Connect with us

News

“อัจฉริยะ” ท้าแม่แตงโม ตรวจดีเอ็นเอโชว์ แม่จริง??

Published

on

“อัจฉริยะ” ท้าแม่แตงโม ตรวจดีเอ็นเอ โชว์ภาพถ่ายตอนท้อง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 และ พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานรู้ หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำโดยประการใดๆ อันมิชอบหน้าที่ ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรพีรพงษ์ หรือ แตงโม นัดแสดงสาวชื่อโม

สืบเนื่องจากกรณีที่มีการนำภาพศพของดาราสาวมาเทียบเคียงกับใบพัดเรือ ส่งต่อไปให้ยังนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดียศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โดยตนเองมองว่า นายแพทย์ ธวัชชัย เป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องในคดี การที่นำหลักฐานในคดีออกไปให้คนนอกดู จึงถือว่าเป็นความผิด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ ในกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการสร้างหลักฐานเท็น และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางคดีอาญา

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการพูดถึงคลิปที่ตนเองมีเป็นคลิปเหตุการณ์ รวมถึงตอนที่มีการกรีดขา ซึ่งตนเองยืนยันว่า ตนเองไม่เคยพูดว่า มีคลิปที่บันทึกเหตุการณ์ตอนกรีดขาดาราสาว แต่เป็นคลิปเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงที่มาของบาดแผลว่า ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่เกิดจากการกรีดด้วยมีด ซึ่งตนเองอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบตัวเรือ เพื่อหาร่องรอยเลือดตามจุดที่ปรากฏในหลักฐานของตนเอง เพื่อให้คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักฐานที่ตนเองมีอยู่ ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่า เหตุใดหน่วยงานต่างๆ จึงไม่กล้าที่จะตรวจเรือตามที่ตนเองร้องขอ ซึ่งหากมีการยอมตรวจเรือลำดังกล่าว ตนเองจะพาชี้จุดต่างๆ ที่ปรากฏรอยเลือดอยู่ในหลักฐานของตนเอง เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นเลือดของบุคคลใด ซึ่งหากมีการตรวจพบก็จะสามารถยืนยันในหลักฐานของตนเองได้ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นแม่ หรืออัยการ ก็สามารถนำหลักฐานของตนเองเข้าไปประกอบคดีและฟ้องในข้อหาฆาตกรรมได้

นายอัจฉริยะ เปิดเผยอีกว่า ส่วนตัวมองว่า ตอนนี้ตนเองเหมือนโดนเหตุการณ์ย้อนรอยเมื่อ 10 ปีก่อนที่ถูกหน่วยงานตำรวจกลั่นแกล้ง กล่าวหาว่าทำผิด ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนเองต้องต่อสู้โดยการไปขวางถนนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ในปัจจุบันตนเองมีความรู้ความสามารถและมีเครือข่ายทำให้กล้าออกมาต่อสู้ต่อสู้กับองค์กรตำรวจระดับภาคได้ ขณะที่ในส่วนของการดำเนินคดีกับตนเองนั้น ตนเองถูกตำรวจดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดแล้ว 4 คดี ส่วนทนายเดชาก็มีการแจ้งความเอาผิดกับตนเอง 2 คดี รวมทั้งสิ้นในคดีแตงโมตนเองถูกดำเนินคดีแล้วรวม 6 คดี แต่ตนเองก็ไม่กลัว พร้อมจะต่อสู้กับทุกคนเพื่อพิสูจน์ความจริง

ขณะที่กรณีเมื่อวานนี้ตนเองไปร่วมออกรายการโหนกระแส แล้วมี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เข้ามากลางรายการ และมีสายโทรเข้าจากคนบนเรือถึง 3 คน ตนเองมองว่า คนบนเรือ มีการร้อนตัวอยากเห็นหลักฐานที่ตนเองมีอยู่ ซึ่งตนเองจะไม่ยอมให้กลุ่มคนเหล่านี้ดู ส่วนทนายตั้ม ไม่คิดว่าจะเดินเข้ามาร่วมกลางรายการ ซึ่งเมื่อมีการมาถึงสตูดิโอ ก็ไม่สามารถจะห้ามปรามให้เข้ามาในรายการได้ ซึ่งตนเองเข้าใจพิธีกร หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันและเคลียร์ประเด็นข้อสงสัยทั้งหมดแล้ว ส่วนทนายตั้มหากต้องการจะช่วยเหลือตนเองอย่างที่พูดมา ก็พร้อมให้ช่วยเหลือ โดยต้องเดินทางไปร่วมกับตนเองในทุกการดำเนินการต่อจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเรือ หรือการดำเนินการต่างๆ ส่วนหลักฐานตนเองยืนยันว่า จะต้องมีการเปิดในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนกรณีข้อสงสัยว่า นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน เป็นแม่ของแตงโม จริงหรือไม่นั้น ตนเองยังอยากให้แม่ออกมาแสดงภาพถ่ายที่เคยตั้งท้องดาราสาวหรือออกมาตรวจดีเอ็นเอเพื่อ เคลียร์ข้อสงสัยว่าเป็นแม่ที่แท้จริงของดาราสาวหรือไม่เพราะหากสามารถพิสูจน์ในประเด็นนี้ได้ทุกการกระทำของแม่ก็จะถือว่าชอบด้วยกฎหมาย

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: