Connect with us

Politics

“เพื่อไทย” เปิดตัว ส.ก. 50 เขต สู้ศึกเลือกตั้ง

Published

on

“เพื่อไทย” เปิดตัว ส.ก. 50 เขต ชู 5 นโยบายหลักมัดใจคนกรุง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พรรคเพื่อไทย เปิดตัวนโยบาย กทม. และผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคทั้ง 50 เขต ภายใต้แคมเปญ “BANGKOK BLING กรุงเทพฯ มั่งคั่ง” โดยนโยบายของจะสะท้อนให้เห็นภาพว่าการเลือกพรรคเพื่อไทย คือการเลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้กับคน กทม. โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค / นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค / นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง /
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก. / นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค / นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค / นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์ รวมถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัฒกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย /ไปจนถึง ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมงาน ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้มข้น ทั้งการตรวจ ATK ก่อนเข้างาน

โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวบนเวทีบอกครั้งนี้เป็นโอกาสของคน กทม.ที่จะมีโอกาสเลือกผู้ว่า กทม. และ ส.ก. ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งครบทั้ง 50 เขต เพราะเห็นความสำคัญของคน กทม. เพราะ ส.ก.ทั้ง 50 คนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของคนกรุงเทพฯ เนื่องจากเงินงบประมาณ 1 แสนล้าน อยู่ที่การอนุมัติของสภากรุงเทพมหานคร ดังนั้นจึงมีความสำคัญในการตรวจสอบควบคุม เสนอแนะ ฝ่ายบริหารของ กทม. ซึ่งผู้สมัครทั้ง 50 คน เป็นบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกคัดสรรมาอย่างดี มีทั้งอดีต ส.ก. และ ส.ข. ซึ่งมีประสบการณ์ บุคลากรการทำงานในพื้นที่อย่างเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังได้คนรุ่นใหม่ ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานเพื่อคน กทม. เลือกพรรคเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้กับคน กทม. เพื่อผลักดันนโยบายกรุงเทพมั่งคั่ง ผ่าน 5 นโยบายหลัก ได้แก่

30 บาท ถึงที่หมาย : ผลักดันให้กระทรวงคมนาคมบริหารจัดการรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟลอยฟ้า หน่วยงานเดียว เพื่อการบริหารค่าโดยสารที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย เสียค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว ผู้โดยสารจะเข้ามาใช้งานมากขึ้น ทำให้ค่าตั๋วโดยสารถูกลงด้วย

50 เขต 50 โรงพยาบาล : ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขที่มีอยู่แล้วเขตละ 1 แห่ง หรือสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาด 120 เตียง ที่สามารถดูแลประชาชนเบื้องต้นแบบครบวงจร โดยให้ กทม. รับงบประมาณกองทุนประกันสุขภาพจำนวน 15,000 ล้านบาท มาบริหารจัดการเอง

437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้ : เปิดพื้นที่โรงเรียนในสังกัด กทม. 437 แห่ง ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ให้เป็นพื้นที่ของงาน เงิน และอนาคต ทั้งการศึกษาในระบบ โดยเพิ่มการเรียนภาษาที่ 2 อังกฤษและจีน เพิ่มทักษะคอมพิวเตอร์และโปรแกรมมิ่ง เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีทักษะความรู้ในโลกสมัยใหม่ รวมทั้งการศึกษานอกระบบ ต้องทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Maker space) โดย กทม. มีหน้าที่สนับสนุนงบประมาณ จัดจ้างครู อุปกรณ์ เช่น การทำอาหาร ตัดเย็บเสื้อผ้า โรงถ่ายหนัง มาสร้างสรรค์งานร่วมกัน จนเกิดเป็นสตาร์ทอัพ

กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท : ทุกชุมชนใน กทม.ไม่เกิน 6,000 แห่ง ชุมชนแออัด หมู่บ้าน และคอนโด ต้องได้รับงบประมาณ 200,000 บาทต่อปี ให้แต่ละชุมชนนำเสนองบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่ผ่านเขตของตนเองได้ โดยจะมีคณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งภายในชุมชน มีผลงานชัดเจนจากการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมาแล้ว มาร่วมตัดสินใจใช้งบประมาณแบบมีส่วนร่วม

50 เขต 50 ซอฟต์พาวเวอร์ : คนชุมชนหรือย่านนั้น จัดงานแสดงศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร แฟชัน ดนตรี โดยคนในท้องถิ่นที่จะสามารถออกแบบอีเวนต์เพื่อดึงดูดเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างเงินด้วยตนเอง กรุงเทพฯ จะไม่หลับใหล เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง สร้างงาน สร้างเงินให้กับประเทศ

ขณะเดียวกันภายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. นางสาวแพทองธาร ได้ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชน บอกยืนยันจะลงพื้นที่ช่วยว่าที่ผู้สมัครทุกคน แต่หลังจากนี้ขอเคลียร์ตารางงานก่อน รวมถึงการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพื่อรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยด้วย

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: