บียาร์เรอัล ผงาดคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก 2021 ได้เป็นสมัยแรกของสโมสร

ในขณะที่กุนซืออูไน เอเมรี่ ก็สร้างสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่สามารถพาทีม คว้าถ้วยรายการนี้ไปถึง 4 สมัยแล้ว

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อเวลาตีสองของคืนวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ระหว่าง บียาร์เรอัล พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม สตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค เมือง กดังส์ค ประเทศโปแลนด์ 

ทีม บียาร์เรอัล ของอูไน เอเมรี่ ไม่มีกองหน้าตัวเก่งอย่าง ซามูเอล ชุควูเอเซ่ ลงสนาม เพราะไม่ผ่านความฟิต
ต้องใช้บริการของ เฆราร์ด โมเรโน่ ดาวยิงประจำทีมลงเล่นคู่กับ การ์ลอส บัคก้า โดยมี ดานี่ ปาเรโฆ
คอยทำเกมส์ในแดนกลาง
ในขณะที่ทีมปีศาจแดง ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็จัดชุดใหญ่ลงสนาม หวังคว้าแชมป์แรกในฐานะผู้จัดการทีมให้ได้

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทีมปีศาจแดง มุ่งมั่นต้องการชัยชนะ พยายามครองบอลทำเกมส์บุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมส์
สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มีโอกาสสับไกยิงจากบอลที่แรชฟอร์ด จ่ายมาให้ตั้งแต่นาทีที่ 7 แต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้า
ในขณะที่ทีมเรือดำน้ำสีเหลือง พยายามตั้งเกมส์บุกบ้าง แต่เกมส์ส่วนใหญ่สู้กันในแดนกลาง โอกาสหลุดเข้าไปสร้างความหวาดเสียวจากการทำประตูมีน้อย
เกมส์ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง บียาร์เรอัลก็เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ จากลูกตั้งเตะ ดานี่ ปาเรโฆ่ เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบหน้าปากประตูปีศาจแดง เฆราร์ด โมเรโน่ วิ่งหนีตัวประกบเบียดกองหลังแมนยูฯ ตั้งเท้าแปบอลด้วยเท้าขวาบอลลอยข้ามหัว ดาบิด เด เคอา เข้าประตูไป ในนาทีที่ 29 ของเกมส์ โดยหลังจากที่โดนขึ้นนำ ทีมปีศาจแดงก็โหมเกมส์บุกเข้าใส่ แต่ก็ยังทวงประตูตีเสมอไม่ได้ หมดเวลาในครึ่งแรก บียาร์เรอัล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0

เริ่มต้นส์เกมส์ในครึ่งหลัง ทีมปีศาจแดงยังโหมบุก ลุยแหลกหวังทวงประตูตีเสมอ จนเวลาผ่านไป 10 นาทีของครึ่งหลัง แมนยูฯก็ได้ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุม ลุค ชอว์เปิดบอล ราอูล อัลบิโอล กองหลังของบียาร์เรอัลสกัดบอลออกมาเข้าทางแรชฟอร์ด เก็บบอลแล้วหวดเต็มเหนี่ยวบอลไปโดนอัลฟอนโซ่ เปดราซ่า ชิ่งไปชนตัว แม็คโทมิเนย์ แล้วบอลกระดอนไปเข้าทาง เอดินสัน คาวานี่ วิ่งไปซัดด้วยขวาในระยะไม่ถึง 6 หลา ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1

เมื่อตามตีเสมอได้ ลูกทีมของ โซลชา ก็เปิดเกมส์รุกเต็มสูบ กดดันเข้าใส่บียาร์เรอัลอย่างหนัก หวังทำประตูขึ้นนำให้ได้ สร้างโอกาสเข้าไปยิงประตูหลายหน แต่ก็ยังไม่ได้ประตูที่ต้องการ จนหมดเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมก็ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ ต้องบู๊กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ทั้งสองทีมก็ยังทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ ต้องมาตัดสินด้วยการดวลลูกโทษ ซึ่งผู้เล่นทั้งสองทีมก็ทำกันได้ดี ยิงประตูกันไม่พลาดเลย ยิงกันไปจนครบตัวผู้เล่นในทุกตำแหน่ง ต้องมาวัดกันจากลูกยิงของนายทวารจากทั้งสองทีม เคโรนิโม่ รูยี่ นายทวารของบียาร์เรอัล ได้ยิงก่อน และก็ยิงได้ดี ส่งบอลผ่านมือนายทวารของปีศาจแดงเข้าประตูไป ความกดดันมาตกอยู่ที่นายทวารมือ 2 ของทีมปีศาจแดง ดาบิด เด เคอา เอาบอลมาตั้งจากนั้นก็เดินถอยหลัง เมื่อได้ระยะก็วิ่งเข้ามายิง แต่เคโรนิโม่ รูยี่ นายทวารของบียาร์เรอัล บินมาปัดบอลออกไป
เซพลูกยิงเอาไว้ได้ ทำให้ บียาร์เรอัล ผงาดคว้าแชมป์ยูโรปาลีก เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    บียาร์เรอัล (4-4-2) ผู้จัดการทีม อูไน เอเมรี่ : เคโรนิโม่ รูยี่ – ฮวน ฟอยธ์ (มาริโอ แกสปาร์ น.88), ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า (อัลแบร์โต้ โมเรโน่ น.88) – เยเรมี่ ปิโน่ (ปาโก้ อัลกาแซร์ น.77), เอเตียนน์ กาปู (เรบ้า น.120+3), ดานี่ ปาเรโฆ, มานู ตริเกรอส (มอย โกเมซ น.77) – เฆราร์ด โมเรโน่, คาร์ลอส บัคก้า (ฟรานซิสโก้ โกเกแล็ง น.60)

     แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) ผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา : ดาบิด เด เคอา – แอรอน วาน-บิสซาก้า (ฆวน มาต้า น.120+3), เอริค ไบยี่ (อั๊กเซล ตวนเซเบ้ น.116), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (อเล็กซ์ เตลลิส น.120+3), พอล ป็อกบา (แดเนี่ยล เจมส์ น.117) – เมสัน กรีนวู้ด (เฟร็ด น.100), บรูโน่ เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – เอดินสัน คาวานี่ 

    ผู้ตัดสินในสนาม : กเลม็องต์ ตูร์กแปง (ฝรั่งเศส)