Connect with us

News

กระทรวงวัฒนธรรมไทย กับกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ เหมือนอยู่ในโลกคนละยุค !!

Published

on

พงศ์พรหม ท้าให้ 1 แสน ทำนาย “Soft Power” ที่บิ๊กตู่ ให้เดินเครื่อง 1 ปี ก็ยังไม่เริ่ม เปรียบกระทรวงวัฒนธรรมไทย กับกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ เหมือนอยู่ในโลกคนละยุค

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพงศ์พรหม ยามะรัต พรรคกล้า ระบุว่า ส่วนตัวจะเขียนเรื่อง Soft power หลังจากเกิดกระแส Lisa แต่เห็นว่าจะดูเหมือนเกาะกระแสมากไป เลยรอให้เว้นช่วงหายร้อนมาซักหน่อย

ขอเน้นว่ายาวนิด ใครสนใจก็อยากให้อ่าน ชีวิตผมดันโผล่เข้าไปอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านพอดี
ผมเอานักร้อง Hip hop ที่ผมชื่นชอบอย่าง DMX, 2Pac, 50 Cent, Notorious B.I.G ยันเก่าสุดๆแบบ MC Hammer มาให้ดูเป็นตัวตั้ง

สมัยมัธยมปลาย 30 กว่าปีก่อน ผมเล่น skateboard กับที และโจอี้บอยที่หน้าเวิลด์เทรด ราชประสงค์ ใช่ครับ พวกเค้าคือแรพเปอร์นักบุกเบิกตัวจริงของไทย ผมชอบ Hip hop แต่ผมไม่เก่งพอจะเป็นศิลปินอย่างเพื่อนๆ วัยเด็กของผม โตมาหน่อยก็ใช้วิธีเปิดเพลง “เอโพด” ของโจอี้ บอย ดังๆ พร้อมเปิดกระจกรถวิ่งอยู่บนถนน
โม้จบ ก็เข้าเรื่องดีกว่า

ยุค 90 กระแสฮิปฮอปไทย เกิดพร้อมเกาหลี ผมไปเรียนอเมริกาช่วงนั้นพอดี พร้อมๆกับได้เพื่อนเกาหลีที่กินเหล้าปาร์ตี้ที่นู่น

เกาหลีเห็นโอกาส จึงขับเคลื่อนสิ่งที่เรียกว่า “Creative Economy” ประสานทั้งกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษา หน่วยงานที่ดูแลสื่อ และเอกชนสายบันเทิง อาหาร ท่องเที่ยว แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยี ให้พัฒนาไปในทางเดียวกัน

เกาหลีเล่นง่าย เกาะกระแสฮิปฮอป สร้างแนวฮิปฮอปของตัวเอง ใครเห็น MV เกาหลีแรกๆ มันคือการย้อมฮิปฮอปแนวอเมริกันมาสวมหัวศิลปินเกาหลี ทั้งท่าเต้น costume โทนสี แสง แนวเพลง ลอกมาเป้ะๆ จริงๆตอนนี้ก็ยังมีกลิ่นฮิปฮอปแบบ DMX, 50 Cent โคตรแรงอยู่

นอกจากนั้นรัฐบาลเกาหลีใช้วิธีคือเอาช่วงเวลา Prime time เป็นโควต้าพิเศษให้กลุ่มคอนเท้นต์เหล่านี้ ไปจนถึง Animation ของผู้ประกอบการภายในประเทศให้โตได้เร็ว รวยได้เร็ว จ่ายภาษีคืนรัฐได้เร็ว

20 ปีผ่านไป Creative Economy ไทย ยังไปไม่ถึงไหน แม้กระแสฮิปฮอปจะเกิดพร้อมเกาหลี แต่เรายังต้องพึ่งเค้าในการโตอยู่เลย

ถึงแม้ผมไม่นิยมคุณทักษิณมากนัก แต่ทิศทาง “Creative Economy” ที่เป็นรากฐานสำคัญของ “ปลายทาง” ที่เป็นคำว่า “soft power” นั้น มีความชัดเจนที่สุด จากคน 2 คน

คนแรกคือมันสมองแสนเก่งได้แก่ อ.พันธุศักดิ์ วิญญรัตน์ คนที่สองที่รับลูกไปขยายผลได้แก่ อ.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แฟชั่นไทยที่โตได้ขนาดนี้ ก็คืออานิสงส์ของ “Bangkok Fashion City” ในยุคนั้น

ดังนั้นหากรัฐบาลปัจจุบันอยากจะทำเรื่อง “Soft Power” ก็ต้องหาคนที่เข้าใจ“Creative Economy” มาช่วย และให้อำนาจเค้าในการที่จะทำ โปรดอย่าคิดว่า Soft power คือ Event โปรโมตนักร้องสิ โปรโมตวัฒนธรรมไทยสิ โปรโมตอาหารไทยสิ
ผิดครับ!!!!

เอาแค่ลองเปรียบเทียบกระทรวงวัฒนธรรมไทย กับกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ก่อน เหมือนอยู่ในโลกคนละยุค แถมไม่มีการบูรณาการอะไรกับกระทรวง อว., กระทรวงพาณิชย์, กระทรวง DEs, กสทช. ทั้งสิ้น

Creative Economy คือการสร้าง Ecosystem รวมถึงการสร้างคน และบูรณาการคอนเท้นต์ ไม่ใช่การทำงานแบบนักการเมือง-ข้าราชการแบบที่เป็นอยู่

ผมกล้าพนันให้แสนบาท ต่อให้ 12 เดือน หลังจากที่นายกตู่พูดเรื่องนี้ ก็ยังไม่มีอะไรเกิด


ถ้าท่านนายกหรือใครอยากจะเข้าใจ ให้ไปดูพิพิธภัณฑ์ผ้า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” นั่นคือการสร้าง Ecosystem ที่สำเร็จแบบจริงๆจังๆของสยามประเทศเป็นครั้งแรก

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: