8 Fun Facts จาก Squid Game จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่หลังจากออนแอร์บน Netflix

หลังจากที่ Netflix ปล่อย “Squid Game” ออกมาเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่าปังมากๆ ปังอย่างต่อเนื่อง 

สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญเกี่ยวกับผู้คนจำนวน 456 คน ที่ตัดสินใจเข้าร่วมเกมการแข่งขันปริศนาเพื่อชิงเงินรางวัลมหาศาลจำนวน 45,600 ล้านวอน โดยหลังเหล่าผู้เข้าแข่งขันได้เริ่มเล่นเกมซึ่งดูเหมือนเกมเด็กเล่นธรรมดาทั่วไปแล้ว จึงได้รู้ตัวเอาในระหว่างที่เล่นเกมว่าการแข่งขันครั้งนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน การผจญภัยสุดตื่นเต้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ต่างพยายามเอาชีวิตรอดในแต่ละเกม และมุ่งหน้าคว้ารางวัลแห่งชัยชนะซึ่งก็คือเงินรางวัลจำนวนมหาศาลไปครอง

แต่รู้หรือไม่ เบื้องหลังของเรื่องนี้ อาจจะมีเรื่องที่คุณไม่เคยรู้ และบางข้ออาจจะเป็นจุดเปลี่ยนหลังจากที่ปล่อยฉายออกมาเลยก็ได้  วันนี้โตโจ้นิวส์เลยได้รวบรวม 8 Fun Facts จาก Squid Game เอาไว้ จะมีเรื่องไหนน่าสนใจบ้างไปดูกัน 

1. “Squid Game” ถูกเขียนบทขึ้นตั้งแต่ปี 2008

ผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก ได้เปิดเผยว่าเขาได้เขียนบท “Squid Game” ตั้งแต่ปี 2008 ก่อนที่เรื่อง Silenced ที่โด่งดังของเขาจะเข้าฉายในปี 2011 ซะอีก 

เขายังเล่าอีกว่า ย้อนกลับไปในปี 2008 ตัวของเขาเองเป็นหนี้ มันทำให้เขาคิดว่า “ถ้ามีเกมแบบนี้ ฉันคงได้มีส่วนร่วมในมัน” ซึ่งเหมือนกับผู้เข้าร่วม 456 คนของเกม Squid 

บทของเรื่อง Squid Game เสร็จสมบูรณ์ในปี 2009 แต่อย่างไรก็ตามมันยากที่จะดึงดูดนักลงทุนและการหานักแสดง เพราะเมื่อ 12 ปีที่แล้ว โครงเรื่องของ Squid Game ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดูโหดร้ายและแปลกใหม่เกินไป 

2. ชุดเครื่องแบบสีเขียวทำให้ผู้กำกับฮวังนึกถึงชุดสิ่งที่ใส่เมื่อตอนที่เขาเป็นนักเรียน 

3. ฉากที่ใช้เกือบทั้งเรื่องเป็นของจริงที่ทำขึ้นมาทั้งหมดแถบจะไม่ได้ใช้ CG เลย 

456 คน ในเกมแรก เป็นคนจริงๆ ที่ร่วมแสดงในฉากทั้งหมด 

4. ชื่อของ “โออิลนัม” ที่เต็มไปด้วยความหมายแอบแฝง

ในภาษาเกาหลี ชื่อของ “โออิลนัม” แปลว่า “ผู้ชายอันดับหนึ่ง” นั่นเป็นเพราะว่า “อิล” (일) หมายถึง “หนึ่ง” และ “นัม” (남) หมายถึง “ผู้ชาย” ในภาษาเกาหลี

ซึ่งชื่อของ “โออิลนัม” นั้นสัมพันธ์กับหมายเลข 001 ที่เขาได้ ซึ่งโออิลนัมไม่ได้เป็นเพียงผู้เข้าร่วมคนแรกของ Squid Game เท่านั้น แต่ยังเป็นอันดับหนึ่งในด้านความมั่งคั่งและอำนาจอีกด้วย

5. เบอร์ที่ปรากฏในซีรีส์ Squid Game มีผู้ใช้จริงๆ 

โดยเรื่องนี้ก็ทำให้เจ้าของเบอร์โทรดังกล่าวต้องออกมาร้องเรียนว่าทุกวันนี้เธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะมีคนทั้งโทรศัพท์าและส่งข้อความเข้ามาหาเบอร์โทรของเธอ ที่เธอใช้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว ตลอดทั้งวันทั้งคืนเกือบตลอด 24 โมง บางวันก็มีมากถึง 4 พันสาย

หลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าวออกมา ก็มีรายงานว่าทางด้านของ Netflix ก็พยายามที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เลยตัดสินใจเสนอเงินให้ในจำนวน 1 ล้านวอนหรือประมาณ 28,000 บาท เพื่อให้เธอนั้นเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

ซึ่งทางด้านของเจ้าของเบอร์ ได้ปฏิเสธเพราะไม่อยากจะเปลี่ยนเบอร์ที่ตนเองใช้มานาน แม้ในเวลาต่อมาทางทีมผู้สร้างจะได้เพิ่มเงินเป็น 5 ล้านวอนหรือประมาณ 142,000 บาท แต่เธอก็ยังยืนยันว่าจะใช้เบอร์โทรนี้ต่อไป

6. เหตุผลที่มีชื่อเจนนี่ Blackpink อยู่ใน End Credit เพราะเธอให้การซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ จนเหล่านักแสดงขอให้ขึ้นชื่อเธอในตอนจบ

อีกทั้งจองโฮยอนยังเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของเจนนี่ BLACKPINK ทั้งสองมักสนับสนุนซึ่งกันและกันบนโซเชียลมีเดีย และมักแชร์ภาพเซลฟี่ของพวกเขาด้วยกัน

7. หลังจากที่ Squid Game ปล่อยออกมาก็ทำให้ยอดผู้ติดตามของเหล่านักแสดงเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว 

• จองโฮยอน ก่อนหน้านี้เขามีผู้ติดตามบน Instagram ประมาณ 400,000 คน ในตอนนี้ (วันที่ 29 กันยายน) มีผู้ติดตามสูงถึง 7 ล้านกว่าคน 

IG: hoooooyeony

• อียูมี ก่อนหน้านี้เขามีผู้ติดตามบน Instagram ประมาณ 40,000 คน ในตอนนี้ (วันที่ 29 กันยายน) มีผู้ติดตามสูงถึง 2.7 ล้านคน

IG: leeyoum262

• อีจองจุน ผู้รับบทเป็น ‘หน้ากากสี่เหลี่ยม’ ในเรื่อง ที่ปรากฏตัวในเรื่องเพียงไม่ถึงครึ่งนาที ในตอนที่ 3 ก่อนหน้านี้เขามีผู้ติดตามบน Instagram ประมาณ 16,000 คน ในตอนนี้ (วันที่ 29 กันยายน) มีผู้ติดตามสูงถึง 4 แสนกว่าคนแล้ว

IG: right_jun_

• คิมจูรยอง ก่อนหน้านี้เขามีผู้ติดตามบน Instagram ประมาณ 400 คน ในตอนนี้ (วันที่ 29 กันยายน) หลังจากผ่านมา 7 วัน มีผู้ติดตามสูงถึง 6 แสนกว่าคน เรียกได้ว่า เพิ่มวันละแสนเลยทีเดียว

IG: kimjooryoung

8. “Squid Game” ฟีเวอร์ทำให้หุ้นของ 2 บริษัทบันเทิงเกาหลีพุ่งขึ้นสูง

ข้อมูลจาก Flix Patrol บริษัทจัดเรทติ้งสตรีมมิง ระบุว่า ขณะนี้ Squid Game ทะยานติดอันดับ 1 ภาพยนตร์/ซีรีส์ยอดนิยมในหลายประเทศทั่วโลกบน Netflix และยังเป็นซีรีส์เกาหลีใต้เรื่องแรกที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในNetflix USA อีกด้วย 

และเพราะกระแสนิยมของ Squid Game ทำให้ส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของบริษัทบันเทิงเกาหลีใต้ 2 รายที่อยู่เบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้

ราคาหุ้นของ Bucket Studio Co. ซึ่งถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทต้นสังกัดของนักแสดงนำของเรื่องอย่าง “ลี จอง-แจ” ทะยานกว่า 70% ในช่วง 3 วันซื้อขาย (23, 24 และ 27 ก.ย.) 

ขณะที่หุ้นของ Showbox Corp. ซึ่งถือหุ้นใน Siren Pictures บริษัทผู้สร้างซีรีส์เรื่องนี้ พุ่งกว่า 50% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มฉาย

ข้อมูลหุ้นจาก : https://www.bangkokbiznews.com/world/962412

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู ก็สามารถดูได้ที่ Netflix