เมื่อช่วง 03.00 น. วันที่ 10 ธ.ค นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมไนท์คลับ ภายในซอย สุขุมวิทซอย 11
จากการเข้าตรวจสอบพบว่า ผับดังกล่าวไม่มีไม่มีใบอนุญาต ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมพบนักเที่ยวกว่า 150 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ใช้บริการอยู่ภายในผับดังกล่าว โดยไม่มีการเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันโควิด 19
ซึ่งการเข้าตรวจค้นและจับกุมในครั้งนี้เนื่องจากได้รับแจ้งจากทางรัฐสภาประสานให้กระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจสอบสถานบันเทิงดังกล่าว เพราะมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากว่า สถานบันเทิงดังกล่าว เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเปิดถึงเวลา 4 นาฬิกาของทุกวัน ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยในระแวกใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน ทั้งการจราจรและเสียงดังหลังปิดให้บริการ นอกจากนี้ยังเกรงว่าจะเป็นสถานที่แพร่ระบาดของ เชื้อโควิด 19 เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ใช้บริการจำนวนมาก
การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบ ว่าทางร้านมีการให้บริการบารากุ และพบเตาบารากุและอุปกรณ์จำนวนมาก ขณะที่การตรวจค้นที่ชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่พักของพนักงานและเป็นที่ตั้งของสำนักงานสถานบริการ พบว่าภายในห้องน้ำชายชั้นสอง มีซองพลาสติกภายในบรรจุยาเสพติดที่คาดว่าจะเป็นประเภท เคตามีน อยู่จำนวนหนึ่ง และยังพบว่ามีตกอยู่ตามพื้นที่ของสถานบันเทิงอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะมีการขยายผลตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการตรวจสอบนักท่องเที่ยวพบว่ามีนักท่องเที่ยว ปัสสาวะ สีม่วง 3 รายแบ่งเป็น สีม่วงที่คาดส่าจะมาจากยาไอซ์ 2 ราย และจากยาเคตามีน อีก 1 ราย โดยต่อจากนี้จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ยังพบว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานบริการ ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต จึงมรการจับกุมผู้จัดการร้าน และแจ้งข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด, กระทำการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และขายหรือให้บริการสินค้าบารากุ
ซึ่งต่อจากนี้ จะมีการเสนอเรื่องให้ปิดสถานบริการ และดำเนินคดีทางอาญากับผู้ดูแลและเจ้าของ เนื่องจาก ฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 22/28558 ซึ่งออกสั่งปิดสถานบริการจะมีระยะเวลา 5 ปี
You must be logged in to post a comment Login