สามารถ ฉะ พิธา ยึดแต่กฎกู ยัน ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจเต็มที่จะยุบพรรคก้าวไกล ลั่น! ต้องยุบทิ้ง ไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการการแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวแนวทางการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล 9 ข้อ โดยอ้างว่า ศาลรัฐธรรมนูญ(รธน.)ไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลนั้น
ตนขอบอกว่าชาวบ้านฝากมาบอกว่า นายพิธารู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องจริง หรือค้านทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง และเป็นคนประเภทที่ว่า“ยึดแต่กฎของกู ถ้ากูได้ประโยชน์ กูเอา ถ้าเสียประโยชน์ กูด่า”ตนขอย้อนไปตอนที่ ศาล รธน.วินิจฉัยเรื่องการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ที่ศาลระบุว่า นายพิธาไม่มีความผิด และนายพิธาออกมาแถลงขอบคุณ ศาล รธน.แต่พอวันนี้จะถูกยุบพรรคก็ออกมาบอกว่า ศาล รธน.ไม่มีอำนาจ
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาศาล รธน.ได้วินิจฉัยยุบพรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหมือนเช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล และไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเอามาตรา 112 มาหาเสียง เพราะทุกคนรู้ว่า สถาบันนั้นทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง
ซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุเอาไว้ชัดเจน และ ในมาตรา 50 ระบุเรื่องหน้าที่ของปวงชนชาวไทยชัดเจนว่า ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะทำคือ ให้คนมาด่าสถาบัน ลดโทษในดคีอาฆาต มาดร้าย ดูหมิ่นสถาบัน และต้องให้สถาบันเป็นผู้ฟ้อง ซึ่งการกระทำเช่นนี้คือ การหวังจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการเมืองไทย
“การกระทำของพรรคก้าวไกล สส.ในพรรคไม่ควรที่จะได้เป็น สส.แม้แต่วันเดียว และแทนที่จะสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ กลับออกมาตั้งโต๊ะแถลงว่า ศาล รธน.ไม่มีอำนาจยุบพรรค การยุบพรรคก้าวไกลในครั้งนี้เป็นเพราะการกระทำผิดที่รุนแรงมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบเพราะการทำผิดระเบียบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ ไม่ใช่ข้อหาล้มล้างการปกครองเหมือนครั้งนี้ ตอนนั้นนายพิธาไปนอนหลับอยู่ที่ไหน หรือยังไม่มีคนเขียนโพยให้อ่าน“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทั้ง 44 คนที่เซ็นชื่อยื่นแก้ไขมาตรา 112 กกต.ก็เองได้ส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้ ศาล รธน.วินิจฉัยด้วย ซึ่งที่ผ่านมา การไปยืนชู 3 นิ้ว ปปช.ยังตัดสินว่า น่าจะผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ตนอยากจะปลุกสติว่า คนรุ่นใหม่จำนวนมากยังรักและปกป้องสถาบัน ซึ่งตนได้พูดคุยกับคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่เข้าใจว่า จะไปทำเรื่องมาตรา 112 ทำไม เพราะสถาบันอยู่เฉย ๆ ไปยุ่งทำไม แกนนำคนรุ่นใหม่เขาบอกเลยว่า เขาไม่เอาด้วย เขาผิดหวังในการเลือกพรรคก้าวไกล ตนถึงบอกว่า ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองต้องทำตามหน้าที่ ไม่ใช่ปล่อยให้สังคมแตกแยก ปล่อยให้คนที่ไม่รู้ออกมาพูดอะไรมั่ว ๆ
ตนว่าประเทศสะเทือน ตนจึงฝากให้ ศาล รธน.รีบยุบพรรคการเมืองแบบนี้ในวันพุธที่ 12 มิ.ย.นี้ มะเร็งเวลาตรวจเจอเขาให้ทำลายทิ้ง เช่นพรรคการเมืองที่มีเจตนาทำลายระบบสถาบันก็ต้องยุบทิ้ง ไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง