แอฟริกาตะวันตกระอุ!!! หลังรัฐประหารที่ไนเจอร์ ส่วนชาติพันธมิตรระบุเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสงคราม

รัฐประหารที่ไนเจอร์ เพื่อปลดแอกจากการกดขี่
และกอบโกยผลประโยชน์ของชาติตะวันตกมา
อย่างยาวนาน โดยมีพันธมิตรจากหลายประเทศ
ในแอฟริกาตะวันตกรวมถึงรัสเซียและอิหร่านร่วมสนับสนุน

หลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยหัวหน้าองครักษ์อดีตประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด บาซูม แห่งไนเจอร์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ่นเชิดของฝรั่งเศสและชาติตะวันตก ได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี

ต่อมาพลเอกอับดูราฮามาเน ชีอานี อดีตหัวหน้าองครักษ์ประธานาธิบดี ผู้นำในการทำรัฐประหาร
ได้ประกาศตัวขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่

ภายหลังจากการแถลงข่าวการทำรัฐประหารไม่นานได้มีฝูงชนลุกฮือขึ้นทำการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส โดยทหารของสถานทูตฝรั่งเศสได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย

ต่อมาองค์กร The Economic Community of West African States หรือ ECOWAS ของแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การควบคุมเต็มรูปแบบจากสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสได้ออกมาประกาศว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไนเจอร์ กลับคืนสู่สภาวะปกติ

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ชาติพันธมิตรของไนเจอร์ซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำรัฐบาลจากประเทศ มาลี บูร์กินาฟาโซ และกินี ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรและร่วมกันแถลงข่าวว่า การแทรกแซงกิจการภายในของไนเจอร์ทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นการแทรกแซงและบ่อนทำลายชาติพันธมิตรของพวกเขาทั้งหมด โดยบรรดาผู้นำของชาติพันธมิตรแห่งไนเจอร์ระบุว่า เตรียมพร้อมรับมือกับปฏิบัติการแทรกแซงทางทหารที่อาจจะเกิดขึ้น

ล่าสุด ผู้นำแอลจีเรีย ก็ออกมาแถลงข่าวว่า พร้อมเป็นพันธมิตรร่วมรบกับไนเจอร์ หากถูกชาติตะวันตกเข้าแทรกแซงด้วยปฏิบัติการทางการทหาร

โดยต่อมามีรายงานข่าวว่าเสนาธิการทหารของกองทัพแอลจีเรีย ได้เดินทางมาถึงกรุงมอสโกเพื่อพบกับเสนาธิการของกองทัพรัสเซีย คาดกันว่า แอลจีเรียจะได้รับการสนับสนุนทางอาวุธจากรัสเซียและอิหร่าน ในกรณีที่เกิดการแทรกแซงทางทหารต่อไนเจอร์

ในขณะที่ชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส ก็ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนการแทรกแซงทางทหารโดย ECOWAS โดยหลังจากมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ประธานาธิบดีมาครงแห่งฝรั่งเศสได้ประกาศชัดเจนว่า จะรักษาผลประโยชน์และชีวิตของชาวฝรั่งเศสในไนเจอร์อย่างสุดความสามารถ ก่อนที่ต่อมาจะมีรายงานข่าวว่าได้มีการอพยพชาวฝรั่งเศสออกจากประเทศไนเจอร์อย่างเร่งด่วน