เรื่องราวของลุงพลเป็นที่สนใจของคนในสังคมที่เลยเถิดไปจากเรื่องคดีการตายของหลายสาว เพราะข่าวเริ่มนำเสนอข่าวเรื่องส่วนตัวของลุงพล ให้รับบทเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่น่าเห็นใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือลุงพลกลายเป็นคนดังได้รับงานโชว์ตัว ร้องเพลง เดินแบบ พรีเซนเตอร์สินค้า
จนทำให้สังคมท้วงติงถึงจรรยาบรรการนำเสนอข่าวที่นำพาสังคมมาถึงจุดนี้ ทำให้คนในแวดวงข่าวคือช่างภาพสำนักข่าวแห่งหนึ่งได้ประกาศลาออก และขอโทษสังคม แต่ล่าสุด ก็ได้มีผู้สื่อข่าวช่องดังที่เคยเกาะติดข่างคดีดังกล่าวประกาศลาออก และขอโทษที่นำพาสังคมมาถึงจุดนี้ โดยได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว”
“เพื่อนหลายคนเห็นโพสต์นี้คงตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เราต้องบอกก่อนว่า เราทำงานกับทางช่อง ระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน เรารู้สึกขอบคุณที่ช่องให้โอกาสเสมอมา ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ดีกับเรา ที่สอนเราหลายๆอย่าง แต่เมื่อเราทำงานมาเรื่อยๆ หลายๆ อย่าง อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ ทำให้เราไม่สามารถฝืนความรู้สึกตัวเองและเดินต่อต่อไปได้ เราตัดสินใจไปคุยกับพี่ (รอง ผอ.ฝ่ายข่าว) และบอกว่า ”เราอยากพัก” ซึ่งพี่แกก็เคารพการตัดสินใจของเรา
เราใช้เวลาคิดและตัดสินใจ 1 เดือนเศษ ใช้ช่วงเวลาที่เราทำงานอยู่บ้านกกกอกเพื่อติดตามคดีน้องชมพู่ ขณะที่เราอยู่ที่นั่นนานวันเข้า เราตั้งคำถามกับตัวเองต่างๆ นานา และ “คำตอบในหัวเรา มันทำให้เราไม่มีความสุข” กับการทำงาน (เราขอไม่ลงรายละเอียด)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ เราไม่สามารถขัดแย้งอะไรได้ ซึ่งทุกครั้งเราต้องก้มหน้าก้มตาทำต่อไปเรื่อยๆ เราลำบากใจหลายอย่าง และที่ลำบากใจไปมากกว่านั้นคือการเข้าถึง “สิทธิส่วนบุคคล”เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลบางอย่าง ตัวเรามองว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ แม้บางคนเขาจะเต็มใจก็ตาม ถามว่าคนดูได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ นอกจากได้ดู “ความขัดแย้งกันของเครือญาติ”
อย่างที่เราบอกในโพสต์ก่อนหน้าว่า “เรารับรู้ถึงกระแสของเพื่อนๆกับการต่อว่าสื่อมวลชน” ซึ่งเราไม่มีโอกาสได้อธิบายให้ใครฟังมากมายนัก แต่เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเหมารวมสื่อมวลชน อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสื่อมวลชนก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานภายใต้กรอบขององค์กร และการทำงานของแต่ละองค์กรย่อมต่างกัน ฉะนั้นวัฒนธรรมองค์กรนั้นล้วนแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองในบริบทของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
สุดท้ายนี้ ในนามของเราเอง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งและเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ เราขอโทษทุกคนต่อการนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้น จนมันนำพาสังคมให้มาถึงจุดนี้ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็แค่ทรัพยากรบุคคลคนหนึ่ง ไม่สามารถท้วงติงหรือแก้ไขอะไรได้มาก เพราะเมื่อเราอยู่ในระบบ เราก็ต้องทำ ดังนั้นเราจึงขอถอยออกมา เพราะเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของระบบ..
เราขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาหาเรา และห่วงใยเรา
“จากกันด้วยดี ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านครับ”
พ้นสภาพอย่างเป็นทางการ
ศักดิ์ดา วรรณสุทธิ์
9 ก.ย.2563
You must be logged in to post a comment Login