ดวลเดือด!! ศึกชิงตำแหน่ง “ตัวจริงท่องเที่ยวไทย” ใครจะเป็นผู้ดูแลอนาคตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้ไปต่อ รู้ผลพร้อมกัน 3 ม.ค. 2566 นี้
อีเวนต์ร้อนแรงต้อนรับปี 2566 ของประเทศไทยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว คือ การเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 มค. นี้ ระหว่างนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ อดีตประธานสภาฯ ที่ทำผลงานมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันนักท่องเที่ยว 10 ล้านสิทธิฟรี!! เพื่อกระตุ้นไทยเที่ยวไทย พลิกฟื้นฟู 87 ชุมชนท่องเที่ยวร่วมกับ ธ.ก.ส. และ DEPA พร้อมแต้มต่อด้วยคอนเนคชั่นเดิมที่สามารถทำงานกับทุกภาคส่วนได้อย่างฉลุย กับ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผู้ท้าชิงดาวรุ่งที่ชูจุดขายเรื่องความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแวดวงการเมือง
“โกจง” นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ แถลงนโยบายเร่งด่วนกับสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยว่า ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาด้าน “ดีมานด์” หรือ Demand Side นักท่องเที่ยวทั่วโลกยังให้ความสนใจและมีความต้องการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ปัญหาใหญ่คือฝั่ง “ซัพพลาย” หรือ Supply Side ที่ยังฟื้นกลับมาได้แค่บางส่วนเท่านั้น ฉะนั้นด่วนที่สุดคือการแก้ไขปัญหาฝั่งซัพพลาย หรือ Supply Side ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นายชำนาญ จึงเน้นย้ำนโยบายเร่งด่วนไปที่การเร่งฟื้นฟูทั้งผู้ประกอบการและแรงงานให้กลับมาในระบบ หรือเรียกได้ว่าปั้มหัวใจของผู้ประกอบการให้กลับมาเต้นอีกครั้งให้ได้ โดยกลยุทธ์ 4 เติม ได้แก่ เติมทุน เติมความรู้ เติมลูกค้า และเติมนวัตกรรม
- เติมทุน ในรูปแบบของกองทุนท่องเที่ยว
- เติมความรู้ โดยการ Reskill และ Upskill ผู้ประกอบการ
- เติมลูกค้า ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- เติมนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะ Supply Side ในกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ประมาณ 2 ล้านล้านบาท จากรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท และเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและมาตรการด้านการเงิน (Soft Loan) ได้
- Redesign ออกแบบการท่องเที่ยวไทยใหม่เพื่อสร้างสมดุลทั้งในด้านการตลาด (demand-supply) สร้างโอกาสทางการตลาดให้เพียงพอที่จะรักษา Supply Side ให้อยู่รอด ด้านสินค้า คือการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้น (Man-Made) เพื่อลดการพึ่งพาและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนการเชิงพื้นที่ (City-Community) คือ การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี Smart Tourism เข้ามาช่วยผู้ประกอบการสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์ สร้างโอกาสทางการตลาด และแก้ปัญหา Over-Under Tourism ในแหล่งท่องเที่ยวและเมืองหลัก-เมืองรอง
- สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกระดับ ทั้งคนตัวใหญ่ ตัวกลาง และตัวเล็ก ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ด้าน “โก้ นายภูมิกิตต์ รักแต่งาม” โปรไฟล์ระดับนักเรียนนอก ด้วยประสบการณ์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศโชว์วิสัยทัศน์นโยบายเร่งด่วน ถึงกับเน้นย้ำว่านี่คือนโยบายข้อที่ 0 ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญนโยบายของ นายภูมิกิตต์ รักแต่งาม โดยมี 5 ข้อหลักดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบด้านการเลือกตั้งของคณะกรรมการสภาฯ บนนโยบายกระจายอำนาจและมีส่วนร่วม
- ปรับปรุงทะเบียนสมาชิกและกำหนดมาตรฐานการพิจารณาประเภทสมาชิกให้มีหลักเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับและโปร่งใส
- ปรับปรุงรูปแบบการสื่อสารกับสมาชิกทั้งทางสื่อออนไลน์และรูปแบบปกติ โดยสื่อสารทุกไตรมาสถึงความคืบหน้าของภาระกิจ แนวทางการทำงาน ผลของการปฏิบัติงาน และแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
- ปรับปรุงค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่สภาฯและสนับสนุนให้เข้ารับการฝึกอบรมทักษะด้านต่างๆ ให้มีทักษะที่สามารถเติบโตในสายงานได้
- ปรับปรุงรูปแบบการบริหารรายได้ของสภาฯ ให้มีความชัดเจนโปรงใส และนำรายได้ของสภาฯ นำมาบริการกิจกรรมเพื่อสมาชิกได้อย่างทั่วถึงและเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว และยุทธศาสตร์ชาติ
ดวลหมัดต่อหมัดครั้งนี้!! ถือเป็นการปะทะกันของนโยบายเร่งด่วน ด้านนึงเน้นสานงานฟื้นฟูผู้ประกอบการ แรงงาน แหล่งท่องเที่ยว ที่กำลังไปได้สวย อีกด้านก็เรียกคะแนนด้วยนโยบายการเปลี่ยนแปลงภายใน เรียกว่าแลกกันคนละหมัด และแม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับแรงกดดันอย่างรุนแรงจากฝ่ายการเมือง แต่เสียงสมาชิกส่วนใหญ่ก็ยังคงเรียกร้องนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอนาคตธุรกิจของตัวเอง เพราะหัวใจของการมีสภาฯ คือ สมาชิกสภาฯ ได้รับประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศที่จะได้รับประโยชน์ ในฐานะที่พวกเขาเป็นลูกค้าของสมาชิกสภาฯ (บรรดาเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหลาย) ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับนักการเมืองนอกสภาฯ
การแลกหมัดครั้งนี้จึงวัดใจผู้นำในวงการท่องเที่ยวไทยว่าจะเลือกนโนบายเร่งด่วนแบบไหน เพื่อใคร… ในฐานะประชาชนที่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งจะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ไปด้วย ก็หวังว่าบรรดาผู้นำท่องเที่ยวจะเลือกนโยบายที่นักท่องเที่ยวทั่วประเทศได้ประโยชน์ ไม่ใช่เพียงพื้นที่ใดที่นึง เพราะนี่คือการท่องเที่ยวไทย รวมถึงปกป้องสภาฯ ซึ่งเป็นสถาบันธุรกิจที่ไม่ควรมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง รู้ผลพร้อมกัน 3 ม.ค. 2566 นี้
ติดตามเรา
Website: o2oforum
Facebook: o2oforum
Line: @o2oforum