แฟนบอล”สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล มีเฮ กลุ่มทุนจากซาอุฯสามารถบรรลุข้อตกลงในการเข้าเทคโอเวอร์สโมสร จากเจ้าของเดิม

พรีเมียร์ลีก แถลงอย่างเป็นทางการว่ากลุ่มทุนจาก ซาอุดิ อาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์ทีม
“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มทุนจากซาอุฯ เคยติดต่อขอซื้อหุ้นสโมสร”เดอะ แม็กพายส์” นิวคาสเซิ่ล
ด้วยราคาสูงถึง 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,863 ล้านบาท) มาแล้วในช่วงปี 2019
โดยไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีม ได้ยินยอมตกลงขายทีมให้แล้วด้วย แต่ข้อตกลงครั้งนั้นต้องล่มไป
เนื่องจาก ซาอุดิ อาระเบีย มีปัญหาพิพาทกับ บีอิน สปอร์ต เจ้าของลิขลิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล
ในตะวันออกกลาง กรณีที่ ซาอุฯ ไม่สามารถจัดการปัญหาการลักลอบถ่ายทอดสดสัญญาณเถื่อน
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ในประเทศและในภูมิภาคแถบนั้นได้ ทำให้พรีเมียร์ลีก สูญเสียรายได้ก้อนโตไป

แม้ข้อตกลงในครั้งนั้นจะล้มเหลว ราชวงศ์แห่งซาอุดิ อาระเบีย เจ้าของกลุ่มทุน ยังไม่ละพยายาม
ที่จะเข้าซื้อหุ้นของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ให้ได้ โดยมีความพยายามเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยมีให้ลุล่วง
จนในที่สุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ก็มีความคืบซึ่งยืนยันว่า กลุ่มทุนจาก ซาอุฯ ได้รับไฟเขียวจาก
พรีเมียร์ลีก ให้เดินหน้าซื้อขายหุ้นสโมสรได้แล้ว หลังจากสามารถจัดการปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กับ
บีอินสปอร์ต ได้อย่างลุล่วงด้วยดี

ล่าสุดก็มีการยืนยันแล้วว่า พรีเมียร์ลีก,สโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เซนต์ เจมส์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด
สามารถบรรลุข้อตกลงในการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรได้แล้วโดยกลุ่มทุน พีไอเอฟ
(ซาอุดิ อาระเบีย พับบลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์), พีซีพี แคปปิตอล พาร์ทเนอร์
และ อาร์บี สปอร์ตส์ แอนด์ มีเดีย” 

โดยจะมีผลในทันทีพร้อมกันนี้ ทางพรีเมียร์ลีก ได้รับการรับรอง เป็นลายลักษณ์อักษร จากทางกลุ่มทุน
ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายที่กำหนดไว้ว่า กลุ่มทุนจาก ราชอาณาจักร ซาอุดิ อาระเบีย จะไม่เข้ามาครอบงำ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบเบ็ดเสร็จ   

ทางด้าน ฯพณฯ ยาซีร์ อัล-รูไมยาน ประธานกองทุน พีไอเอฟ ซึ่งเข้ามาถือหุ้นของนิวคาสเซิ่ล 80%
และคาดว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่แทน ไมค์ แอชลีย์ ประธานสโมสรคนเดิม
ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ได้กลายมาเป็นเจ้าของใหม่ของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
หนึ่งในทีมฟุตบอลอังกฤษที่มีแฟนมากที่สุด เราขอขอบคุณแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เป็นอย่างสูง ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และเราตื่นเต้นที่จะทำงานไปด้วยกัน กับพวกคุณ”
 

พร้อมกันนี้ อาแมนด้า สตีฟลีย์ ซีอีโอของ พีซีพี แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส ซึ่งอยู่เบี้องหลัง
การเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ให้กับกลุ่มทุนจาก ซาอุดิ อาระเบีย ในครั้งนี้ ก็จะเข้าถือหุ้นของสโมสร
จำนวน 10% ก็ได้ร่วมแถลงข่าวด้วยว่า
“มันเป็นการลงทุนในระยะยาว เราตื่นเต้นสำหรับอนาคตของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด”

 “เราจะทำให้สโมสรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน สร้างความเป็นผู้นำ
ที่จะทำให้ สโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในระยะยาว”

 “ความทะเยอทะยานของเราไม่ต่างอะไรกับแฟนบอล คือสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
ให้กับทีม และโอกาสเข้าแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่สำคัญๆ อย่างสม่ำเสมอ” อาแมนด้า สตีฟลีย์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ หลังการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นลง มีการคาดการกันว่า
สตีฟ บรู๊ซ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ส่อแววว่า อาจจะต้องพ้นจากหน้าที่ในเร็ววันนี้
รวมถึง อาจจะมีการเปลี่ยนตัว ซีอีโอ คนใหม่เข้ามาแทน ลี ชาร์นลีย์ ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลและภาพจาก
Newcastle United FC (@NUFC) / Twitter
Newcastle United – PIF, PCP Capital Partners and RB Sports & Media acquire Newcastle United Football Club (nufc.co.uk)