“น้องเปา” เด็กม.3 ไลฟ์ขายเครื่องสำอาง ถูกคอมเม้นต์ “หน้าไม่เหมาะ ให้ไปขายปลาร้า”
“น้องไม่แคร์ครับ ปล่อยไป น้องไม่อยากเอามาใส่ใจ” น้องเปา ภูวเดช อินสุ่ม แทนตัวเองว่า “น้อง” ระหว่างที่คุยกันถึงเรื่องราวที่ถูกแชร์ในเฟซบุ๊ก จากการไลฟ์สดขายของ ที่น้องเปาต้องการหารายได้เป็นพิเศษช่วงปิดเทอมที่ยาวนานเพราะโควิด-19 น้ำเสียงที่ร่าเริงของเด็กคนนี้ ทำให้เราได้เห็นความใสซื่อของคำตอบ
น้องเปาเล่าให้ฟังว่าก่อนจะมาขายเครื่องสำอาง ก่อนหน้านี้เอาเสื้อผ้ามือสองมาขาย และพวกสกินแคร์ที่ราคาไม่แพง เพียงเพราะไม่มีอะไรทำ แล้วอยากหารายได้ด้วย เลยทำให้เริ่มหาอะไรขาย จนเริ่มมีคนรู้จักเอาของมาให้ไลฟ์ขายให้ ขายได้ก็จะได้ส่วนแบ่ง
เริ่มไลฟ์สดขายของในเฟซบุ๊กครั้งแรกมีคนดูเพียง 14 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจที่จะขายของของน้องเปาลดลง น้องเปายังคงไลฟ์ขายของต่อไป
ความสดใสของน้องเปาทำให้คนดูมีเยอะขึ้น และขายของได้มากขึ้น แต่นั่นก็ทำให้มีคนบางกลุ่มเข้ามาคอมเมนต์ แสดงความเห็นในเชิงเหยียดหน้าตา สีผิว น้องเปา บ้างก็บอกว่า “หน้าตาไม่เหมาะจะมาขายเครื่องสำอาง” บ้างก็บอกว่า “ให้ไปขายปลาร้าแทน”
“พอเห็นคอมเม้นต์ก็ไม่ได้สนใจ ก็รู้สึกว่าเค้าไม่ควรพูดอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก น้องไม่แคร์ครับ ปล่อยไป น้องไม่อยากเอามาใส่ใจ”
น้องเปาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เราฟัง ก่อนเรื่องนี้จะมีคนนำเรื่องราวนี้ ที่เด็กคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาขายของในช่วงปิดเทอม แต่กลับถูกผู้ใหญ่ในสังคมทำร้ายด้วยคำพูด ที่เหยียดหน้าตา สีผิว ไปแชร์ในทวิตเตอร์ และถูกรีทวิตนับหมื่น หลังจากที่เกิดเรื่องไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง
“ตอนนั้น มีพี่ที่รู้จักส่งมาให้ดู เพราะน้องไม่ได้เล่นทวิต ก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนเอาเรื่องของเราไปแชร์”
หลังจากนั้น ก็มีชาวเน็ตเข้ามาดูไลฟ์ของน้องเปามากขึ้น ส่งผลให้ยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊กก็เพิ่มขึ้นถึงสองหมื่นบัญชี หลังจากนั้นคนที่เคยเข้ามาคอมเมนต์ถึงน้องเปาก่อนหน้านี้ ก็ได้โพสต์ขอโทษน้องเปา ถึงสิ่งที่ได้ทำลงไปแบบไม่ทันคิดว่าจะมีกระแสโซเชียลไปถล่มถึงสิ่งที่เขาได้ทำ
คนดูไลฟ์เยอะขึ้น น้องเปาเล่าให้เราฟังว่า มีคนดูมากถึง 1,400 คน ก็ทำให้ยอดขายดีมากขึ้นถึง 15 เท่า และยังมีงานมาให้น้องเปาได้รีวิว แม้จะเป็นเงินเพียงจำนวนไม่มาก แต่น้องเปาก็ยินดีและมีความสุขกับสิ่งที่น้องเปาได้ทำ
น้องเปาเล่าให้เราฟังต่อว่า สิ่งที่วางแผนไว้ในอาคต อยากที่จะทำกระเป๋าผ้าขาย เพราะเป็นคนชอบใช้กระเป๋าผ้า
ความตั้งใจ และความใสของเด้กคนหนึ่ง ในการตั้งใจทำตามความต้องการของตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองถนัด แต่กลับถูกถากถางด้วยคำพูด ด้วยความคิด ที่เหยียดหยาม ดูถูก เด็กบางคนอาจจะเจ็บช้ำ และรู้สึกเจ็บปวด กับตัวหนังสือที่คนแปลกหน้า ตำหนิผ่านโซเชียล แต่กลับไม่ได้ระคายความตั้งใจน้องเด็กคนนี้ ที่มองข้ามคำพูดและทัศนคติของคนเหล่านี้ ในทางกลับกัน เป็นพลังให้กับคนในสังคม ลุกขึ้นมาปกป้องและสนับสนุนสิ่งที่เด็กคนนี้ตั้งใจทำ แสดงให้เห็นพลังบวกของสังคมในโซเชียล ที่ไม่ได้รู้จัก ไม่ได้เห็นหน้าเห็นตา แต่ก็พร้อมจะสนับสนุนและส่งเสริมสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในสังคม
“อย่าเก็บอะไรไปคิดมากครับ มันเป็นภาระของเราเอง”
น้องเปาทิ้งท้ายก่อนจบบทสนทนา
“เปา ภูวเดช อินสุ่ม”
You must be logged in to post a comment Login