News
เจาะลึก สุดยอดนายธนาคาร สู่ถนนการเมือง ชาติชาย พยุหนาวีชัย รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
Published
2 ปี agoon
By
tareeyaคุณชาติชาย พยุหนาวีชัย รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ให้เกียรติสัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวโตโจ้นิวส์ โดยผู้สัมภาษณ์คือคุณโอฬาร วีระนนท์ CEO & Co-Founder DurianCorp.
หลายคนกล่าวว่าจะเป็นผู้นำทัพเศรษฐกิจไทยในอนาคต และเป็นนักบริหารตัวจริง นักธุรกิจตัวจริง ที่ผ่านงานScaleหลักหมื่นล้าน หลักแสนล้านมานักต่อนัก แต่วันนี้หลาย ๆ คนรู้จักเขาในฐานะนักการเมือง แต่ความจริงเบื้องหลังผู้ชายคนนี้ยังมีอีกหลายเรื่องมากมายที่เราจะมาเรียนรู้กันวันนี้ วันนี้สำนักข่าวโตโจ้นิวส์ของเราจะไปเจาะลึกให้ฟังว่า คุณชาติชาย พยุหนาวีชัย เป็นอย่างไร
จุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นผู้บริหารธุรกิจขนาดแสนล้าน
ตั้งแต่อดีตคุณชาติชายเกิดมาในครอบครัวธรรมดา พ่อแม่เป็นพ่อค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องขนเป็ดที่ซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ มีลูกทั้งหมด 11 คน โดยพี่น้องของคุณชาติชายสร้างตัวเติบโตมาเรื่อย ๆ จนประสบความสำเร็จทุกคน
การเติบโตของคุณชาติชายในวัยเด็ก
คุณชาติชายเล่าว่า ได้อาศัยอยู่กรุงเทพฯ มาโดยตลอด และโชคดีที่ได้ไปติดตามการทำงานค้าขายของคุณพ่อที่ต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ทำให้ได้ประสบการณ์การเป็นพ่อค้า วิถีชีวิต แนวคิดของพ่อค้า ผ่านมาในช่วงมหาวิทยาลัยคุณชาติชายจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเข้าทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารแรก เมื่อเข้ามาก็ตั้งใจที่จะศึกษาดูงานใน 3 ปี แล้วนำเอาองค์ความรู้รวมถึง Connection ที่ได้นำมาทำมาหากิน เพราะในสมัยก่อนต้องรู้จักธนาคารก่อนถึงจะกู้ธนาคารได้ เมื่อเข้าไปถึงก็ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ระดับกลาง
อายุ 30 กว่าก้าวสู่การเป็นผู้อำนวยการฝ่ายฯ ธนาคารกสิกรไทย
การเข้ามาทำงานในธนาคารกสิกรไทยในตอนนั้น เพิ่งเรียนจบใหม่ และอายุประมาณ 24 – 25 ปี ได้รับความสนใจจากผู้บังคับบัญชา ด้วยความมีศักยภาพที่โดดเด่น ภายในเวลา 10 ปี คุณชาติชายเติบโตเป็นผู้บริหารฝ่าย ซึ่งเรียกว่าประสบความสำเร็จที่สุดในธนาคารกสิกรไทยในช่วงนั้น ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย
จากเด็กธรรมดา กลายมาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของประเทศไทย
ในการเป็นผู้บริหารระดับสูง หรืออยากจะเป็นเศรษฐี ไม่ใช่เรื่องง่าย จริง ๆ ค่อนข้างลำบาก เพราะแข่งขันจากคนรุ่นเดียวกัน รุ่นที่ใหญ่กว่าและอีกมากมายในแต่ละช่วงเวลา คุณชาติชายใช้วิธีให้ความทุ่มเท ทำงานให้เกินความคาดหวังของทุกฝ่าย เพื่อสร้างประทับใจ โดยคิดว่าการที่เราได้ทำงานหนัก นั่นแปลว่าผู้ใหญ่ไว้วางใจเรา บางคนอาจจะเริ่มท้อ เหนื่อย แต่นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณใกล้จะประสบความสำเร็จ
คุณชาติชายได้ให้แง่คิดดี ๆ สำหรับการทุ่มเทเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูง ต้องทุ่มเทและทำงานหนักให้มากกว่าเดิม อย่าคิดว่างานเป็นงาน ให้คิดว่างานคือการละเล่นอย่างหนึ่ง ที่เหนื่อยแต่เรามีความสุข คิดแบบนี้แล้วคุณจะทำงานอย่างมีความสุข ทำให้เราอยากจะตื่นขึ้นมาทำงานในทุกวัน สำหรับน้อง ๆ ทุกฝ่ายเราต้องมีการเรียนรู้ หาประสบการณ์กับองค์กรใหญ่ก่อนสักระยะหนึ่ง ให้เรียนรู้กระบวนการทำงาน หลังจากนั้นเราจะเดินได้อย่างมั่นคง และเกิดการพัฒนาตัวเองมากยิ่งขึ้น
ผู้ใหญ่หลายคนยิ่งคนทำงานธนาคารเขาจะมองเรื่องความเสี่ยง แต่น้อง ๆ ยังเสี่ยงได้ ล้มแล้วลุกขึ้นมาได้ แต่ไม่ใช่ล้มจนลุกไม่ไหว โดยมองว่าผู้ใหญ่อย่างคุณชาติชายหรือคนที่มีประสบการณ์เขาจะไม่อยากล้ม เขาจะคิดว่าทำอย่างไรให้ไม่ล้มแทน แต่สำหรับน้อง ๆ ถ้ายังมีโอกาสหรือมีแรงสนับสนุนจากครอบครัว มีฐานะเพียงพอที่จะล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ได้ ล้มได้ เหนื่อยได้ แต่อย่าท้อ ถ้าไม่ท้อจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน คิดไปข้างหน้า 2-3 ก้าวเสมอ อย่าคิดเท่าคนอื่น คุยเรื่องใหม่ ๆ แนวทางใหม่ ๆ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ก้าวเข้าสู่ธนาคารออมสิน
ตำแหน่งสุดท้ายของคุณชาติชายเป็นรองกรรมการผู้จัดการกสิกรไทย ดูแลเรื่องของ CMO และ Marketing และมีความคิดว่าถ้าอยากจะเป็นเบอร์ 1 และมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพได้มากขึ้น เราจะต้องเปลี่ยนมาทำงานรับใช้ชาติบ้าง คือมาสมัครที่ธนาคารออมสิน ในช่วงนั้นเป็นช่วงภาวะวิกฤตที่ธนาคารรัฐค่อนข้างที่จะมีปัญหามากมาย เรียกว่าธนาคารรัฐจะล่มสลายไปหลายธนาคาร คุณชาติชายไม่อยากให้ธนาคารที่ก่อตั้งด้วยล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ที่เป็นธนาคารเก่าแก่ และเป็นธนาคารรัฐที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในตอนนั้นเกิดปัญหาในเชิงของคุณภาพหนี้หรืออะไรต่าง ๆ
ซึ่งคุณชาติชายมีความรู้ความสามารถด้านของการเงินธนาคารจึงได้เข้าไปดีเบต เพื่อเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินหรือเป็น CEO ของธนาคารออมสิน ช่วงนั้นต้องมีการแข่งขัน ครั้งแรกนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบ ยังเป็นรองผู้อำนวยการไม่ครบ 1 ปี ต่อมาภายใน 1 ปีครึ่งจึงมาสมัครใหม่ เตรียมความพร้อมมากกว่าเดิม ประสบความสำเร็จได้ใจคณะกรรมการ ได้รับคัดเลือก ได้เข้ามา คือวิกฤตที่เป็นโอกาส
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณชาติชายชอบคือเมื่อใดเกิดวิกฤตเมื่อนั้นจะเกิดโอกาสขึ้นเสมอ ภายใน 90 วันแรก ได้ปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด นำโครงสร้างธนาคารเอกชนครอบอยู่ในโครงสร้างของธนาคารออมสินที่เป็นธนาคารรัฐ แบ่งกลุ่มลูกค้า ดูแลลูกค้าเป็นกลุ่ม ๆ มีคนดูแล จัดโครงสร้างให้เป็นระเบียบ ดูแล Branding ทำให้ IT ของเราทันสมัย ดูเรื่อง HR แล้วก็มาดูเรื่องความเสี่ยง เรื่องธรรมาภิบาล เศรษฐกิจฐานะ ออมสินเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเป็นธนาคารที่สามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ได้ จนธนาคารพาณิชย์ตกใจ
คุณชาติชาย และผลงานที่เห็นประจักษ์
คุณชาติชายได้เข้าไปทำงานด้านสินเชื่อและเงินฝาก ในขณะนั้นธนาคารออมสินเรียกได้ว่าเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อและเงินฝากมากที่สุด สามารถส่งเงินฝากเข้าคลังได้ปีละ 18,000 ล้าน มีกำไรจาก 20,000 ล้าน เป็น 30,000 ล้าน บริหารภาพลักษณ์ที่ดี มีกำไรมากขึ้น โบนัสของพนักงานจาก 2-3 เดือนได้เป็น 6-7 เดือน เพราะกำไรมากขึ้น ได้รางวัลจากองค์กรต่าง ๆ ประมาณ 70 รางวัลภายในเวลา 5 ปี โดยรางวัลที่คุณชาติชายภูมิใจมากที่สุดคือ เป็นคนแรกที่ได้ Banker of the year 3 ปีซ้อน และได้รับรางวัลนักการเงินแห่งปี 2 ครั้ง
สร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่าง Digital Banking และ QR Code เป็นคนแรก ตอนนั้นเรียกได้ว่าธนาคารออมสินล้ำหน้าด้าน Digital Banking สามารถทำให้มือถือเบิกเงินจากตู้ ATM ได้โดยไม่ต้องใช้บัตร เป็นธนาคารแรกที่ทำเรื่องนี้ Mobile Banking เติบโตปีละ 100% ทุกปี คุณชาติชายเป็นคนทำ QR Code เป็นคนแรก ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าสแกนแล้วก็ชำระสินค้าได้
การเป็นนายธนาคารเข้าสู่นักการเมืองด้านเศรษฐกิจ และปัจจุบันเข้าสู่พรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค
การออกจากธนาคารออมสินของคุณชาติชายเนื่องจากการเกษียณ ดังนั้นจึงมีหน่วยงานเอกชนมากมายมาชวนให้ไปร่วมงาน และคิดว่าการเป็นผู้นำขององค์กรใดองค์กรหนึ่งยังสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากมาย จึงอยากนำความรู้ ความสามารถช่วยพัฒนาประเทศต่อไปได้
เส้นทางการเมือง ที่มาพร้อมถูกโจมตี
การเลือกเข้ามาในพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะเมื่ออยู่ในการเมืองถ้าหากเราเลือกฝ่ายเลือกข้าง เราก็จะถูกโจมตี แต่เรามุ่งหน้าทำงาน แสดงวิสัยทัศน์ แสดงนโยบายและการปฏิบัติจริง ผู้นำคือผู้ที่สามารถมีวิสัยทัศน์แล้วนำมาวางเป็นกลยุทธ์ ส่วนผู้บริหารคือรับกลยุทธ์นี้ไปแล้วทำให้เห็นผลได้ เราเป็นผู้นำไม่ใช่นักการเมือง เราเป็นนักบริหาร เรามีความรู้ความสามารถที่จะทำงานหรือนโยบายต่าง ๆ ที่พูดให้สำเร็จได้ และมันก็เป็นที่ประจักษ์ว่าผมคิดถูกที่เลือกพรรคนี้ ซึ่งเป็นพรรคกลาง ๆ ไม่ได้เลือกข้าง เน้นทำงานอย่างเดียว ผู้นำซึ่งคือคุณท็อป วราวุธ ก็เป็นคนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นทำงาน ดังนั้นจะเห็นว่าเมื่อเราขึ้นเวทีดีเบตที่ไหน เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร เขาจึงไม่โจมตีเรา ทำให้เราขายนโยบายของเราได้อย่างเต็มที่ ทุกคนคือมิตรของเรา
พรรคชาติไทยพัฒนามีดีอย่างไร ทำไมทุกคนจึงจะต้องเลือกพรรค
พรรคชาติไทยพัฒนามีอุดมการณ์ในการสร้างประเทศไทยให้ยั่งยืน เพื่อลูกหลานไทย อันนี้เป็นคำพูดที่ดี ทางพรรคให้ความสำคัญกับรุ่นใหม่ที่จะเกิดตามหลังมา จะไม่ก่อหนี้เป็นภาระของเขา ไม่สร้างมลภาวะให้ลูกหลานต้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยจะวางรากฐานให้ธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อที่จะเดินต่อไปข้างหน้า สิ่งนี้คือที่เราวางเอาไว้ ถ้าเราปั้นน้อง ๆ รุ่นใหม่ขึ้นมาจัด Startup ขึ้นมา ทำให้เรามีศักยภาพในการออก Platform ใหม่ ซึ่งทำรายได้จากต่างประเทศแล้วดึงรายได้กลับเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงสามารถทำให้ประเทศไทยมีอนาคตก้าวข้าม GDP ที่อยู่ในปัจจุบันนี้
GDP คือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ทำไมต้องวัดจาก GDP สำคัญอย่างไร หรือถ้าไม่อยากวัดจากสิ่งนี้ จะวัดเศรษฐกิจอย่างไร
จริง ๆ แล้ว GDP ไม่มีความหมายกับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ไม่ได้ตอบโจทย์คนในประเทศซึ่งมีคนประมาณ 35 ล้านคน ที่อยู่ในสัดส่วนที่มีรายได้น้อยถึงกลางลงมา ดังนั้น การจะทำให้ประชาชนคนไทยอยู่ได้อย่างมีความสุข ต้องวัดที่ดัชนีความสุข อย่างเช่นการถามว่าพ่อแม่พี่น้องคุณอยากได้สิ่งใด สมมติคนเมืองอยากได้สวนสาธารณะ เราก็จะจัดทำสวนสาธารณะให้ หรืออยากให้ลูกหลานกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านต่างจังหวัด มีแต่ผู้สูงวัยและเด็ก ทำอย่างไรที่จะทำให้คนทำงานกลับบ้านได้ ที่บ้านก็จะต้องมีประสิทธิภาพในการทำมาหากินประสบความสำเร็จได้
คุณชาติชายใช้ชื่อโครงการว่า เสือคืนถิ่น คืนถ้ำ ให้กลับบ้าน นำเกษตรมาปรับปรุง พัฒนาดัดแปลง มีคุณภาพศักยภาพให้เด็กเห็น คุณชาติชายส่งเด็กไปปีละ 400 ทีม ทุกมหาลัยวิทยาลัยส่งตัวแทนหนึ่งทีม 10-20 คน ลงไปที่หมู่บ้าน พัฒนาสินค้าหรือการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน ทำอย่างไรให้เขาสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ เพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 6 เท่า ทำให้พวกเขาเห็นว่ามันทำได้ แล้วเขาก็จะกลับไปสู่ท้องถิ่นของเขาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นตนเอง
ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติไทยพัฒนา คิดเห็นอย่างไรต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
คุณชาติชาย ประสบความสำเร็จด้วย Customer Centric ดังนั้น จะนำเรื่องนี้มาใช้ในเรื่องของการเมืองเป็น People Centric คือการแบ่งประชาชนออกเป็นกลุ่ม ๆ แล้วศึกษาความต้องการของประชาชนแต่ละกลุ่ม ถ้าเขามีความสุขเขาก็จะเลือกเรา
หากมีโอกาสเป็นรัฐมนตรีหนึ่งกระทรวง จะเลือกเป็นกระทรวงใด และมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริง
สิ่งที่คุณชาติชายถนัดที่สุดคือกระทรวงการคลัง โดยผ่านการทำงานทั้งธนาคารรัฐและธนาคารเอกชนมา ดังนั้นจะรู้กลไกในการทำงานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รู้ว่าเอกชนต้องการอะไร รัฐบาลต้องการจะขับเคลื่อนอย่างไร ตามที่ขับเคลื่อนมาไม่ได้ทำได้เร็ว แต่เราต้องคิดเร็ว และเรื่องที่คิดจะต้องทำล่วงหน้า 2-3 ปี เพราะระบบราชการเป็นระบบจัดซื้อจัดจ้าง อันดับแรกวางงบประมาณก่อน เมื่ออนุมัติงบประมาณแล้วจึงจะจัดซื้อจัดจ้าง เป็นเวลา 1 ปี แล้วใช้เวลา Implement อีก 1 ปี แต่ละองค์การที่จะต้องทำเกี่ยวกับเนื้อหาไอทีอีก 3 ปี
ฉะนั้น เราต้องคิดเร็ว วิสัยทัศน์ไกลไปได้เร็ว ข้าราชการคือคนที่อยากทำงาน ดังนั้นถ้าใครที่มาปกป้องผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ เขาก็จะช่วยเราอย่างเต็มที่ และคนที่ทำดีก็ควรได้รางวัล เรามีระบบวัดผลที่ดีให้รางวัลถูกคน นโยบายที่ดีต้องรู้ว่าทำอย่างไรให้เขาเห็นด้วย ทำอย่างไรให้เขาเข้าร่วมกับเรา ทำอย่างไรให้ของบประมาณสำเร็จ นี่คือความสามารถของผู้นำในภาคเอกชนที่ทำได้เอง ทำได้เร็ว ทำได้จริง ดังนั้นแล้ว 4 ปี อาจจะไม่พอ ฉะนั้นต้องให้โอกาสพรรคชาติไทยพัฒนาได้ทำ เราอยากดูแลในกระทรวงที่เราถนัด
ประเทศไทยในแบบฉบับที่คุณชาติชายอยากให้เป็น
ผมอยากจะทำสิ่งที่ไม่เคยคิดและไม่เคยทำ ระเบิดความคิดใหม่ ๆ ออกมาให้กับประเทศไทย ก้าวข้ามปัจจุบันของประเทศไทยไปให้ได้ เราอยากได้นายกที่โลกต้องการ ไม่ใช่ที่ประเทศไทยต้องการ เราต้องอยู่กับสังคมโลกให้ได้ ไปในเชิงมาตรฐานสากลที่เราไม่เสียเปรียบ นำพาประเทศข้ามความขัดแย้ง ข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ข้ามปัญหาปัจจุบันนี้ไปให้ได้ สิ่งที่ผมอยากทำคือทำให้คนส่วนใหญ่มีความสุข กินดีอยู่ดีก่อนเป็นอันดับแรก
ดังนั้นฝั่งหนึ่งเราต้องพัฒนาต่อ อีกฝั่งที่มีศักยภาพมีเทคโนโลยีเราจะต้องสนับสนุนผลักดันให้สามารถไปแข่งขันระดับสูงได้ ดังนั้น เราจะมีศักยภาพของ Startup ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสไปแสดงวิสัยทัศน์มา การใช้งบประมาณหลายๆ แสนล้านไม่จำเป็นเลย ถ้าสมมติผมอยากจะปั้นให้ชาวบ้านมีความรู้ส่งเสริมอาชีพเดิม ที่อาจไม่พอใช้จ่าย ผมใช้แค่คนละ 1,000-2,000 บาทต่อคน ผมทำ 10-20 ล้านคน ใช้งบประมาณเพียงแค่ 2 หมื่นกว่าล้านสามารถสอนคนได้ทั้งประเทศ ในการทำให้ทุกคนมีความรู้ใหม่ พัฒนารายได้ของตนเองเพื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สิ่งที่อยากเก็บไว้ อยากส่งต่อ หรือสิ่งใดที่อยากจะแก้ไข จากการทำงานผ่านมา
ต้องเลือกว่าเราอยากจะเป็น Specialist หรือ Generalist ถ้าเราอยากเป็น Specialist เราต้องรู้ลึกรู้จริง ในสิ่งที่เราควรรู้ ไม่ว่าเราจะรู้เรื่องอะไรก็แล้วแต่ขอให้เรารู้ลึก ผมไม่เชื่อเรื่อง Generalist มีความรู้ทั่วไป คุยได้หมด แต่ไม่รู้จริง ดังนั้นการที่จะมาเป็นธุรกิจ นักบริหาร ถ้าเราไม่รู้จริงก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ต่อมาคือการต้องทำอย่างจริงจัง ทำมากกว่าคนอื่น และสนุกกับการทำงาน สนุกกับการที่เราจะประสบความสำเร็จ และพร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ เสมอ
และเราต้องมีความมั่นใจ ชีวิตเราเจอทาง 2 แพร่งเสมอ กว่าผมจะอยู่ธนาคารรัฐ ก็คิดว่าจะไปดีไหม ต้องทิ้งเงินที่ธนาคารกสิกรไทยมา 20 กว่าล้าน เป็นเงินเดือนสุดท้ายคูณอายุงานของผม ต้องทิ้งเพื่อเลือกที่จะมาประสบความสำเร็จในภาครัฐ เมื่อก่อนการเป็นเบอร์ 1 ของภาครัฐ เหมือนเป็นอธิบดีกรมใหญ่กรมหนึ่ง เราก็แลกกับมันเพื่อความท้าทายในการเกิดสิ่งใหม่ ๆ
วันนี้ก็เหมือนกันเราต้องแลกโดยที่ผมเป็นประธาน เป็นที่ปรึกษาหลายบริษัท เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็มีรายได้สูง แต่การที่เข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเพราะคิดว่า สิ่งที่เราได้มาในชีวิตนั้นพอแล้ว อยากทุ่มเทให้กับภาคประชาชนบ้าง หลักการของ มาสโลว์ เมื่อมีเงินแล้วก็อยากมีชื่อเสียง ถ้าได้โอกาสเป็นรัฐมนตรี ได้มีโอกาสทำงาน เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิต เพราะฉะนั้นทาง 2 แพร่ง นี้ เราต้องตัดสินใจให้ดีโดยใช้ข้อมูลข่าวสาร เราต้องมั่นใจที่จะเลือก เราไม่อยากไปพรรคทางซ้าย หรือพรรคทางขวา เราอยากไปพรรคที่ทำงาน เลือกพรรคเล็กที่ทำงานจริง ๆ
ข้อคิดจากประสบการณ์ชีวิต ที่อยากฝากให้คนรุ่นใหม่ คนรุ่นใดก็ได้ ที่อยากก้าวสู่เส้นทางนักการเมือง
จริง ๆ แล้วการเมืองไม่ได้น่ากลัว เราสามารถสร้างให้เป็นสิ่งสวยงาม ที่สามารถช่วยเหลือและพัฒนาประเทศได้ เพราะเราเป็นคนชี้นำ เป็นคนใช้นโยบายต่าง ๆ ดังนั้นเราต้องการคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนจากการเมืองน้ำเน่ามาสู่น้ำดี วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาของเราได้ลองทำแล้ว โดยนำน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเข้ามาทำงานการเมือง และให้เขาฝึกการเมืองตั้งแต่ต้น วางระบบการเมือง ที่เขาอยากเห็น อยากทำ และนำไปสู่การเมืองน้ำดี เป็นนักการเมืองผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า
คุณชาติชายจะทำ Virtual party คือเป็นพรรคเสมือนจริง ให้น้อง ๆ รุ่นใหม่เข้ามา อยากจะเปลี่ยนการเมืองไทยให้เป็นการเมืองที่ดี และมีคนที่มีความรู้ความสามารถ เปลี่ยนการเมืองไทยให้เป็นการเมืองสร้างสรรค์ เปลี่ยนไปสู่บริบทที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เราควรเลิกตีกัน แล้วมาสามัคคีกัน เปลี่ยนผ่านความขัดแย้งไปสู่ความร่วมมือกัน เพื่อที่จะพัฒนาประเทศไปสู่อนาคต
ถ้ารอบนี้ไม่ได้ตำแหน่งตามที่หวังจะเดินหน้าทำการเมืองต่อไปไหม เพราะอะไร
ถึงจะได้มากน้อย หรือไม่เป็นไปตามที่หวัง เราก็จะทำการเมืองให้เป็นระบบ เป็นสถาบัน อยากจะปรับโครงสร้างของพรรคการเมือง ให้เปลี่ยนไปเป็นคล้าย ๆ บริษัทหนึ่ง ซึ่งต้องเข้าใจประชาชน ตอบโจทย์ประชาชน สื่อสารอย่างต่อเนื่อง สอนประชาธิปไตย และคัดสรรนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาเพื่อประชาชน อย่างนี้เราจะได้พรรคการเมืองที่ดี แล้ววันหน้าไม่ว่าจะเป็นสมัยต่อไป เราจะเห็นพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคที่น่ากลัว และเราจะมองไปข้างหน้ามากกว่าพรรคอื่นก้าวสองก้าว เราจะเห็นการเมืองแบบใหม่ วันนี้ภาพของพรรคชาติไทยพัฒนาเปลี่ยนไป มีทีมเศรษฐกิจ มีคนรุ่นใหม่ ความคิดแบบใหม่ ๆ มีนโยบายใหม่ ๆ ขึ้นมาที่จะสู้กับพรรคการเมืองแบบเก่า ๆ ได้
คิดถึงคุณบู๊ ชาติชาย คิดถึงอะไร
หากจะคิดถึงผม คิดถึงสิ่งที่ทำเพื่อสังคม พูดถึงการเป็นนายธนาคาร คิดถึง Super บู๊ ทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำงานดึกแค่ไหน ตื่นเช้ามาก็สามารถทำงานต่อได้ ความทุ่มเท ตั้งใจ มีวิสัยทัศน์ ที่ดีในการมองไปข้างหน้า แล้วก็รับฟัง การรับฟังคนอื่นเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์ เพื่อการนำมาคิดและต่อยอด ดังนั้นน้อง ๆ เพื่อน ๆ ร่วมงานผม เขาจะภูมิใจในการทำงานของเขา เพราะเขาเป็นคนคิด และผมจะต่อยอดให้มันเกิดผลสำเร็จซึ่งน้อง ๆ ก็จะเกิดความภูมิใจในการทำงานของตนเอง
การแบ่งปันอันมีค่าของผู้ชายที่ชื่อว่า คุณชาติชาย พยุหนาวีชัย รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งผู้ชายคนนี้เคยบริหารพอร์ตธุรกิจมากกว่า 5 ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณของประเทศไทย ผู้ชายคนนี้ที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เริ่มต้นจากคนธรรมดา ที่มีความเข้าใจมนุษย์ สังคม ผู้คน เปลี่ยนแปลงมาในทุกองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เรียกได้ว่าเป็นการแบ่งปันสำหรับคนที่อยากเติบโตในอาชีพ หรือคนที่อยากก้าวสู่เส้นทางการเมือง จากผู้ที่ประสบความสำเร็จตัวจริง
ติดต่อลงโฆษณาได้ที่ 063-412-8364
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติม เพื่อไม่พลาดบทสัมภาษณ์ดี ๆ ได้ที่
Website : TOJONews , DurianCorp
Facebook : TOJONews, DurianCorp.
#พรรคชาติไทยพัฒนา #ชาติชายพยุหนาวีชัย #โอฬารวีระนนท์ #DurianCorp