ครั้งแรกในไทย “ศาลฎีกา New normal” อ่านคำพิพากษาผ่าน Video Conference ให้จำเลยฟัง
นายสุริยัณห์ หงส์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า ประธานศาลฎีกา นายไสลเกษ วัฒนพันธ์ ได้มีแนวคิดในการลดขั้นตอนของศาลฎีกาตัดสินคำพิพากษา เพราะกว่าที่ศาลฎีกาทำคำพิพากษาศาลเสร็จสิ้นนั้นต้องใช้เวลานานทั้งการส่งสำนวนผ่านแต่ละศาลชั้นต้น จึงได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ผ่านระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) ให้จำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำฟัง
ทั้งนี้การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกานับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ต้องปรับตัวไปตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ที่จะเกิดขึ้น ทั้งยังลดขั้นตอนในการ เบิกตัวจำเลยมาศาลในกรณีที่สามารถเชื่อมสัญญาณกับเรือนจำได้ ลดการใช้เครื่องพันธนาการ และลดความเสี่ยงในการหลบหนีเมื่อมีการควบคุมจำเลยมาศาล อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของจำเลยที่ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี ทำให้จำเลยและคู่ความสามารถเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
โดยเมื่อวานนี้ 9 มิ.ย. เวลา 09.30 น. ผู้พิพากษาศาลฎีกาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีความผิดพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ผ่าน Video Conference เป็นครั้งแรก จำเลยถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลย มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยไปในทันที
และในเวลา 10.30 น. ในวันเดียวกัน ผู้พิพากษาศาลฎีกายังได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาผ่าน Video Conference กับศาลจังหวัดนครสวรรค์และศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยมีการเบิกตัวจำเลย ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลกมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์แม้จะเป็นคดีอาญาของศาลจังหวัดนครสวรรค์ก็ตาม โดยเป็นคดีความผิดต่อพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ คดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลย และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยในทันที
นับว่าเป็น New normal ของกระบวนการศาลยุติธรรมของไทย และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่ได้เอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์และป้องกันโรคระบาดที่เกิดขึ้น
You must be logged in to post a comment Login