Connect with us

News

วีรบุรุษในหลืบเงา!! คนที่สร้างเกียรติประวัติให้ประเทศชาติ​ แต่…ไม่ได้รับการมองเห็น !!

Published

on

รู้จักเค้าเหล่านี้… วีรบุรุษในหลืบเงา นักกีฬาไทย ในโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020 บุคคลที่ควรเห็นใจเขา มากกว่าเฝ้าชมการแข่งขัน ที่ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษในหลืบเงา ที่ฝรั่งเรียกว่า The Unsung Heroes

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ของเหล่านักกีฬาผู้พิการทั่วโลก ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน 2564 ทัพนักกีฬาไทยได้สิทธิ์ไปแข่ง 74 คนใน 14 ชนิดกีฬา ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่มีการแข่งขันมา โดย เพจ Wittapon Jawjit ได้เล่าเรื่องราวน่าประทับใจ โดยระบุว่า วีรบุรุษในหลืบเงา ทัพนักกีฬาในโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020 สร้างผลงานเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจคนไทย ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองประสบช่วงเวลายากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศ จากการคว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง และสร้างสถิติที่เป็นประวัติการณ์ในกีฬายิงปืนและกรีฑา 10,000 เมตร แม้ว่าจะไม่สามารถหยิบเหรียญใดได้ก็ตาม


ชื่อของวีรบุรุษและวีรสตรีจากมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ผู้สร้างชื่อนำธงไตรรงค์ขึ้นสู่เสาในพิธีรับเหรียญรางวัล ถูกจดจำและอ้างอิงถึงในฐานะบุคคลสร้างประวัติศาสตร์ ผมเชื่อว่าทุกวันนี้ผู้คนยังคงจดจำชื่อของคุณพเยาว์ พูนธรัตน์ ผู้คว้าเหรียญแรกให้กับประเทศไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่นในมอนทรีออลเกมส์ 1976 ได้เป็นอย่างดี นั่นคือเมื่อ 45 ปีที่แล้ว

ถ้าผมจะบอกว่ามีนักกีฬาทีมชาติไทยอีกท่านหนึ่ง ที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขัน 5,000 เมตร และ 1,000 เมตร จากการแข่งขัน ริโอ เกมส์ 2016
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แถมการคว้า 2 เหรียญทองในริโอเกมส์ ยังเป็นการทำเหรียญทองเหรียญที่ 6 และ 7 ของเขาให้ประเทศไทย นักกีฬาท่านนี้สวมเสื้อไตรรงค์ลงแข่งในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติมาแล้ว 5 ครั้ง นับตั้งแต่ซิดนี่ย์ เกมส์ในปี 2000 และในโตเกียวเกมส์ ที่จะเริ่มในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ จะเป็นครั้งที่ 6 ของเขา

ตั้งแต่เขาเริ่มลงแข่งในกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ เขาคว้า 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ให้กับประเทศไทย ท่านพอจะนึกออกมั้ยครับ ว่านักกีฬาท่านนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร หากท่านนึกไม่ออก ไม่เป็นไรครับ มาติดตามเรื่องราวของเขาแบบย้อนเวลากันนะครับ

การลงแข่งในโตเกียวเกมส์ครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา เพราะด้วยวัย 37 ปี การแข่งขันในระดับความเข้มข้นสูงสุดของโลก ดูจะเป็นความท้าทายที่ไม่ต่างจากกำแพงที่มองไม่เห็นขอบบน ที่สำคัญ เขามาในฐานะแชมป์ระยะ 5,000 เมตรที่ต้องการที่จะรักษาบัลลังค์ในการลงแข่งที่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา

แม้ว่าเขาจะเป็นนักกีฬาอาวุโสสูงในทัพนักกีฬาไทยครั้งนี้ แต่เขาได้รับความไว้วางใจและผ่านเข้าแข่งขันถึง 4 รายการ นอกเหนือจากรายการ 5,000 เมตร แล้วเขาจะสวมเสื้อไตรรงค์ลงแข่งในรายการ 800 เมตร, 1,500 เมตร และมาราธอน อีกด้วย เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เขาได้เดินทางไปพบพ่อแม่ของนักกีฬาอีกท่านหนึ่ง เพื่อร้องขอให้ครอบครัวสนับสนุนนักกีฬารุ่นน้องผู้ซึ่งเขาเห็นแววรุ่งโรจน์ ให้ได้ลงแข่งและรับการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ

ต่อมาในภายหลังเขาได้มอบอุปกรณ์การแข่งขันที่มีมูลค่าหลักแสน ให้นักกีฬารุ่นน้องคนนี้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าข้อเท็จจริงที่ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเปรียบเสมือนสิ่งมีค่าสำหรับเขา เพราะเขาใช้มันติดตัวมาโดยตลอดในการคว้าชัยตลอดชีวิตการแข่งของเขา เขาเชื่อมั่นว่า นักกีฬารุ่นน้องคนนี้จะมารับช่วงคบเพลิงต่อจากเขาและสร้างความยิ่งใหญ่ให้ทีมชาติไทยต่อไป หลังจากที่เขาเลิกแข่งแล้ว 5 ปีที่ผ่านมาในริโอเกมส์ นักกีฬารุ่นน้องที่เขาสนับสนุน ก็คว้า 2 เหรียญทอง ในระยะ 400 เมตร และ 800 เมตร ให้กับทีมชาติไทย นักกีฬารุ่นน้องคนนี้มีชื่อว่า พงศกร แปยอ ใครกันนะ? ผู้อ่านหลายท่านอาจเกิดความรู้สึกนี้

ตลอดชีวิตการแข่งขันของเขา เขาลงซ้อมทุกวันเว้นเพียงเย็นวันอาทิตย์ และเช้าวันจันทร์เท่านั้น เขาลงซ้อมทั้งในลู่ และซ้อมบนถนนไม่ต่ำกว่าวันละ 40 กิโลเมตร เขาทำอย่างนี้ติดต่อกันมากว่า 20 ปี นอกเหนือจากการซ้อมความเร็ว เขายังมีวินัยในการวางกลยุทธ์การแข่งขัน โดยเฉพาะในการแข่งขันระยะ 5,000 เมตรหรือระยะที่มากกว่า เพราะการแข่งขันในระยะทางแบบนี้ ไม่จำเป็นที่เขาต้องนำคู่แข่งตลอดทาง บางช่วงอาจจะต้องตามหลังอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อเก็บแรงก่อนที่จะระเบิดพลังในเวลาที่ต้องการ

ที่น่าประหลาดใจคือ ในทุกวันที่เขาลงซ้อมเขาจะทำการยกน้ำหนักอย่างน้อยวันละ 2,000 กิโลกรัม เพื่อสร้างรายการส่วนบนให้แข็งแรง
ว่ากันว่าตลอดชีวิตการแข่ง เขายกน้ำหนักมาแล้วมากกว่า 4,500 ตัน เขาก็ไม่แตกต่างจากนักกีฬาชั้นยอดของโลก แบบ โคบี ไบรอันท์ หรือ ไมเคิล จอร์แดน หรือแม้กระทั่ง เซอร์ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกฟอร์มูลาวัน 7 สมัย ที่เชื่อว่าวินัย ความมุ่งมั่นและหมั่นเพียร แถมด้วยการซ้อมอย่างบ้าระห่ำ คือหนทางของความสำเร็จ
“มันเหมือนฝันเลยครับ” เขากล่าวหลังคว้า 2 เหรียญทองจากซิดนี่ย์เกมส์ในปี 2000 ในระยะ 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร
“ผมมีฝันที่จะติดทีมชาติ แต่ที่ผมโฟกัสคือตั้งใจฝึกซ้อม ทำให้ดีที่สุดในทุกครั้ง พอได้ติดทีมชาติและชนะการแข่งขันในระดับนี้ ก็เหมือนฝันที่เป็นจริง และเป็นผลลัพธ์จากความมานะในทุกๆ วันของผม” นั่นคือความสำเร็จแรกในนามทีมชาติ…เมื่อ 21 ปีที่แล้ว

แต่จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการแข่งความเร็วของเขาเริ่มเมื่อเขาอายุ 11 ปี เมื่อเขาได้รับทุนเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ ที่ซึ่งเขาได้เห็นนักกีฬารุ่นพี่ฝึกซ้อมและลงแข่ง นั่นทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า เขาก็ไม่แตกต่างจากคนอื่น
แต่ไม่ใช่ว่าหนทางสู่ความสำเร็จจะง่ายดาย เขาต้องต่อสู้กับการมั่นใจในความสามารถของตนเองอยู่เสมอ (Self-doubt) ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจ

สำหรับนักเรียนทุนแบบเขา ที่เริ่มต้นการเข้าสู่วงการด้วยการตามหลังรุ่นพี่ที่มีความเร็วสูงกว่า และไม่มีทีท่าว่าเมื่อไหร่จะตามได้ทัน
มีคำเปรียบเปรยว่าเด็กเหมือนผ้าขาว บาดแผลในวัยเยาว์จึงมักส่งผลยาวนานต่อชีวิตของคนๆ นั้น กรณีของนักกีฬาท่านนี้ก็ไม่ต่างกันเลยครับ เขาเกิดมาเหมือนคนปกติทั่วไป แต่มาโชคร้ายที่สภาพร่างกายเริ่มผิดปกติเมื่ออายุเพียง 3 ขวบ

และเมื่อเขาต้องเข้าเรียนร่วมกับเพื่อนที่ร่างกายปกติ ความรู้สึกแตกต่าง ทำอะไรได้ไม่เหมือนคนอื่น ก็เริ่มสร้างบาดแผลในใจของเขา และพัฒนากลายเป็นความไม่มั่นใจในความสามารถและศักยภาพ ตลอดจนศักดิ์ศรีของตนเอง ความรู้สึกนั้น เกิดขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งเขาอายุ 17-18 ปี เป็นช่วงอายุที่เขาเจอความท้าทายที่ต้องก้าวข้ามด้วยการตามให้ทันนักกีฬารุ่นพี่

ท้ายที่สุดเขาก็สามารถตามรุ่นพี่ได้ทัน และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยได้สำเร็จ ตอบแทนทุนการศึกษาที่เขาได้รับ ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาใช้ความเจ็บปวดของอดีตเป็นพลังในการสร้างอนาคตที่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้

ทุนจากมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี คือทุนที่เขาได้รับที่โรงเรียนแห่งนี้ สถานที่ซึ่งเขาเริ่มหมุนวงล้อวีลแชร์เป็นครั้งแรก ตามด้วยการหมุนวงล้อนับล้านครั้ง ครับ ถ้าถึงตอนนี้แล้วยังนึกชื่อวีรบุรุษคนนี้ไม่ออก ผมขอเฉลยเลยแล้วกันนะครับ
นี่คือเรื่องราวของนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งที่มีนามว่า ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของเหรียญทอง 7 เหรียญในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 5 ครั้งที่ผ่านมา

ผมชวนให้คิดตามมาตั้งแต่ต้นบทความแล้วนะครับ งั้นผมขอรบกวนอีกสักครั้งให้ท่านผู้อ่านค้นข้อมูลคุณประวัติ วะโฮรัมย์ ในวิกิพีเดียภาษาไทย ก่อนที่จะอ่านต่อนะครับ…

คงเห็นเหมือนผมนะครับว่าทำไมรายละเอียดประวัติของฮีโร่ 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ของประเทศไทย มันช่างยาวเหยียดเสียจริงๆ (ประชดนะครับ) ทำไมคนที่สร้างเกียรติประวัติให้ประเทศขนาดนี้ ไม่ได้รับการมองเห็น หรือเพราะว่าทัวร์นาเมนท์ที่เขาลงแข่งคือ พาราลิมปิก ไม่ใช่ โอลิมปิก หรือเพราะว่าเขาเป็นนักกีฬาคนพิการ เราควรเห็นใจเขา มากกว่าเฝ้าชมการแข่งขัน หรือเพราะเหตุผลอื่นอีกมากมาย ที่ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษในหลืบเงา ที่ฝรั่งเรียกว่า The Unsung Heroes

โดยส่วนตัวของผม นิยามคำว่า “พิการ” เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว สมัยผมยังเป็นพนักงานกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร และได้มีโอกาสที่ดีที่ได้ร่วมจัดงานการพูดคุยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยนักกีฬาเทเบิลเทนนิสพาราลิมปิกทีมชาติไทย
ในวันนั้นผมยืนอยู่หลังห้อง และได้เห็นภาพการตั้งใจฟังอย่างจดจ่อของเพื่อนพนักงาน เพื่อซึมซับเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจากนักกีฬา
ผมเห็นภาพของคนที่ตามนิยามมาตรฐานเรียกว่าผู้พิการ ได้ให้แรงใจกับผู้คนที่ไม่ใช่ผู้พิการ ผ่านเรื่องราวความยากลำบากของการพิสูจน์ตัวเอง ที่คนปกติส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำ หรือใส่ใจที่จะทำ แถมเป็นเรื่องราวที่คนปกติส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากจะแชร์ความยากลำบากในชีวิตตนเองให้ผู้อื่นได้รับฟัง
ผมเห็นภาพของคนพิการที่เป็นผู้ให้

หลังงานพูดในวันนั้น ผมได้มีโอกาสพูดคุยและกล่าวขอบคุณนักกีฬาที่มาสร้างแรงบันดาลใจในวันนั้น เขาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า
“ผมดีใจมากครับที่เรื่องราวของผมช่วยให้แรงบันดาลใจกับผู้คนได้ แต่ผมคงจะดีใจมากกว่านี้อีกนะครับ หากผู้คนจะรับรู้ถึงความสำเร็จที่พวกผมทำให้ประเทศครับ”

ใช่ครับ ในทางกายภาพพวกเขาอาจจะถูกมองว่ามีข้อจำกัด และเราควรให้ความเห็นใจ แต่ในทางจิตใจและร่างกายที่ธรรมชาติสร้างให้ พวกเขาเป็นนักกีฬาอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาต้องการแรงใจและการร่วมยินดีจากเพื่อนร่วมชาติเช่นกันครับ สำหรับผมโอลิมปิกและพาราลิมปิก ไม่แตกต่างกันเลยครับ ตราบใดที่เห็นธงไตรรงค์อยู่บนอกเสื้อแข่งนักกีฬา ในพาราลิมปิกโตเกียวเกมส์ปีนี้ เราจะทำอะไรที่แตกต่างจากริโอเกมส์ 2016 กันมั้ยครับ

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: