Connect with us

Sports

“ปีศาจแดง” โกงความตาย ไล่ยิงรัวใส่”สิงห์ผยอง”แอสตันวิลล่า ในครึ่งหลัง พลิกกลับมาเอาชนะนอกบ้าน ไปได้ 1-3

Published

on

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนวิลล่า พาร์ค บ้านของสิงห์ผยอง แอสตัน วิลล่า นัดนี้มีความหมายกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ของคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยถ้าหากทีม แมนยูฯ กลับออกมาด้วยความพ่ายแพ้ ต่อแอสตัน วิลล่า แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็จะตกเป็นของ ทีม เรือใบสีฟ้า อย่างเป็นทางการ

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึกประจำวันคืนอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 ที่สนาม วิลล่า พาร์ค เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 11 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูง ดีน สมิธ กุนซือของทีม “สิงห์ผยอง” กำลังทำผลงานได้ดี ทีมไม่แพ้ใคร เก็บได้ 4 แต้มจาก 2 เกมส์ล่าสุด เกมส์นี้ส่ง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า ให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ คอยปั้นเกมส์สนับสนุนในแดนกลาง ด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือของ ทีมปีศาจแดง เน้นเกมส์นี้เป็นพิเศษ โดยจัดทัพส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงเล่นทั้ง เมสัน กรีนวู้ด,บรูโน่ เฟอร์นันเดส,พอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วน เอดินสัน คาวานี่ นั่งเป็นตัวสำรอง

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทีมเยือนเป็นฝ่ายครองบอลเข้าบุกใส่เจ้าบ้าน เล่นไปได้ 6 นาที ลุค ชอว์ ลากบอลหลุดเข้าไปยิงในกรอบ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารของสิงห์ผยองยังทุบบอลเอาไว้ได้ ก่อนที่กองหลังเจ้าบ้านจะมาช่วยเคลียร์บอลออกไปได้ หลังจากนั้นทีมเยือนก็บุกแบบไม่หยุด พาบอลเข้าไปสร้างความหวาดเสียวให้เจ้าถิ่นอยู่เป็น ระลอกๆ เจ้าบ้านแม้เกมส์บุกจะเป็นรอง แต่ก็มีโอกาสอยู่บ้าง เมื่อแบร์ทรองด์ ตราโอเร่ ได้บอลที่หน้าประตูปีศาจแดง แล้วพาบอลแหวกกองหลังแนวรับ หมุนตัวตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมมุมในของเสาไกลเข้าไปอย่างเหนือชั้น แอสตัน วิลล่า ขึ้นนำ 1-0 เมื่อโดนขึ้นนำ ทีมปีศาจแดงก็โหมบุก หวังทวงประตูตีเสมอ แต่เล่นกันจนหมดเวลาในครึ่งแรก ก็ยังทวงประตูคืนไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรก แอสตัน วิลล่า นำ แมนยูฯ อยู่ 1-0

ภาพจาก https://twitter.com/AVFCOfficial/status/1391392304489971718?s=20

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง ทีมเยือนยังเปิดฉากบุกเข้าใส่เช่นเดิม เล่นไป 3 นาที พอล ป็อกบา ได้โอกาสสับไกยิงที่หน้าประตูของแอสตัน วิลล่า บอลแฉลบขา ไทโรน มิงส์ ออกหลังไป เจ้าถิ่นมีโอกาสก็สวนกลับหวังทำประตูนำห่าง แต่ทีมเยือนมาได้จุดโทษในนาทีที่ 51 จากจังหวะดักลาส ลุยซ์ เบียดแย่งบอลกันกับ พอล ป็อกบา แล้วพลาดเสียเหลี่ยมทำฟาวล์ พอล ป็อกบา ล้มลงในกรอบเขตโทษ บรูโน่ เฟอร์นันเดส รับหน้าที่สังหาร ซึ่งบรูโน่ก็ยิงเข้าประตูไปไม่พลาด “ปีศาจแดง” ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 52

ภาพจาก https://twitter.com/B_Fernandes8/status/1391442837066207236?s=20

เมื่อตีเสมอได้ทีมเยือนก็โหมบุก อีก 4 นาทีถัดมา วานบิซซาก้า เลี้ยงบอลมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะจ่ายบอลเข้าไปให้ เมสัน กรีนวู้ด ที่บริเวณหน้ากรอบประตูของแอสตัน วิลล่า กรีนวู้ด จับบอลหลอกกองหลัง แล้วหมุนตัวตวัดยิงด้วยเท้าซ้าย ลูกพุ่งเรียดเข้าทางมุมเสาไปอย่างสวยงาม ปีศาจแดง ขึ้นนำ แอสตัน วิลล่า 1-2

ภาพจาก https://twitter.com/awbissaka/status/1391424394329792514?s=20


นาทีที่ 78 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เอริค ไบยี่ ถูกส่งลงมาเล่นแทน ทีมเยือนก็ยังโหมบุกต่อ ก่อนหมดเวลา ในนาทีที่ 87 ทีมเยือนเดินหน้าบุกเข้ามาในแดนของเจ้าบ้าน มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลแล้วเปิดเข้าไปหน้าประตู เอดินสัน คาวานี่ วิ่งโฉบเข้ามาโหม่งเช็ด ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ทำประตูขึ้นนำห่างเป็น 1-3

ภาพจาก https://www.theguardian.com : Shaun Botterill/PA

แถม 2 นาทีต่อมา เจ้าบ้านต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อโอลลี่ วัตกิ้นส์ พาบอลบุกเข้าไปในแดนของปีศาจแดง ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารของ แมนยูฯ ออกมาสกัดบอลแล้วปะทะกับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินมองว่าวัตกิ้นส์ เจตนาพุ่งล้มเพื่อเรียกฟาล์ว จึงแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ในนาที 89
เล่นกันต่อจนหมดเวลาการแข่งขัน จบเกมส์ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้ถึงถิ่น 1-3 เก็บสามคะแนนสำคัญตุนเอาไว้ไล่จี้และทำให้ทีมจ่าฝูงของตาราง แมนเชสเตอร์ วิตี้ ยังไม่สามารถ ประกาศฉลองแชมป์อย่างเป็นทางการได้
    

ภาพจาก https://twitter.com/ManUtd/status/1391407643307171842?s=20

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – แมทธิว แคช, เอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงส์, แมตต์ ทาร์เกตต์ – ดักลาส ลุยซ์ (จาคอบ แรมซีย์ น.65), จอห์น แม็คกินน์ – แบร์ทรองด์ ตราโอเร่, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (คีนาน เดวิส น.78), อันวาร์ เอล กาซี่ (เวสลีย์ น.78) – โอลลี่ วัตกิ้นส์

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน – แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (เอริค ไบยี่ น.78), ลุค ชอว์ – เฟรด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ – เมสัน กรีนวู้ด (เอดินสัน คาวานี่ น.65), บรูโน่ เฟอร์นันเดส (เนมานย่า มาติช น.86), พอล ป็อกบา – มาร์คัส แรชฟอร์ด 

  

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: