เทพไท เย้ย! เพื่อไทย – ก้าวไกล ตีกันเอง เพราะอะไร !!

เทพไท วิเคราะห์ เพื่อไทย ก้าวไกล ขัดแย้ง เพราะแย่งตลาดมวลชนกลุ่มเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวมีข้อความว่า ผมเห็นความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล มาหลายครั้ง แม้ว่าทั้ง 2 พรรคจะมีจุดยืนและอุดมการณ์เดียวกัน หรือที่เรียกตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะเดียวกัน และมีฐานมวลชนกลุ่มเดียวกัน แต่ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหว หรือดีกรีทางการเมืองของทั้ง 2 พรรค ไม่เท่ากัน จึงทำให้มีการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองกัน ตลอดเวลา

โดยภาพรวม พรรคก้าวไกล มีดีกรีความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นกว่า ทำให้ตลาดกลุ่มฮาร์ดคอร์ หันมาสนับสนุนอย่างหนาแน่นมาก จนทำให้พรรคเพื่อไทยต้องปรับขบวนกันอย่างเป็นพัลวัน เพื่อไม่ให้เสียงตลาดมวลชนที่เป็นฐานเสียงเดิมของพรรคไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าทีต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มมวลชน ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่า จะเป็นกลุ่มประชาชนไม่ทน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง กลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากนายกรัฐมนตรี 2.ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้ง สสร. และแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ไม่มีข้อยกเว้น 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

แต่ท่วงทำนองและท่าทีของพรรคเพื่อไทย ยอมรับข้อเสนอนี้ได้เพียง 1 ข้อครึ่งเท่านั้นเอง คือ ข้อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีเงื่อนไขไม่แก้หมวดหนึ่งและหมวดสอง คือไม่แตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์

แต่สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองทั้ง 3 ข้ออย่างชัดเจน จึงทำให้มีการแบ่งแยก และแย่งชิงมวลชนที่เป็นฐานเดียวกัน จะเห็นได้ว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคก้าวไกล เกือบทั้งหมด ในขณะเดียวกันมวลชนคนเสื้อแดง หรือกลุ่มนปช. เดิม ก็จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย

เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีการชิงไหวชิงพริบ ชิงเหลี่ยมการเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอย่างชัดเจน นับตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกจนถึง การลงมติโหวตงบประมาณที่ตัดลดไว้ ไปอยู่ในงบกลางของนายกรัฐมนตรี เหตุผลทั้งหมด ก็คือเป็นการเอาใจ และแย่งชิงตลาดมวลชนเท่านั้นเอง