Connect with us

Sports

“สิงห์บลู” เชลซี บุกไปแบ่งแต้มจาก”ราชันชุดขาว”เรอัลมาดริด กุมความได้เปรียบ จากอเวย์โกล

Published

on

แม้ทีม”สิงห์บลูส์”จะบุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่นได้ก่อน แต่คาริม เบนเซม่า จอมทัพของราชันชุดขาว ตามมายิงประตูสุดสวยให้ เรอัล มาดริด ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เกมส์นัดที่สองต้องไปวัดฝีมือกันอีกครั้งที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านของ เชลซี ในวันที่ 5 พ.ค.นี้

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ของคู่แรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด เจ้าบ้านพบกับ เชลซี ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของ”ราชันชุดขาว”ปรับทีมมาใช้ระบบ 3-5-2 ใช้โทนี่ โครส, กาเซมิโร่ และลูก้า โมดริช ปั้นเกมส์แดนกลาง คาริม เบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์ จับคู่กันเป็นกองหน้าล่าประตู

ส่วนทีม”สิงห์บลูส์”ของโธมัส ทูเคิ่ล เกมส์นี้ใช้ติโม แวร์เนอร์ เป็นกองหน้าตัวเป้าคริสเตียน พูลิซิช และเมสัน เมาท์ คอยทำเกมส์สนับสนุน

ภาพจาก https://twitter.com/masonmount_10/status/1387167903338930176?s=20

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันแบบรัดกุม ทีมเยือนมีโอกาสเข้าไปยิงทักทายเจ้าบ้านจากติโม แวร์เนอร์ ยิงจ่อๆในกรอบหน้าประตู แต่ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารของเจ้าบ้านใช้เท้าเซฟลูกยิงไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ทีมเยือนยังทำเกมส์บุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จนมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 14 เมื่ออันโตนิโอ รุดดิเกอร์ โยนบอลยาวเข้าไปในแดนของ มาดริด คริสเตียน พูลิซิช เอาบอลลงฟื้นแล้วเลี้ยงบอลหนี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนจะตวัดยิงด้วยเท้าขวาส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย เชลซีทีมเยือนขึ้นนำเจ้าบ้าน 0-1

ภาพจาก https://twitter.com/ChelseaFC/status/1387124508419579909?s=20

เมื่อโดนขึ้นนำเจ้าถิ่นก็เปิดเกมส์เข้าแลก ค่อยๆสร้างโอกาสเข้าไปจบสกอร์ แล้วก็มาสมหวังในนาทีที่ 29 จากลูกตั้งเตะโทนี่ โครส ส่งบอลให้ ลูก้า โมดริช ส่งต่อไปให้ มาร์เชโล่ โยนบอลยาวไปทางเสาไกล ราฟาแอล วาราน โหม่งชงเข้ามาหน้าประตู มิลิเตา กระโดดแย่งกองหลังเชลซีขึ้นโหม่ง ลูกบอลลอยมาหน้าประตู คาริม เบนเซม่า พักอก แล้วล้มตัววอลเลย์เต็มข้อ ลูดบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสุดสวย เมื่อตีเสมอได้เจ้าบ้านก็ทำเกมส์บุกกดดันอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสส่องระยะไกลจาก โทนี่ โครส แต่บอลหลุดกรอบเสาไกลไป ทีมเยือนก็เปิดเกมส์เข้าแลก ติโม แวร์เนอร์ เลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบแล้วซัดบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายออกไปอย่างน่าสเียดาย จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด เสมอกับ เชลซี 1-1

ภาพจาก https://twitter.com/realmadrid/status/1387156531762896896?s=20

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเริ่มเน้นเกมส์บุก เปลี่ยนตัวเร็วตั้งแต่นาทีที่ 66 ส่ง เอแดน อาซาร์ ลงมาเล่นแทน จูเนียร์ วินิซิอุส ทางฝั่ง “สิงห์บลูส์” เองก็เปลี่ยนตัวทีเดียวสามคน ถอด คริสเตียน พูลิซิช, ติโม แวร์เนอร์ และ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า แล้วส่ง ฮาคิม ซิเย็ค,ไค ฮาแวร์ตซ์ และรีซ เจมส์ ลงเล่นแทน เวลาที่เหลือแม้จะพยายามทำเกมส์บุกเข้าใส่กันทั้งสองทีม แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น จบการแข่งขัน เรอัล มาดริด เสมอกับ เชลซี 1-1 ไปลุ้นนัดที่สองอีกทีที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อหาทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เชลซีกุมความได้เปรียบจากการมาได้ประตูในฐานะทีมเยือน

ภาพจาก https://twitter.com/ChelseaFC/status/1387130764010168320?s=20

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   

        เรอัล มาดริด (3-5-2) กุนซือ : ซีเนอดีน ซีดาน : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เอแดร์ มิลิเตา, ราฟาแอล วาราน, นาโช่ เฟร์นานเดซ – ดานี่ การ์บาฆัล (อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า น.77), โทนี่ โครส, กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช, มาร์เชโล่ (มาร์โก อเซนซิโอ น.77) – คาริม เบนเซม่า (โรดรีโก้ น.90+2), วินิซิอุส จูเนียร์ (เอแดน อาซาร์ น.66) 

        เชลซี (3-4-2-1) กุนซือ : โธมัส ทูเคิ่ล : เอดูอาร์ เมนดี้ – อันเดรีย คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รุดดิเกอร์ – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (รีซ เจมส์ น.67), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ – เมสัน เม้าท์, คริสเตียน พูลิซิช (ฮาคิม ซิเย็ค น.66) – ติโม แวร์เนอร์ (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.66)

        ผู้ตัดสินในสนาม : ดานนี มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์) 

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: