[TOJO REVIEW] น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกพอเถอะ (Start-up EP.13-14)

เป็นตอนที่หน่วงมากๆ สำหรับในสัปดาห์นี้ ต้องก้มกราบคนเขียนบทงามๆ เพราะทำการบ้านมาดีมาก ทั้งบทการพลิกไปพลิกมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก และการทิ้งปมให้คนดูสับสนไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ฉากเรียกน้ำตาจะมาตอนไหนก็ไม่มีใครรู้  สำหรับเรตติ้ง EP.13 อยู่ที่ 6.5% และ EP.14 อยู่ที่ 6.4% ในโซล

EP.13 

ในตอนนี้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะ 3 ปี ของตัวละคร 

– ดัลมี : ดัลมีตัดสินใจสมัครเข้าทำงานกับอินแจคอมปานี และกลายเป็น COO ของอินแจคอมปานี หลังจากที่ได้ขาย ‘นุนกิล’ ให้กับทูสโทไป และยังเป็นประธานและผู้บริหาร บริษัทชองมยองคอมปานี ซึ่งเป็นทีมพัฒนาที่แตกออกมาจากอินแจคอมปานี เพื่อพัฒนาระบบ AI ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมีสินค้าตัวแรกคือ “ทาร์ซาน” ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเพื่อผู้พิการทางสายตา และผู้สูงอายุให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ซึ่งแนวคิดนี้ ดัลมีได้มาจากเหตุการณ์ในวัน Demo day ที่ระบบของซัมซานเทคสามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ซิงเกิลบอร์ด ซึ่งสามารถทำงานได้ในระบบขนาดเล็กได้และได้นำมาประยุกต์ใช้กับยานยนต์

– โดซาน : เมื่อครบสัญญา 3 ปี ที่โดซานได้เข้าทำงานในทูสโท ร่วมกับ ยงซาน และ ชอลซาน สามเพื่อนซี้ซัมซานเทค โดซานได้เป็นผู้นำทีมพัฒนาที่ได้รับเลือกให้เป็นหน่วยงานสำคัญของศูนย์ AI ในโปรเจคสมาร์ทซิตี้ ใน Sillicon Valley และดูเหมือนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี แต่โดซานดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่  ทั้ง 3 ได้โอกาสพักผ่อนหนึ่งเดือน และตัดสินใจกลับมาที่เกาหลี แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้ง 3 ก็ตัดสินใจไม่กลับไปทำงานที่ทูสโทและกลับมาเริ่มใหม่ที่เกาหลี แม้ว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำงานที่ทูสโทต่อ ดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการทางอารมณ์ของโดซานที่มีกระบวนการคิดและวุฒิภาวะที่มากขึ้น

– ฮันจีพยอง : ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการ SH Venture Capital และดูจะมีความสัมพันธ์ที่กลมเกลียวกับบ้านของดัลมีมากขึ้น บอกเลยว่าชอบลุคนี้ของผู้อำนวยการมากค่ะ ส่วนในด้านความสัมพันธ์ของดัลมีและหัวหน้าทีมนั้น ใช้คำว่า “นิ่งสนิท” ค่ะ เพราะดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่มีอะไรคืบหน้าเลยจ้า

– อินแจ : ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเธอและดัลมีจะดีขึ้น ชอบที่ได้เห็นพัฒนาการของตัวละครอินแจ ที่ดูจะรับฟังมากขึ้น แม้ว่าจะดูเป็นคนสุขุม เด็ดขาด ทำงานเก่ง และอยากที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเธอเก่งจริงไม่ได้เก่งเพราะบารมีพ่อ ช็อตที่น่ารักก็คงจะเป็นวีดีโอโปรโมททาร์ซานนี่แหละค่ะ ต้องไปหาดูเวอร์ชั่นเต็มกันน้า 

“พลังที่จะเปลี่ยนใจของอีกฝ่ายได้ ไม่ใช่คำพูดที่สวยหรู แต่อาจเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าในดวงตาของใครคนนั้น หรืออาจเป็นความรู้สึกร่วมที่มีต่ออีกฝ่าย แต่ว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจิตใจได้รุนแรงกว่าสิ่งอื่นใด คือตอนที่เราพูดความจริงกับอีกฝ่าย ไม่ว่าจะมีตัวแปรอะไรก็ตาม” 

ยงซาน

แต่รางวัลตัวละครที่ทีมข่าวโตโจ้นิวส์ยกให้เป็น “ตัวละครที่มีพัฒนาการมากที่สุด” นั่นก็คือ ‘ยงซาน’ นั่นเอง 3 ปีที่ผ่านไป ทำให้ได้เห็นการเติบโตของแก๊งซัมซาน ที่จากการไม่รู้อะไรเลย ดูจะเป็นเด็กเนิร์ด ไม่ทันคน และการเข้ามา Sandbox ของยงซานเพื่อที่จะแก้แค้นแทนพี่ชายที่เคยเป็นประธานใน Sandbox และต้องจบชีวิตลงด้วยเพราะคำพูดของหัวหน้าทีมฮันที่อาจจะรุนแรงและทำร้ายจิตใจของพี่ชายเขาในอดีต  แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยงซานมีความคิดที่เติบโตขึ้น พยายามที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด และยอมรับฟังข้อติชมมากขึ้น 

EP.14 

เหตุเกิดอีกแล้วค่ะคุณพี่ ! เมื่อ ชองมยองคอมปานี โดนแรนซั่มแวร์ (Ransomware) เล่นงาน ทำเอาดัลมี อินแจ และทุกคนในบริษัทหัวหมุนกันสุดๆ แต่สุดท้าย พระเอกขี่ม้าขาวอย่าง โดซาน และแก๊งซัมซานเทคเก่า เข้ามาช่วยแก้ไขได้ทัน ทีมข่าวโตโจ้นิวส์คือประทับใจที่ได้เห็นซีนนี้มาก และดูทำงานได้โปรมากกว่าเดิมอีก 

หลังจากเหตุการณ์นี้ ทีมนักพัฒนาของอินแจคอมปานีก็ได้หาข้ออ้างในการลาออก และย้ายไปทำกับ Morning Group ซึ่งเป็นบริษัทของพ่ออินแจนั่นเอง ซึ่งร้ายสุดคือ Morning Group ก็ได้เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเหมือนกันกับชองมยองเลย ร้ายจัด พ่อลูกบาดหมางก็วันนี้แหละ

แต่เมื่อทีมนักพัฒนาคู่แฝดเก่าของอินแจคอมปานีลาออกไป ทำให้ต้องรีบหานักพัฒนามาแทนโดยไว เพื่อที่จะมาให้ทันกับงานเปิดตัว “ทาร์ซาน” (แอบแทรกนิดนึง ทาร์ซาน เป็นชื่อที่ดัลมีตั้งขึ้นเพราะเป็นชื่อแรกที่โดซานเล่าถึงกระบวนการ การเรียนรู้ AI ให้กับดัลมีได้เข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ดัลมีใจเต้น และรู้สึกประทับใจ) ซึ่ง Candidate ที่อินแจอยากได้ก็คือ แก๊งซัมซาน นั่นเอง แต่แหม ดัลมีทำร้ายใจโดซานไปมากเมื่อ 3 ปีก่อน นางจะง้อยังไงก็ต้องลองเข้าไปดูกันเองนะคะ 

“สตาร์ทอัพจะมีช่วงลำบากมากกว่าช่วงเวลาดีๆ ในเวลาแบบนั้น พลังอย่างเดียวที่จะทำให้อดทนได้ คือการได้ทำงานที่รัก”

ฮันจีพยอง

ศัพท์คู่ซีรีส์

• Elevator Speech : คำพูดสั้นๆ ที่มีพลังและสามารถเปลี่ยนใจของใครคนหนึ่งได้ภายในเวลาหนึ่งนาทีที่เจอกันภายในลิฟท์ ซึ่งนั่นหมายความว่า การจะพูดเพื่อเปลี่ยนใจใครสักคน ‘เวลา’ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้คนเปลี่ยนใจ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอันยืนยาว หรือค่าจ้างอันสูงลิ่ว แต่อาจะเป็นเพียงความปรารถนาอย่างแรงกล้า หรือความรู้สึกร่วมที่มีต่ออีกฝ่าย ที่มีอนุภาครุนแรงพอที่จะเปลี่ยนใจอีกฝ่ายได้ 
• Elevator Pitch : เป็นเทคนิคการนำเสนอที่มีที่มาชื่อคล้ายๆ กับ Elevator Speech, Elevator Pitch เป็นการนำเสนอไอเดีย โดยใช้เวลาอันสั้น ไม่เกิน 5 นาที เพราะ CEO มีเวลาอันสั้น ดังนั้นผู้นำเสนอควรที่จะเตรียมพร้อมในการนำเสนออยู่ตลอดเวลา มี Wow moment และชี้ให้กับนักลงทุนได้เห็นว่าคุณ หรือธุรกิจของคุณมีดีอย่างไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ยืดยาวพูดอย่างสั้นและกระชับที่สุด และจัดลำดับความสำคัญในการพูดให้น่าสนใจ
• Ransomware : เป็นโปรแกรมชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำร้ายคอมพิวเตอร์ผ่านช่องโหว่ของระบบ ซึ่งอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ไวรัส Spyware หรือ Worms โดยจะล็อกรหัสไฟล์ไม่ให้ใช้เพื่อ “เรียกค่าไถ่”

ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้ว เรื่องราวจุดเริ่มต้น (Start-up) นี้จะเป็นอย่างไร ทั้งความรักและธุรกิจ สัปดาห์หน้าติดตามได้ที่ Netflix ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00 น. ทีมข่าวโตโจ้นิวส์กัดฟันรอดูไม่ไหวแล้วค่า