เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ส่อแววเดี้ยงยาว อาจจะหมดสิทธิ์ลงสนามตลอดฤดูกาล
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวเก่งของลิเวอร์พูลกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ อาจจะหมดสิทธิ์ลงสนามตลอดทั้งฤดูกาล
หลังเกิดอาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นไขว้ส่วนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าสกัดบอลของจอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารทีมชาติอังกฤษ ผู้รักษาประตูทีมเอฟเวอร์ตัน ในเกมส์เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน และทีมลิเวอร์พูล ที่สนามกูดิสันพาร์คของเจ้าถิ่นเอฟเวอร์ตัน
เมื่อช่วงหัวค่ำวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยในเกมส์นี้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ลงสนามเล่นบอลได้เพียง6 นาที
ก็เกิดปะทะกับผู้รักษาประตูของเอฟเวอร์ตัน บาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออก แล้วส่ง โจ โกเมส ตัวสำรองลงมาเล่นแทน
เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
ปรากฎตามสื่อทุกรูปแบบของอังกฤษ
ว่า กรณีนี้ จอร์แดน พิคฟอร์ด สมควรได้รับใบแดงจากการเข้าทำที่รุนแรงเช่นนี้หรือไม่
อีกทั้งยังมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่ทีมลิเวอร์พูลถูกตัดสินไม่ได้ประตูในช่วงท้ายเกมส์ เพราะเทคโนโลยี VAR ตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้า โดยมีการแสดงความเห็นจากทั้งอดีตนักฟุตบอล อดีตกรรมการตัดสิน ว่า ประตูที่เกิดขึ้นไม่สมควรเป็นลูกล้ำหน้า
ทีมลิเวอร์พูลสมควรเป็นผู้ชนะในเกมส์นี้ด้วยประตู 3 – 2
ล่าสุดวันนี้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
ได้ออกมาเปิดใจผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า
“บ่ายวันนี้ ผมได้เข้าพบกับที่ปรึกษา เพื่อช่วยกันวางแผนฟื้นฟู อาการบาดเจ็บหลังจากเกิดเหตุเมื่อวานก่อนนี้
ผมตั้งเป้าไว้ว่า จะทำทุกทางเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเล่นฟุตบอลให้ได้อีกครั้งในเร็ววันนี้”
“ถึงมันจะน่าผิดหวัง ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้คุณพระช่วย ผมยังมั่นใจว่า ผมจะกลับมาฟิตและแข็งแกร่งกว่าเดิม”
“นักฟุตบอลอาชีพ อะไรที่เกิดขึ้นมันมีเหตุและผลของมัน
ก็ต้องเชิดหน้าสู้ต่อไป ผ่านมันให้ได้ทั้งในเวลาเฟื่องฟูและยามตกต่ำ ด้วยกำลังใจจากทั้งภรรยา ลูกๆ และครอบครัว รวมถึงทุกคนที่สโมสรลิเวอร์พูล ผมคิดว่าพร้อมเผชิญทุกความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า”
“ ทั้งนี้ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ ข้อความและกำลังใจที่ส่งมาให้
ผมและครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง และผมจะพยายามทำทุกอย่างให้ร่างกายหายเป็นปรกติ เพื่อที่จะกลับมาช่วยเพื่อนร่วมทีมให้ได้อีกครั้ง”
เครดิตภาพ
เครดิตแถลงข่าวจากทวิตเตอร์ต้นทางhttps://twitter.com/VirgilvDijk/status/1317933554135912449?s=20
You must be logged in to post a comment Login