รมว.คลัง เผย คาดการณ์ว่าในปี2565 รายได้จะมาจากการส่งออก และแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐอย่างการใช้จ่ายงบประมาณปี2565
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า สิ่งที่สามารถพยุงรายได้ของประชาชนในประเทศ คือภาคเกษตรและการค้าขายชายแดน ซึ่งขณะนี่เองการค้าขายชายแดนยังไม่มีปัญหา โดยคาดการณ์ว่าในปี2565 รายได้จะมาจากการส่งออก และแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐอย่างการใช้จ่ายงบประมาณปี2565 กับการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของรัฐวิสหกิจไม่ได้หยุดชะงัก
แต่ยอมรับว่าจีดีพีของประเทศนั้นมาจากปริมาณและราคา ซึ่งหากดูในเรื่องปริมาณนั้นไม่มีปัญหาแต่ราคาอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของอาหารและพลังงานซึ่งมีผลกระทบมาจากต่างประเทศ ขณะที่เสถียรภาพทางการคลัง โดยตัวเลขล่าสุดใน 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ อัตราเงินคงคลังอยู่ที่ 400,000 ล้าน ที่ลดลงไปบ้างแต่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้สภาพคล่องอยู่ที่ 400,000 ถึง 500,000 ล้านบาท ซึ่งมีความเพียงพอมีความมั่นคงมีเสถียรภาพเพียงพอ ยอมรับว่าลดลงบ้าง ซึ่งเกิดจากการกู้เงินเข้ามาใช้จ่าย และขณะนี้การกู้เงินในปี 2565 ยังไม่ถึง 700,000 ล้านบาท ในส่วนของโครงการผูกพันยังคงดำเนินการตามปกติ
อย่างไรก็ตามมีความเป็นห่วงเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งต้องดูในเรื่องของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีการประชุมช่วงปลายเดือนนี้ แต่สภาพคล่องในส่วนของภาคเอกชนและระบบธนาคารพาณิชย์ จะมีสภาพคล่องอยู่ที่ 2.5 ถึง 3 ล้านล้านบาทในระบบ ลงทะเบียนว่าการพิจารณาดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยโดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่มีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบอย่างมาก
และในเรื่องการบริหารรายได้และรายจ่ายในปี 2565 รัฐบาลขาดดุล 700,000 ล้านบาท โดยใน 5เดือนแรก บวกมาเล็กน้อย แต่ต้องดูในเดือนเมษายนและพฤษภาคมซึ่งจะสร้างความมั่นใจมากขึ้นจากการจัดเก็บอัตราภาษีว่ามีรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย 2.4 ล้านล้านบาทหรือไม่ แต่การประมาณการรายได้ปี 2565 นั้นน่าจะเป็นไปตามเป้า