณ์ และพี่ๆน้องๆพรรคกล้า มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่นายกรณ์เลือกทำอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย คือลาออกจากพรรคและไปสมัครพรรคใหม่โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้า ติดตามไปด้วย
นายอรรถวิชช์ กล่าวถึงการจะปรับโครงสร้างต่างๆ ในส่วนของพรรคชาติพัฒนา ว่า เป็นส่วนของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคฯ และสมาชิกพรรคฯ ส่วนตนยังสังกัดพรรคกล้า จะไปข้องเกี่ยวไม่ได้ กฎหมายพรรคการเมืองก็ระบุไว้ชัดเจน โดยตนก็ยังต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคกล้า เพื่อจัดประชุมใหญ่พรรคในเดือนนี้ให้แล้วเสร็จ
“ขอยืนยันกับสมาชิกพรรคกล้าว่า เรายังมีอุดมการณ์เหมือนเดิม ความสำคัญของพรรคการเมืองคือคน วิญญาณของความกล้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ต้องเข้าใจว่ากฎหมายไม่ได้เปิดทางให้พรรคการเมืองควบรวม พรรคกล้ายังคงเป็นพรรคกล้าอยู่ ยืนยันคุณกรณ์ไม่ใช่คนทิ้งเพื่อน และทุกการเปลี่ยนแปลงมีผลทั้งนั้น เรายืนยันตามความตั้งใจเดิม พวกเราเข้มแข็งขึ้นแน่นอน เราทำอย่างตรงไปตรงมา ตามทุกขั้นตอนของกฎหมาย สิ้นเดือนนี้จะชัดเจน” นายอรรถวิชช์ กล่าว