Connect with us

On this day

15 กรกฏาคม 2410 ราชอาณาจักรสยาม ต้องเสียดินแดน 124,000 ตร.กม ให้แก่ฝรั่งเศส

Published

on

ในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เขมรยังเป็นเมืองขึ้นของราชอาณาจักรสยาม ต่อมาเขมรแอบไปเจรจาขออยู่ในอารักขาฝรั่งเศส ฝรั่งเศสได้ทีจึงอาศัยความทันสมัยของกองเรือฝรั่งเศส
บีบบังคับให้สยาม ยินยอม ยกดินแดนเขมรส่วนนอก รวมทั้ง เกาะอีก 6 เกาะ ให้แก่ฝรั่งเศส

ราชอาณาจักรสยาม กับ ญวน(เวียดนาม) ทำสงครามที่เรียกว่า “อานามสยามยุทธ” ยาวนานกว่า 14 ปี เพื่อ
ดินแดนในส่วนลาวและเขมร ซึ่งแต่เดิมเป็นเมืองขึ้นของ สยาม แต่ อาณาจักรญวน ในขณะนั้นก็ต้องการได้ดินแดนลาวและเขมร มาอยู่ในความครอบครอง หลังจากสู้รบกันมาอย่างยาวนาน ทั้งสองอาณาจักรเล็งเห็นว่ามีแต่ความสูญเสีย จึงเจรจาสงบศึก ดินแดนในส่วนของลาวและเขมรยังเป็นของสยาม แต่ ลาวกับเขมรต้องส่งเครื่องบรรณาการให้แก่ญวนด้วย แต่สยามยังมีสิทธิ์ในการสถาปนากษัตริย์เขมรดั่งเดิม

นักองด้วง หรือ สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี หรือ
สมเด็จพระหริรักษ์รามสุริยะมหาอิศวรอดิภาพ ภาพจาก Bust of King Ang Duong – สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี – วิกิพีเดีย (wikipedia.org)

ต่อมารัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
สถาปนากษัตริย์แห่งเขมร โดยให้ นักองด้วง ขึ้นครองราชย์ เป็น สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี หรือ
สมเด็จพระหริรักษ์รามสุริยะมหาอิศวรอดิภาพ
ในปี 2397 เขมร ได้แอบส่งสารลับไปยังฝรั่งเศส โดยขอให้ ฝรั่งเศส ช่วยกู้ดินแดนที่เสียให้ ญวณ ได้กลับมาอยู่กับเขมร อีกครั้ง และมาช่วยคุ้มครอง เขมร ให้พ้นจากทั้งอำนาจของ สยามและญวน แต่การติดต่อระหว่างฝรั่งเศสและเขมรครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อคณะทูตของมงติญี  กงสุลฝรั่งเศสประจำเซี่ยงไฮ้เข้ามาทำสนธิสัญญากับไทยแบบเดียวกับสนธิสัญญาเบาว์ริงของอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2399

ดินแดนเขมรส่วนนอก เมืองขึ้นราชอาณาจักรสยามในยุคนั้น ภาพจาก การเสียดินแดนครั้งที่ 7 เขมรและเกาะ 6 เกาะ (thaipost.net)

เมื่อเดินทางออกจากไทย มงติญีได้เดินทางต่อไปยังเขมร แต่ นักองค์ด้วง กษัตริย์เขมรในขณะนั้นตอบว่าเขมรเป็นเมืองน้อยไม่อาจทำสัญญาได้ตามลำพัง ต้องปรึกษาสยามก่อน คณะทูตของมงติญีจึงเดินทางต่อไปยังราชสำนักเว้ ของญวน

อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะทูตของมงตีญีกลับไปไม่นาน นักองค์ด้วงได้ส่งหนังสือไปยังกงสุลฝรั่งเศสของสิงคโปร์เมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2399 เพื่อนำไปถวายพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ของฝรั่งเศส  เพื่อขอให้ฝรั่งเศสช่วยคุ้มครองเขมรให้พ้นจากอำนาจของสยามและญวน

สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ หรือ นักองค์ราชาวดี 
ภาพจาก King Norodom – พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร – วิกิพีเดีย (wikipedia.org)

แต่ไม่กี่ปีถัดมาสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีก็เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ
ให้ นักองราชาวดี หรือสมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ ขึ้นเป็นกษัตริย์เขมร องค์ต่อไป  
หลังจากที่โดนน้องชายอย่างพระสีวัตถาและลุงคือ สนองสู จ้องทำการแย่งบัลลังก์ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากทางสยามจึงได้ครองราชย์สำเร็จ ในช่วงก่อนปี 2406 นั้น ฝรั่งเศสได้เข้ามามีอำนาจในดินแดนแถบ อินโดจีน หรือ ญวนมากขึ้น และได้เข้ามาบีบบังคับโดยใช้กำลังทั้งทางกองเรือและทางการทูตให้สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ยอมให้อำนาจแก่ฝรั่งเศส ในการเข้ามาปกครองและให้เขมรเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสและพระองค์ยังคงเป็นกษัตริย์อยู่ และได้ทำสัญญากันในปี 2406 ฝรั่งเศสเข้ามาเอาผลประโยชน์โดยเอาเปรียบทางการค้าแก่สยาม และต้องการดินแดนเพื่อเข้าไปใกล้กับแม่น้ำโขงเพราะต้องการจะล่องเรือเข้าไปยังจีนผ่านทางนั้น

เมื่อรู้ว่าสยามได้ทำสัญญาลับกับ เขมร ว่าดินแดนเขมรส่วนนอกยังเป็นของ สยาม ไม่ใช่ของฝรั่งเศส
ทางฝรั่งเศสจึงยื่นคำขาดกับ สยาม ให้ยกเลิกสัญญาฉบับนั้นและยอมสละดินแดนเขมรส่วนนอกให้ฝรั่งเศสเสีย ฝรั่งเศสจึงได้ส่งกองเรือเข้ามาประชิดเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อข่มขู่สยามหลายครั้ง

หลังจากที่ฝรั่งเศสดำเนินนโยบายแข็งกร้าวในการยึดครองดินแดนของญวน พลเรือเอก เดอ ลากรองดิแยร์ ข้าหลวงอินโดจีนฝรั่งเศส ได้เข้ามาติดต่อ เขมร อีกครั้ง เพื่อให้เขมร เป็นดินแดนในอารักขาของฝรั่งเศส 

พลเรือเอก เดอ ลากรองดิแยร์ ข้าหลวงอินโดจีนฝรั่งเศส ภาพจาก Rigault-de-genouilly – Charles Rigault de Genouilly – Wikipedia

นักองค์ราชาวดี ได้ตกลงใจทำสนธิสัญญาดังกล่าว หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ.2406 นักองค์ราชาวดี ได้ทำหนังสือกราบทูลรัชกาลที่ 4 ว่าถูก ฝรั่งเศส บังคับให้ทำสัญญา

สยามได้พยายามรักษาสิทธิของตนเหนือเขมร โดยทำสนธิสัญญาลับ สยาม-เขมร เมื่อ 1  ธันวาคม พ.ศ.2406
เพื่อยืนยันสิทธิของ สยามเหนือเขมร พระนโรดม ยินยอมลงนามในสนธิสัญญานี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อฝรั่งเศส ทราบถึงการทำสนธิสัญญาลับ สยาม-เขมร ก็ได้เข้ามาคัดค้านและเจรจาเพื่อขอยกเลิกสนธิสัญญา ฝ่ายสยามเห็นว่าไม่มีทางจะต่อสู้กับกองเรือฝรั่งเศสได้
เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม พ.ศ.2410 (ค.ศ.1867) สยามจำต้องยอมลงนามในสนธิสัญญากับฝรั่งเศส
รับรองให้ เขมรส่วนนอก ด้านติดกับ โคชินไชนา รวมเกาะอีก 6 เกาะ เป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส
หลังจากฝรั่งเศส บังคับกษัตริย์ นโรดมพรหมบริรักษ์ แห่งเขมร ให้ยอมยกดินแดนดังกล่าวไปอยู่ใต้การปกครอง
ของฝรั่งเศสมาก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้ว.

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: