Connect with us

Sports

“เรือใบสีฟ้า”บุกไปดับซ่า”เปแอสเช” ถึงถิ่นปารีส พลิกกลับมาเอาชนะ ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก คู่ที่สอง นัดแรก

Published

on

เจ้าถิ่น ปารีส แซง-แฌร์แมง ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 14 ก่อนที่ครึ่งหลังทีมเยือนจะแผลงฤทธิ์ตามมายิงคืนสองประตูรวด จากเควิน เดอ บรอยน์ และริยาด มาห์เรซ พลิกกลับมาเอาชนะเจ้าบ้านแบบสุดมันส์

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สองนัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์-แฌร์แมง จากฝรั่งเศสเปิดบ้านสนาม ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ รับมือเต็งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล่าสุดที่คู่นี้เคยเจอกันคือรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 2016 “เรือใบสีฟ้า” บุกมายันเสมอได้ก่อน 2-2 ก่อนกลับไปเล่นในบ้านเบียดเอาชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกในปีนั้นไป

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือของทีมดังเมืองน้ำหมอใช้คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ลงเป็นกองหน้าตัวเป้า พร้อมทั้งเนย์มาร์ และอังเคล ดิ มาเรีย 

ทางฝั่งของทีมเรือใบสีฟ้า ของกุนซือสมองเพชรอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังจากเพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ปรับทีมเล็กน้อยโดยใช้ ฟิล โฟเด้น,แบร์นาโด้ ซิลวา และริยาด มาห์เรซ ลงเล่นเป็นกองหน้าโดยมี เควิน เดอ บรอยน์ เป็นจอมทัพบัญชาเกมส์ในแดนกลาง โดยให้ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวจี๊ดนั่งสำรองข้างสนามไปก่อน

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นบอลกันแบบรัดกุม ทีมเรือใบสีฟ้าครองบอลได้มากกว่า แต่ก็ยังเจาะแนวรับของทีมดังเมืองน้ำหอมได้ 10 นาทีผ่านไปเจ้าบ้านเริ่มตั้งเกมส์ของตัวเองได้ ก็ทำเกมส์บุกเข้าใส่ทีมเยือนบ้าง แล้วก็ได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 15 จากลูกเตะมุม อังเคล ดิ มาเรีย เปิดบอลเข้ามาหน้าประตูของทีมเยือน มาร์กินญอส วิ่งโฉบมากระโดนโหม่งเช็ดบอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม นายทวารมือหนึ่งของเรือใบได้แต่ยืนมอง เปแอสเช ขึ้นนำ 1-0 เมื่อถูกขึ้นนำ ทีมเยือนก็ทำเกมส์บุกเข้าสู้ มีโอกาสไปสร้างความหวาดเสียวอยู่สองครั้งจากลูกดีดของแบร์นาร์โด้ ซิลวา และลูกยิงไกลของฟิล โฟเด้น แต่ก็ยังทวงประตูคืนไม่ได้  จบเกมส์ครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แฌร์แมง นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-0

ภาพจาก Getty Image

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นมีโอกาสทำประตูเพิ่มสองหนแต่ก็ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม ทีมเยือนก็พยายามตั้งเกมส์สวนกลับเพื่อทวงประตูคืน จนนาทีที่ 64 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลแฉลบกองหลังของเจ้าบ้าน ลูกบอลลอยเข้าไปในกรอบ 6 หลาก่อนที่จะมุดเบียดเสาไกลเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูตีเสมอ 1-1

ภาพจาก https://twitter.com/ManCity/status/1387502206426001411?s=20

อีกเพียงอึดใจเดียว ทีมเยือนก็ได้ประตูขึ้นนำ จากลูกตั้งเตะ ริยาด มาห์เรซ ซัดบอลทะลุกำแพง เสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม “เรือใบสีฟ้า” พลิกกลับมาแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาที 71 ของการแข่งขัน แถมเจ้าบ้านต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่ออิดริสซ่า กาน่า เกย์ ทำฟาวล์ใส่ อิลคาย กุนโดกัน อย่างน่าเกลียด เฟลิกซ์ ไบรช์ ผูตัดสินในสนามจากเยอรมัน แจกใบแดงไล่ออกสนามไปในนาทีที่ 77

ภาพจาก https://twitter.com/ManCity/status/1387505049228693504?s=20

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านก็ไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ ทำให้จบเกมส์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ตุนความได้เปรียบจากประตูเทียมเยือนและสกอร์ที่ขึ้นนำอยู่ ก่อนกลับไปเล่นนัดที่สอง ที่ เอธิฮัต สเตเดี้ยม ในวันอังคารหน้า 

ภาพจาก https://twitter.com/PSG_English/status/1387510498925625362?s=20

       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-2-3-1) ผู้จัดการทีม : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ : เกย์ลอร์ นาวาส – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินญอส, เปรสแนล คิมเปมเบ้, มิตเชล บักเกอร์ – อิดริสซ่า กาน่า เกย์ (ใบแดง น.77), เลอันโดร ปาเรเดส (อันเดร เอร์เรร่า น.83) – อังเคล ดิ มาเรีย (ดานิโล เปเรยร่า น.80), มาร์โก แวร์รัตติ, เนย์มาร์ – คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
 แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ (โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น.61) – โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น    

        ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน) 

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: