เปิดความจริง! แชร์นโยบายหาเสียงเก่า พปชร. “ธันวา” ลั่น! ต้องเป็นธรรมกับ “อุตตม-สนธิรัตน์” ชี้ ตกเป็นแพะรับบาป

ธันวา ชี้ 4กุมาร กลายเป็น ‘แพะรับบาป’ รู้ไหมเจออะไรมาบ้างใน พปชร.ก่อนออก อำนาจที่แท้จริงอยู่กับใคร แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ทำ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสวนหลวง-ประเวศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยถึงกรณี ที่มีการแชร์ ทวงถามถึงนโยบายการหาเสียง ของพรรคพลังประชารัฐ ในอดีตที่ผ่านมา โดยนายธันวา ระบุว่า

หาเสียงไว้แล้วไม่ทำ ต้องด่าให้ถูกคน แม้ผมจะสอบตก แต่ก็สร้างคะแนนให้พปชร.ไปกว่า 3 หมื่น ช่วยส่งส.ส. บัญชีรายชื่อเข้าสภาไปครึ่งคน หลังจากนั้นไม่เกิน 1 ปีก็ตัดสินใจลาออกจากพรรค โดยฝากข้อทักท้วงไว้ 9 ข้อเพื่อให้ปรับปรุงตัว

วันนั้นออกข่าวหลายช่อง เพราะมันตรงกับความรู้สึกของประชาชน แต่บางคนก็พาลหาว่าผมอกหัก ไม่ได้กล้วย ไม่มีงาน ทั้งที่ผมก็มีภารกิจที่ได้รับมอบหมายอยู่เช่นกัน หรือจะหาตังค์ก็คงไม่ยาก

สาเหตุหลักที่ลาออก เพราะตอนเลือกตั้งผมประสานประชาชนไว้หลายกลุ่ม รับปากแทนพรรคไว้เยอะ แต่พอได้เป็นรัฐบาลกลับแทบไม่มีใครสนใจทำตามคำสัญญา
มวลชนหลายกลุ่มมักมาทวงคำสัญญาที่หน้าพรรคเป็นประจำ สถานการณ์ไม่ต่างกับที่พปชร.รัฐบาล กำลังถูกสังคมทวงถามตอนนี้ ทราบไหมครับ คนที่คอยช่วยผมประสานคือ “กลุ่มสี่กุมาร”

แต่หลายนโยบายมันไม่ได้อยู่ในโควต้าพรรค ซึ่งเจ้ากระทรวงเขาก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ รวมถึงปัญหาการเมืองภายในพรรค ทำให้พี่ๆ เขาตกอยู่ในสถานะ ‘มีแค่ตำแหน่ง แต่ไม่มีอำนาจ’

วันนี้มีการแชร์โปสเตอร์หาเสียงเก่าๆของพปชร. ซึ่งมีภาพอ.อุตตมและพี่สนธิรัตน์ เนื่องจากตอนนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าและเลขาพรรค ที่กลุ่มไหนก๊วนไหนเสนอนโยบายมา ก็เอารูปแกไปแปะ ให้แกออกหน้า

ผมเป็นอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรค รู้ความเป็นมาเป็นไปหลายอย่าง จึงรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมที่ทั้งสองคนต้องมารับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ หรือเรียกง่ายๆว่ากลายเป็น ‘แพะรับบาป’

เคยเห็นใช่ไหมครับ ว่าสี่กุมารเจออะไรมาบ้าง จนต้องลาออกกันหมด รวมถึงอาจารย์สมคิด

เคยเห็นใช่ไหมครับ ว่ากลุ่มก๊วนไหนที่ตั้งใจทำงาน และกลุ่มก๊วนไหนที่แย่งอำนาจตำแหน่งมาตลอด

ถูกต้องแล้วที่สังคมทวงถามนโยบายที่หาเสียงไว้ ซึ่งผมเองก็จะร่วมทวงถาม และประณามคนที่พูดแล้วไม่ทำด้วยเช่นกัน แต่ขออย่างเดียวว่า ‘ควรประนามให้ถูกคน’

ลองไตร่ตรองดูว่าอำนาจที่แท้จริงอยู่กับใคร แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ทำ

ลองไตร่ตรองดูว่าคนกลุ่มที่ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ แต่เป็นนักบริหาร นักพัฒนา ทำไมอยู่ไม่ได้ จนต้องพากันลาออกหมด

แล้วคุณจะได้คำตอบครับ ว่าควรด่าใคร
ปล.ตัวผมลาออกจากพรรคเป็นคนแรกๆ พร้อมจัดข้อวิพากษ์วิจารณ์ให้ชุดใหญ่ อีกทั้งยังได้ตำหนิติเตียนข้อบกพร่องของรัฐบาลมาโดยตลอด

ดังนั้น ผมคงไม่ยอมฝากชีวิตการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายไว้กับหัวหน้า/เลขาพรรค ซึ่งเป็นคนที่เคยหาเสียงกับประชาชนแล้วไม่ทำอีกหรอกครับ