โดย อ่าย ณัฏฐา
โมลดาไวต์ หนึ่งในอัญมณีสีเขียวที่หายาก ที่มีการกำหนดค่าและราคาเอาไว้ค่อนข้างสูง เพราะเป็นอัญมณีที่เกิดจากก้อนอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่เกิดการชนกันและตกลงมาสู่โลกเมื่อประมาณ 15 ล้านปีที่แล้ว ในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟรีส (The Ries) และ สเติร์นไฮม์ (Steinheim) ในประเทศเยอรมนี โดยการชนกันด้วยความเร็วสูงนี้ ทำให้เศษอุกกาบาตที่แตกกระจาย กระเด็นออกไปยังบริเวณพื้นที่ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก ออสเตรเลียและเยอรมันนี และด้วยการมาจากนอกโลกทำให้อัญมณีชนิดนี้มีจำนวนจำกัดค่ะ
จากที่มาของการเกิดของหินแล้วนั้น โมลดาไวต์จึงถูกยกให้เป็นหินแห่งความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่เพราะเชื่อว่ากว่าที่โมลดาไวต์ จะได้มาเป็นอัญมณีในการครอบครองของเรานั้น ทั้งต้องเดินทางมาจากนอกโลก อีกทั้งยังต้องผ่านความร้อนอันยิ่งใหญ่ กว่าจะตกลงมาสู่โลกเพื่อมาเป็นอัญมณีให้เราครอบครองได้นั่นเอง
ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่ได้ครอบครองโมลดาไวต์จะได้รับพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากจักรวาล ที่จะเข้ามามีผลกระทบกับกระบวนความคิด การสื่อสารในจิตใจ และการค้นพบตัวเองเพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอัญยิ่งใหญ่ค่ะ
นอกจากนั้นยังเชื่ออีกว่าโมลดาไวต์ สามารถช่วยเพิ่มพลังเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารหรือประสาทสัมผัส อีกทั้งยังเพิ่มพลังในการติดต่อกับสิ่งลี้ลับหรือดวงวิญญาณ และการทำสมาธิของผู้ได้รับครอบครอง เพราะโมราไว้มีพลังในการเปิดจักระแห่งดวงตาที่สาม ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการหยั่งรู้ค่ะ
การนำโมลดาไวต์มาเป็นเครื่องประดับ จะไม่นิยมทำการเจียรนัยเพื่อเปลี่ยนรูปร่างของโมลดาไวต์เสียเท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการบั่นทอนพลังอันยิ่งใหญ่ของอัญมณีไป เราจึงมักเห็นเครื่องประดับโมลดาไวต์ในรูปแบบเครื่องประดับที่คงรูปร่างของอัญมณีในลักษณะต่างๆตามธรรมชาติเพราะนั่นคือจุดเด่นของอัญมณีชนิดนี้ค่ะ