“ธันวา” โพสต์ “กษัตริย์นั้นไม่ต่างจากศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนในสังคม”

“ธันวา” โพสต์ “กษัตริย์นั้นไม่ต่างจากศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนในสังคม” 

ในยามที่สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยสู้ดีนัก กำลังเกิดการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง และหนึ่งในนั้นคือการเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนไทยส่วนหนึ่งแสดงความเป็นห่วงต่อการเรียกร้องดังกล่าว ว่าจะกระทบต่อจิตใจของคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 63  นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และปัจจุบันเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคกล้า ได้โพสต์ขอความผ่านเฟซบุ๊กว่า 

“ที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนไทย

ในหลวง ร.9 ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยพระทัยกว้างขวาง เราจึงสามารถอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี บนพื้นฐานความแตกต่างในความเชื่อทางศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม รวมถึงความแตกต่างทางชาติพันธุ์ 

ผมเองเป็นคริสเตียนตั้งแต่เกิด บอกตามตรงว่าไม่เคยเชื่อหลักคําสอนของศาสนาอื่นเลย แต่ไม่เคยซักครั้งที่จะกล่าวดูถูกเหยียดหยามความเชื่อของใคร เพราะมีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง

สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นไม่ต่างจากศาสนา คือเป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนในสังคม ประเทศเรามีคนจำนวนมากมายที่ระลึกถึงในหลวงร.9เมื่อยามท้อ ทำให้มีกำลังใจในการทำความดี สู้ชีวิตต่อไป

ตอนนี้เป็นสมัยร.10 ผมยอมรับว่าอาจยังไม่ถึงกับคำว่ารัก แต่ยังไงก็ตามมีความเคารพและให้เกียรติในฐานะพระมหากษัตริย์ ซึ่งถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และตามขนบธรรมเนียมที่มีมาช้านาน 

โดยหากวันหนึ่งมีโอกาสได้เห็นการทรงงานที่ดีของท่านมากขึ้น ก็เปลี่ยนเป็นความรักได้ไม่ยาก และสำหรับใครที่ไม่รัก ไม่เคารพ ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย เพียงแต่ไม่สมควรที่จะจาบจ้วงด้วยคำผรุสวาท 

เพราะมันเป็นการดูถูกและทำร้ายศรัทธาของบุคคลอื่น ที่ไม่ต่างจากการตอบโต้ทางศาสนา อันเป็นบ่อเกิดของสงครามมานานนับพันปี จนถึงวันนี้ก็ยังรบกันอยู่ในหลายประเทศ

โดยชนชาติที่เจริญแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่าการเผยแพร่ศาสนานั้น จะไม่ใช้วิธีโจมตีศาสนาอื่นใดให้เสียหาย แต่จะพูดถึงเพียงศาสนาและหลักคิดของตนว่าดีอย่างไร 

เช่นเดียวกับผู้ที่เห็นว่าระบบการปกครองปัจจุบันไม่ดี ก็สามารถที่จะนำเสนอรูปแบบอื่นต่อสังคมได้เช่นกัน แต่ไม่ใช่ปลุกปั่น ปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบ และไม่ควรกล่าวร้ายคนอื่นที่เห็นต่างจากตน 

วันนี้มีการขยายตัวของโซเชียลมีเดีย และการเติบโตทางเทคโนโลยีมากมาย ก็ได้แต่หวังว่าศีลธรรมและคุณค่าทางจิตใจของเราจะพัฒนาตามทัน ..ในที่นี้หมายถึงเราทุกๆคน

ปล.นักกีฬาไทยชูรูปในหลวงเมื่อได้รับชัยชนะเสมอ เพราะพระองค์ทรงเป็นทั้งแรงบันดาลใจ เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ความภูมิใจ และในทุกครั้งที่ได้เห็นโมเม้นท์เหล่านั้น น้ำตามันไหลทุกที

#คิดถึงพระองค์เสมอและตลอดไป”