Connect with us

Politics

เชื่อ “ธรรมนัส”ล้มรัฐบาลยาก

Published

on

“ยงยุทธ” มองแลนด์สไลด์ ก็ได้นายกฯคนเดิม ถ้ายังมีส.ว.250

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางกระแสข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยมีนายเทวกฤต พรหมมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานวันนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาของประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ทบทวนกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา โดยจะได้รับฟังแนวคิดใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาของชาติ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังว่าการเสวนาในวันนี้จะนำไปสู่การสร้างแรงผักดันเชิงบวก และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เพื่อประเทศไทยของเราจะได้มีทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้น

นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึง ปัญหาต่างๆ ในประเทศที่มีรอบด้าน พรรคเพื่อชาติจะแก้ไขปัญหาจากต้นตอให้สำเร็จ ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและโอกาสใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงธุรกิจใหม่ใหม่ ที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้าประเทศ พรรคเพื่อชาติมีความตั้งใจ ทำเพื่อประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ด้วยยุทธศาสตร์พลิกแผ่นดิน ฟื้นแผ่นน้ำ อีกทั้งจะสนับสนุนsoft power ให้มีที่ยืนในเวทีโลก

นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าวว่า วันนี้แม้จะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ถ้าประชาชนพร้อมให้เราใหญ่ เราก็จะใหญ่ให้ประชาชน พรรคต้องการมีส.ส.จำนวนมากในสภาฯ แต่ต้องเป็น ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ส.ส.ที่เพียงไปนั่งเล่นในสภาฯ สิ่งพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

จากนั้น เวทีเสวนา “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” มีนายวิโรจน์ อาลี นายจารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมงาน โดยมีนายศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายวิโรจน์ กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากจนเกินไป และไม่ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่มีอยู่ และไทยขาดศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากการรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลทหารไม่ได้ พัฒนาเท่าที่ควร ซึ่งผู้นำในการบริหารงาน ที่เป็นระบบรัฐราชการ ทำให้เกิดความก้าวหน้า ดังนั้นควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง

นายจารุพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ทั้งนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องของความมั่นคง ซึ่งมีหลายด้าน แต่ปัจจุบันในประเทศไทย รัฐมองเรื่องความมั่นคงแคบเกินไป และมีปัญหาในการปรับตัว ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่าในอนาคตจะเกิดภัยคุกคามอย่างหนึ่ง คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง และคาดว่า อนาคตจะมีการประท้วงกันมากขึ้น ทั้งนี้ คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ ทั้งผู้นำและนักการเมือง ต้องปรับแนวคิดว่า คือผู้รับใช้เพื่อประชาชน

ขณะที่นายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบ เปรียบเทียบกับต่างประเทศ มีความก้าวหน้าไปมากกว่าไทย แต่ไทยยังไม่พัฒนาได้ทัน อีกทั้งยังไม่มีการปรับตัวในหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถาม ที่ไทยเสียเปรียบในหลายเรื่องนั้น เป็นเพราะไทยขาดความเข้าใจในการบริหารงานในภาวะวิกฤติ รวมถึงมีการคอรัปชั่นหรือไม่

นายยงยุทธ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลคนที่ยากจนและอ่อนแอ พร้อมสร้างศักยภาพให้คนเหล่านั้น มีความพร้อมในการแข่งขัน ประเทศจึงจะเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้เพียงแต่กลุ่มทุนรายใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาของไทยขณะนี้ คือ มีกฎหมายล้าหลัง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ และต้องมีการสร้างขีดความสามารถของมนุษย์
แต่มองว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย

“ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศไทย ว่าหนักที่สุด คือ ที่ผ่านมา กว่า 30 ปี มักจะได้ยินว่า ส.ส.ไปรับเงินในห้องน้ำ เวลาจะผ่านกฎหมายสำคัญ และยังสามารถย้ายพรรคได้ตลอดเวลา จึงทำให้ ส.ส.ชอบทำมาหากินแบบการกินกล้วย เป็นแบบนี้มาตลอด จนนำไปสู่การปฎิรูป เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ซึ่งหากถามว่าจะสามารถเปลี่ยนประเทศได้หรือไม่นั้น จะต้องทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ และที่สำคัญ ต้องมีกระบวนการคัดสรรนายกรัฐมนตรี ที่ตรงกับสายอาชีพ ไม่ใช่เอายาม หรืออาชีวะมาทำหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา และถ้าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ คือประชาชนต้องรับผิดชอบผ่านการเลือกตั้ง”

เมื่อถามถึง การเลือกตั้งในปีหน้าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ คือ ฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะทั้งประเทศหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่าตราบใดที่เรายังมี ส.ว.250 คน ก็คือปัญหา ดังนั้นการที่บอกจะแลนด์สไลด์ ภายใต้เงื่อนไขและกติกาในปัจจุบัน ต้องได้ 300 เสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะการจัดกระบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยยังไม่เรียบร้อย แต่ถ้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าคะแนนก็น่าจะเบี่ยงกันเล็กน้อย และแม้การเลือกตั้งจะได้เสียงถล่มทลายแค่ไหน แต่เมื่อตั้งรัฐบาล ก็จะได้คนเดิมๆ กลับมา ซึ่งตนมีข้อกังวลในเรื่องนี้

ทั้งนี้ มองปรากฎการณ์ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาฯพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างไร และพรรคเศรษฐกิจไทย จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจนล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า การจะล้มรัฐบาลเป็นปรากฏการณ์ที่ยากมาก เพราะ กระบวนการในสภาฯ ยังเอื้อกับฝ่ายรัฐบาล ทั้งประธานสภาฯ ที่มักจะชอบปิดประชุมทุกครั้งที่รัฐบาลอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำ และมักจะมีช่องทางให้ซื้อ ส.ส.เพื่อโหวตภารกิจสำคัญ

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: