สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นเริ่มดำเนินแผนงาน “คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกภายใน 100 ปี” ขึ้นในปี 1992
พวกเขาอาจเป็นชาติมหาอำนาจเรื่องนวัตกรรม, เทคโนโลยี, วัฒนธรรม, อาหาร, ท่องเที่ยว, ยานยนต์ และ เศรษฐกิจ
แต่สำหรับเรื่องของฟุตบอล สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นรู้ดีว่าด้วยข้อจำกัดทางกายภาพ ที่โครงสร้างทางร่างกายด้านต่างๆ เช่น ยีนส์ ฮอร์โมน และ พันธุกรรม เป็นตัวแปรที่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
เวลา 100 ปีตามแผนงานนั้นจึงเป็นเป้าหมายที่สมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่นมองจากสภาพความเป็นจริง ทั้งที่มีความพร้อมในทุกๆ ทางอยู่แล้วก็ตาม
ปี 1994 พวกเขาตกรอบคัดเลือกโซนเอเชียในรอบสุดท้าย ด้วยการมีแต้มน้อยกว่าซาอุดีอาระเบีย 1 คะแนน และ ตกรอบด้วยการมีลูกได้เสียเป็นรองเกาหลีใต้
ปี 1998 ผ่านรอบคัดเลือก แต่ไปแพ้รวด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม
ปี 2002 เป็นเจ้าภาพ ผ่านรอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะรัสเซีย, ตูนีเซีย และ เสมอ เบลเยี่ยม แต่ไปแพ้ 0-1 ให้กับทีมชาติตุรกีชุดที่ดีที่สุดตลอดกาล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ปี 2006 ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยผลงาน เสมอ 1 แพ้ 2
ปี 2010 ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการชนะเดนมาร์ก, ชนะแคเมอรูน และ แพ้ ฮอลแลนด์ แล้วไปแพ้ ปารากวัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการยิงลูกจุดโทษตัดสิน
ปี 2014 แพ้ไอวอรี่โคสต์, แพ้โคลอมเบีย เสมอ กรีซ ตกรอบแบ่งกลุ่ม
ปี 2018 ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ชนะโคลอมเบีย เสมอเซเนกัล แพ้โปแลนด์ แต่ไปแพ้ 2-3 ให้เบลเยี่ยม ทั้งที่นำไปก่อน 2-0 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ปี 2022 ชนะเยอรมัน, ชนะสเปน และ แพ้จุดโทษโครเอเชียในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
30 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ 4 ครั้ง
ตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษ 2 ครั้ง
ตกรอบด้วยการแพ้ทีมที่ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง
ตกรอบด้วยการแพ้ทีมที่เป็นรองแชมป์โลก 1 ครั้ง
เป็นชาติจากเอเชียชาติแรก และ ชาติเดียว ที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ 2 สมัยติดต่อกัน
และ ทุกครั้งที่ญี่ปุ่นตกรอบแบ่งกลุ่ม ก็ไม่เคยมีทีมจากเอเชียผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปได้
ซึ่งไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นที่พัฒนา เพราะฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ออสเตรเลียแพ้ 1-2 ต่ออาร์เจนติน่า, เกาหลีใต้แพ้ 1-4 ต่อบราซิล และ ญี่ปุ่นแพ้จุดโทษโครเอเชียในรอบน็อคเอาท์หลังจากเสมอ 1-1 ซึ่งทุกทีมแพ้ให้ทีมมหาอำนาจลูกหนังในยุคนี้
สำหรับญี่ปุ่น ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าศักยภาพด้านร่างกายของพวกเขาเป็นรองคู่แข่งน้อยลงมากๆ เนื่องด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา
ส่วนในเรื่องฝีเท้า พวกเขาพัฒนาขึ้นมามากเช่นกันด้วยการเล่นด้วยระบบทีมที่ชดเชยส่วนอื่นๆ จนสามารถสู้กับได้เกือบทุกทีม ด้วยการฝึกฝนอย่างเข้มข้นภายใต้ระบบที่ยอดเยี่ยม
ด้วยผลพวกจากการพัฒนาฟุตบอลลีก จนสามารถส่งออกผู้เล่นไปพัฒนาศักยภาพในลีกต่างทวีปที่ช่วยพวกเขาได้มากในเรื่องที่สร้างเองในประเทศไม่ได้
แล้วถ้าพวกเขาสามารถมีดวงสักหน่อยในการไขว้สายในรอบน็อคเอาท์ บางทีเราจะได้เห็นทีมจากเอเชียมากทีมในรอบลึกๆ และ อาจได้เห็นทีมเอเชียมาแข่งกันเองในรอบน็อคเอาท์ในไม่ช้า
จากฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 ครั้งล่าสุดนี้ ทั้งโลกคงต้องยอมรับว่า ญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นมากกว่าทุกทีมเมื่อมองไแที่เรื่องผลตอบแทนที่ได้มา
เวลา 30 ปีแรกจากแผน 100 ปี มีแต่ผลในทางบวก และ คุ้มค่าต่อการลงทุนในทุกรูปแบบ
การสู้กับทีมใหญ่ พวกเขาดีขึ้นจนชนะได้
การสู้กับทีมระดับเดียวกัน พวกเขาแพ้ยาก
ส่วนการสู่กับทีมระดับทวีปเดียวกัน พวกเขาสามารถส่งทีมเล็กไปแข่งได้หลายรายการ
แม้อาจจะยังกล่าวไม่ได้เต็มปากว่า ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ ยังก้าวข้ามเอเชียได้ไม่พ้นทั้ง 2 เท้า แต่เราสามารถกล่าวได้ว่าพวกเขาย่างเท้าเข้าสู่ระดับโลกไปแล้ว 1.5 ข้าง
#บทความโดยมิสมาต้า
#เพื่อไม่พลาดบทความและข่าวสารดีๆอย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS