Connect with us

News

กินกันไม่ลง “ผึ้งมหาภัย”เบรนต์ฟอร์ด เปิดบ้าน เบรนต์ฟอร์ดคอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม ตามไล่ตีเสมอกับลิเวอร์พูล แบบสุดมันส์ 3-3

Published

on

ลิเวอร์พูล ชวดโอกาสคว้าสามแต้มไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากเจ้าถิ่นอย่าง”ผึ้งมหาภัย” เบรนต์ฟอร์ด
ยืนหยัดสู้ไม่ถอย ตามไล่ตีเสมอช่วงท้ายเกมส์แบบสุดมันส์ 3-3 นัดนี้ “ซาลาห์” ทำสถิติยิงประตูที่ 100
เฉพาะในพรีเมียร์ลีกให้กับทีม ลิเวอร์พูล ทำสถิติยิงได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ 129 ปีของสโมสร

 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
เป็นการลงเตะนัดที่ 6 ระหว่าง “น้องใหม่ร้ายใช่เล่น”เบรนท์ฟอร์ด นัดนี้เปิดบ้านสนาม
เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยมพบกับทีมหัวตาราง อย่าง”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

เจ้าถิ่นเบรนต์ฟอร์ดของโธมัส ฟรังค์ จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามรับมือกับจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูล
โดยส่งสองคู่หัวหอกอย่าง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ และอีแวน โทนี่ย์ ลงมาต่อกรกับทีมเยือน

ส่วน เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม ส่งสามประสานในแนวรุก
อย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ ลงเล่นเป็นตัวจริง โดยในแดนกลาง
มีเฮนเดอร์สัน ลงบัญชาการเกมส์ พร้อมทั้งฟาบินโญ่และเคอร์ติส โจน คอยสนับสนุนเกมส์รุก

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่สะดวกนัก ต่างฝ่ายต่างกดดันเข้าบอลเร็วทั้งคู่ เกมส์เริ่มได้ถึง
นาทีที่ 6 ดีโอโก้ โชต้า ได้บอลจากกลางสนามแล้วแทงทะลุช่องเข้าไปในแดนเจ้าถิ่น โมฮาเหม็ด ซาลาห์
วิ่งแซงกองหลังหลุดกับดักล้ำหน้า วิ่งเข้าไปจิ้มบอลผ่านตัว ดาบิด ราญ่า บอลค่อยๆกลิ้ง
กำลังจะข้ามเส้นเข้าประตู คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ วิ่งตามไปล้มตัวสกัดบอลเอาไว้ได้
ก่อนที่บอลจะเข้าประตูไปอย่างหวุดหวิด


เกมส์เปิดหน้าแลกกันอย่างดุเดือด เจ้าถิ่นมีโอกาสก็ทำเกมส์บุกสวนกลับไปยิงประตูทีมเยือนติดๆกัน
สองสามหนในช่วงไม่ถึง 5 นาที ในนาทีที่ 11 ของเกมส์ นายทวารเจ้าบ้านดาบิด ราญ่าเปิดบอลยาว
เข้าไปในแดนของลิเวอร์พูลอีแวน โทนี่ย์ เทคตัวขึ้นโหม่งส่งบอลต่อให้ เอ็มเบวโม่ จับบอล
หลุดเข้าไปดวลกับนายทวารของทีมเยือนก่อนที่จะชิพบอลผ่านตัว อลีสซง เบคเกอร์
บอลกำลังจะพุ่งเข้าประตูแต่โฌเอล มาติ๊ป วิ่งตามมาสกัดเตะบอลออกมา
ก่อนที่บอลจะข้ามเส้นเข้าประตูไปได้อย่างหวุดหวิด


เกมส์ยังเล่นกันสนุกเข้มข้นต่อเนื่องนาทีที่ 27 เบรนท์ฟอร์ด ได้ลูกเตะฟรีคิกจากกลางสนาม
แล้วเล่นบอลสั้นส่งให้ คริสเตียน นอร์การ์ด ตักบอลให้ เซอร์กี้ กายอซ หลุดถึงเส้นหลังของฝั่งทีมเยือน
ก่อนที่จะปาดบอลมาทางเสาแรกอีแวน โทนี่ย์ หลอกแตะไขว้บอลเปลี่ยนทางลูกพุ่งไปที่เสาไกล
เอธาน พินน็อค วิ่งมาล้มตัวยิงส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เบรนท์ฟอร์ด ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0

    เบรนต์ฟอร์ด ดีใจได้ไม่นานอีก 4 นาทีถัดมา”หงส์แดง” ก็ตามทวงประตูไล่ตีเสมอได้สำเร็จ
เมื่อทีมเยือนครองบอลทำเกมส์บุกขึ้นมาทางฝั่งขวา ซาลาห์ ได้บอลแล้วส่งต่อให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
เปิดบอลจากริมเส้นลอยโด่งมาหน้าประตูเจ้าถิ่นดีโอโก้ โชต้า กระโดดเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่งๆ
ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลตามมาตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 31


ช่วงท้ายเกมส์ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำเมื่อเคอร์ติส โจนส์ รับบอลมาจากเฮนเดอร์สัน
ที่หน้าปากประตูในแดนเจ้าถิ่นก่อนที่จะซัดจากระยะไกล บอลพุ่งไปแฉลบขา พินน็อค พุ่งไปชนเสาประตู
บอลเด้งออกมาเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า วิ่งตามเข้าไปซ้ำจ่อๆ แต่ดาบิด ราย่า เซฟบอลเอาไว้ได้
ปัดด้วยปลายมือ บอลปลิ้นออกหลังไปทางเสาไกลอย่างเหลือเชื่อ


นาที 43 เบรนท์ฟอร์ดต้องเปลี่ยนตัวเอา มัทเธอุส “ซานก้า” ยอร์เกนเซ่น ลงมาเล่นแทน เอธาน พินน็อค
คนทำประตูขึ้นนำ ที่มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว
ช่วงท้ายเกมส์นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก “หงส์แดง” ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกจากระยะกว่า 20 หลา
หน้ากรอบประตู เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นบอลลอยข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นเบรนท์ฟอร์ด เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง ทีมเยือนเปิดฉากทำเกมส์บุกเข้าใส่เจ้าบ้านตามถนัด มีโอกาสไปสร้างความกดดัน
ให้แนวรับเจ้าถิ่นอยู่ตลอด เกมส์เดินมาถึงนาทีที่ 54 ฟาบินโญ่ ได้บอลจากกลางสนามแล้วเปิดบอลโด่ง
ข้ามแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปที่หน้าปากประตูของเบรนต์ฟอร์ดโมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งแซงแนวรับเจ้าถิ่น
เข้ามาแปบอลด้วยเท้าด้วยซ้ายผ่านมือ ดาบิด ราญ่า เบียดเสาไกลเข้าไปประตูไปอย่างสวยงาม
กรรมการเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า แต่หลังจากทีมงานเช็คภาพจาก วีเออาร์แล้ว จึงกลับคำตัดสินให้
ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-2 เป็นประตูที่ 100 ของซาลาห์ ที่ยิงให้ “หงส์แดง” ในพรีเมียร์ลีก
จากการลงสนาม 151 เกม เป็นสถิติที่ทำได้เร็วสุดในประวัติศาสตร์ 129 ปีของสโมสร  


เมื่อโดนขึ้นนำ เจ้าถิ่นยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทำเกมส์บุกเข้าใส่ทีมเยือนบ้าง จนมาได้โอกาส
จากจังหวะที่เจ้าถิ่นเปิดบอลจากด้านขวา ข้ามมาทางเสาไกลของทีมเยือนปอนตุส แยนส์สัน
กลับตัวยิงบอลพุ่งไปชนคาน บอลกระเด้งลอยออกมาเข้าทาง วิตาลี่ ยาเนลต์ กระโดดโหม่ง
บอลย้อยเข้าประตูไป ทำให้เจ้าถิ่นไล่ตามมาตีเสมอเป็น 2-2 ในนาทีที่ 63

อีกสามนาทีถัดมาทีมเยือนลำเลียงบอลบุกเข้าไปในแดนเจ้าถิ่น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไหลบอลต่อไปให้
เคอร์ติส โจนส์ จับบอลแล้วเลี้ยงหลบแนวรับของเจ้าถิ่นตัดเข้ากลาง ก่อนที่จะตะบันด้วยเท้าขวา
จากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงไปแฉลบอาเยอร์ เบียดเสาแรกเข้าประตูไป ลิเวอร์พูล
แซงขึ้นนำอีกครั้ง 2-3 ในนาทีที่ 67 เมื่อยิงประตูเสร็จ ลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนตัวถอดเคอร์ติส โจนส์ออก
แล้วส่ง โรเบอร์โต้ เฟอร์มีโน่ ลงมาเล่นแทน


นาทีที่ 76 ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสได้ประตูที่ 4 หลังจากที่ซาดิโอ มาเน่ รับบอลมาจากกลางสนาม
ก่อนจะจ่ายบอลเร็วต่อไปให้ซาล่าห์ หลุดเดี่ยวเลี้ยงบอลเข้าไปดวลกับดาวิด ราญ่าตัวต่อตัว
ซาล่าห์เลือกที่จะชิพบอลข้ามหัวนายทวารเจ้าถิ่น แต่บอลแรงเกินไป หลุดข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

แม้จะโดนนำแต่เบรนต์ฟอร์ดยังสู้ไม่ถอย เซอร์กี้ กายอซ เลี้ยงบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา
ก่อนที่จะจ่ายคืนมาให้บัปติสเต้ จับบอลนิ่งแล้วเปิดบอลมากลางประตูลิเวอร์พูล บอลตกฟื้นที่เสาไกล
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล ล้มลงตัวขวางบอลอยู่ ลูกชุลมุนกันอยู่หน้าประตู
ก่อนที่ โยอันเน่ วิสซ่า จะวิ่งเข้ามาชิพบอลข้ามตัวอเล็กซานเดอร์-อาร์โนล ผ่านมืออลีสซง เบคเกอร์
เข้าไปประตูไป เบรนท์ฟอร์ด ไล่ตามมาตีเสมอเป็น 3-3

ในนาทีที่ 82 หลังจากนั้นแม้ทั้งสองทีมจะเดินหน้าแลก บุกเข้าใส่กันเต็มที่ แต่ก็ไม่มีทีมไหนทำประตูได้เพิ่ม
จบเกมส์ “ผึ้งมหาภัย”เบรนท์ฟอร์ด สู้อย่างสุดฤทธิ์จนได้ผลเสมอกับลิเวอร์พูล ไปแบบสุดมันส์ 3-3
แบ่งแต้มกันไปทีมละคะแนน ลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็นจ่าฝูงเต็มตัว เตะ 6 นัดมี 14 คะแนน
ส่วนเบรนต์ฟอร์ด ลงเตะ 6 นัดมี 9 แต้มอยู่อันดับ 9 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: