ลักษณะอากาศทั่วไป
หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ประกอบกับลมตะวันออก
และลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง
ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก
ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบน
มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 1-2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน
แผ่ปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าว
อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ ภาคกลาง
ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง
เกิดขึ้นได้บางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ
เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสม
ของฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีลมแรงขึ้น
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
ตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก
กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมาบุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมาก
บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา :
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ออกประกาศ : 3 เมษายน 2565 เวลา 05:00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา