“กลุ่มทะลุแก๊ส” แสดงพลังป่วนตำรวจ หลังร่วมม็อบเดินไล่ตู่ เผารถหวิดวอด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานข่าวว่า สถานการณ์การชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ยุติลงแล้ว หลัง ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา โดยแกนนำได้ประกาศยุติการทำกิจกรรมเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือแสดงสัญลักษณ์ ประเทศไทยอยู่ภายใต้ความมืดมนไร้แสงสว่าง โดยขอให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน
แต่ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะได้เคลื่อนขบวนมายัง แยกสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการ แสดงพลัง ขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ส ซึ่งมีการระดมพลังมวลชน ตั้งแต่เวลา 18.25 น. ด้วยการจุดพลุ และนำสิ่งกีดขวางมาวางบนท้องถนน แม้แนวร่วมจะมีค่อนข้างบางตาในวันนี้
ขณะที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก มุ่งหน้า กรมทหารราบที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ จีโน่ 1 คัน , รถเครื่องขยายเสียง 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 2 กองร้อย เข้าสแตนบายในพื้นที่รอรับสถานการณ์ หากเกิดความวุ่นวายและเหตุปะทะขึ้น
ต่อมา เวลา 19:00 น ตำรวจควบคุมฝูงชน บชน. พร้อมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง ได้เดินหน้ากระดาน ผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขว้างปาพลุไฟและประทัดยักษ์ขวดแก้ว ใส่แนวตำรวจควบคุมฝูงชน ซึ่งปักหลักประจำการอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก หน้าด่านทางลงด่วนดินแดง และสามารถควบคุมพื้นที่บริเวณแยกดินได้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นออกไปปักหลักย่านสามเหลี่ยมดินแดงแทน
โดยบริเวณถนนราชวิถีขาออก เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพร้อมอุปกรณ์ป้องกันตัวครบได้เคลื่อนกำลังโดยใช้รถกระบะ10 เคลื่อนมาตามถนนราชวิถี เพื่อผลักดันกลุ่มมวลชนให้แยกย้าย โดยมีกำลังอีกส่วนที่ถือโล่ป้องกันเดินเท้าคุมเชิงตามมาห่างประมาณ 20 เมตร
โดยระหว่างนั้น ได้เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้โยนระเบิดเพลิงใส่รถกระบะขนกำลังเจ้าหน้าที่ของตำรวจคันหนึ่งที่แล่น มาถึงบริเวณถนนราชวิถีขาออก ก่อนถึงแยกราชปรารภ ได้รับความเสียหาย กำลังเจ้าหน้าที่ต้องแยกย้ายกันหลบหนีลงจากรถ ก่อนที่จะมีการขับรถคันดังกล่าวที่อยู่ในสภาพกระจกหน้าและกระจกมองข้างแตก ตัวถังด้านหน้ามีร่องรอยถูกเพลิงไหม้บางส่วน ไปหลบในสถานที่ใกล้เคียง
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมแฟลชม็อบ ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งสลายการชุมนุมจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเข้าร่วมกับกลุ่มทะลุแก๊ซ ต่างก็ตะโกนด่าว่าและขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยบางส่วนใช้ก้อนหินขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถอยกำลังกลับไปตั้งรับอยู่ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยปิดถนนราชวิถีฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังแฟลตดินแดง เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายในบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเวลา 19.45 หลังใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้ากดดันสลายการชุมนุมจนกลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายกันไปเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยกลับเข้าไปในกองดุริยางค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งเพื่อเตรียมความพร้อมคอยรับสถานการณ์ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไทและสน.ดินแดงได้เร่งระบายรถที่คั่งค้างอยู่บนถนนราชวิถีขาเข้าและขาออก อย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ ก่อนเกิดเหตุ ม็อบ “เดินไล่ตู่” ได้เคลื่อนขบวนมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และร่วมทำกิจกรรม ‘ยืน หยุดขัง’ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ โดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ราษฏร กล่าวว่า รู้สึกดีใจเพราะพี่น้องเสื้อแดงออกมาอย่างคับคั่ง
วันนี้พวกเราคือผู้ที่รับทุกข์จากการบริหารงานของรัฐบาลทหาร นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตนอายุ 22 ปี ยืนถือโทรโข่งเช่นเดียวกับวันนี้ วันนั้นที่ประยุทธ์ ทำการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงเกิดการต่อต้านของคนไม่กี่คน และได้เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งวันนั้นตนถูกขังที่ เรือนจำ มทบ.11 ที่นครปฐม โดยเป็นการขังเพื่อความสะใจ อ้างว่าเป็นการปรับทัศนคติ สุดท้ายเมื่อพวกตนออกมา เขาก็คิดว่าคงเปลี่ยนความคิดได้ แต่ ไม่สามารถเปลี่ยนได้เลย และเรายังมีความเข้มแข็งมากกว่าเดิม
นายชินวัตร กล่าวอีกว่า และเวลานี้ ปฏิบัติการไอโอของฝ่ายรัฐ ก็พยายามสร้างกระแสเพื่อให้พวกตนทะเลาะกันเอง เช่นเดียวกับตอนที่ตนยังเป็นคนเสื้อแดง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคนเสื้อแดงเป็นพลังที่บริสุทธิ์ เป็นพลังที่เกิดจากการถูกกระทำ เช่นเยาวชนในทุกวันนี้ ซึ่งตนหวังว่าทุกฝ่าย ทุกองค์กร จะทำให้วันที่ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนเป็นใหญ่จะเกิดขึ้นจริง
