เปิดแผน ‘บรรยินแหกคุก’ วางระเบิด-มีฮ.บินมารับ หากไม่สำเร็จมีแผนสำรอง

เปิดแผน ‘แหกคุกบรรยิน’ วางระเบิด-มีฮ.บินมารับ หากไม่สำเร็จมีแผนสำรอง  

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. รายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวนักโทษซึ่งเคยเป็นอดีตนักการเมืองชื่อดังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ วางแผนหลบหนีตามที่สื่อได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น เป้าตกไปที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา และคดีอื่นๆ ที่ยังรอศาลตัดสินอีกเพียบ กลายมาเป็นจุดสนใจของสังคมอีกครั้ง เมื่อแผนการแหกคุกที่ล่มก่อนเริ่มในครั้งนี้นั้น ถูกวางแผนมาอย่างดี ทั้งยังมีแผนสำรองที่อุกอาจ ชนิดที่ตัวอยู่ในตารางแต่ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าการวางแผนจะทำมาดีขนาดไหนแต่แล้ว ความจริงก็ปรากฏออกมา จนแผนแตกกลางทาง 

แผนการแหกคุกเพื่ออิสรภาพหนีความผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำของ อดีต รมช. พาณิชย์คนนี้ นั้นไม่ได้คิดหรือทำขึ้นมาเล่นๆ แต่แผนการของบรรยินนั้นถูกวางแผนมาอย่างดีโดยแผนการเริ่มจาก

ต้นเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายโจ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ และถูกคุมขังอยู่ที่เรืองจำพิเศษกรุงเทพ หลังจากนั้นก็ถูกประกันตัวออกมา แต่ว่านายโจยังมีหมายจับอีกคดี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ก่อน 

หลังจากนั้น นายโจได้ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ กับเรื่องแผนแหกคุกของบรรยิน ทำให้นายโจสารภาพทุกอย่างออกมาทั้งหมด

นายโจนั้นรู้จักกับบรรยินตอนอยู่ในเรือนจำฯ โดยบรรยินได้วางแผนให้นายโจเป็นผู้ช่วยตัวหลักในการประสานงานและลงมือแผนการแหกคุกในครั้งนี้ โดยเริ่มจากบรรยินได้ว่าจ้างทนายประกันตัวนายโจออกจากเรือนจำ เพื่อเป็นตัวประสานงานตามแผนอยู่ภายนอกเรือนจำ โดยแผนของบรรยินนั้น นายโจต้องทำงาน 2 ข้อคือ ข้อแรก ให้หาทางชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก แต่ถ้าไม่เสร็จก็มีข้อที่ 2 คือ ให้ลักพาตัวภรรยาของ ผบ.เรือนจำ มาให้ได้เพื่อไว้ใช้ในการต่อรองกับ ผบ.เรือนจำ เรื่องการหนีออกจากคุก

ก่อนหน้าที่จะออกมาจากเรือนจำนายโจได้บอกว่า บรรยินได้โทรติดต่อลูกน้องเก่า ซึ่งเป็นนักการเมืองคนหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ช่วยเหลือแผนการในครั้งนี้ และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของนักการเมืองคนดังกล่าว มาให้นายโจโทรหาและประสานงานตามแผนกับนักการเมือง เมื่อนายโจออกจากเรือนจำได้ก็ได้ทำการติดต่อกับนักการเมืองคนดังกล่าว แต่ถูกปฏิเสธช่วยเหลือแผนแหกคุกในครั้งนี้ แต่นายโจก็ยังติดต่อเข้าไปอีกครั้งหลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน แต่ทางเบอร์ต้นสายได้บล็อกไม่ให้นายโจโทรหาอีก

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบเรื่องราวดังกล่าว จนได้ข้อมูลบางอย่างที่โยงไปถึงขาใหญ่คนหนึ่งชื่อว่านายท๊อป อายุ 30 ปี ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ ชาว จ.นครสวรรค์ แต่ปรากฏว่ามีญาติเข้ามาประกันตัวให้ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน จนพบตำรวจสืบทราบว่านายท๊อปจะเกี่ยวพันกับการแหกคุกของ บรรยิน จึงได้นำกำลังจับกุมตัว นายท๊อป ที่ควบคุมตัวได้ที่หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายท๊อป ได้ข้อมูลที่ตรงกันกับนายโจให้การ ซึ่งนายท๊อปได้รู้จักบรรยินในเรือนจำ และในระหว่างนั้นบรรยินได้สั่งให้ลูกน้องที่อยู่นอกเรือนจำช่วยเหลือนายท๊อปให้ออกจากเรือนจำ โดยได้เล่าต่อว่า ในวันที่จะลงมือก่อเหตุจะมีคนมาวางระเบิดที่ข้างเรือนจำเพื่อสร้างความวุ่นวาย จากนั้นก็จะทำการล้มเสาธงแล้วนำไปพาดกับกำแพงเรือนจำ จากนั้นจะปีนออกเพื่อไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่รอรับ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุจากการสอบถามผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพบางคนให้การว่า นายท๊อปก่อนออกจากเรือนจำ ได้พยายามถามเส้นทางรถผู้คุมผู้ต้องหาเพื่อนำไปวางแผนการชิงตัวบรรยิน

ทั้งนี้มีรายงานว่ามีคำสั่งย้าย บรรยิน  เพื่อไปอยู่เรือนจำบางขวาง บรรยินได้เกิดอาการเครียด และพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พบก่อนจึงช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

แหล่งข่าวอีกหนึ่งกระแสเผยว่า พ.ต.ท.บรรยิน พยายามที่จะขอไปอยู่ในแดนที่สะดวกสบาย และพยายามขอไม่ให้บันทึกเสียงในเวลาญาติมาเยี่ยม แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำได้ จึงทำให้พ.ต.ท.บรรยิน ไม่พอใจและได้ทำการต่อว่าข่มขู่ว่าจะส่งคนไปอุ้มภรรยา