นิพิฏฐ์ เผย สังคมที่ดีต้องไม่มีคนรวยมากจนสามารถซื้อคนจนได้ และ ต้องไม่มีคนจนมากถึงขนาดที่ต้องขายสิทธิของตัวเองให้คนรวย
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง “ประชาธิปไตย กับ ปากท้อง อะไรสำคัญกว่า? โดยมีเนื้อหาดังนี้ เมื่อวานในวงกาแฟมีผู้ถามขึ้นว่า ระหว่างประชาธิปไตยกับปากท้อง อะไรสำคัญกว่า ผมเลยต้องตอบโดยใช้วิธีของโซคราตีส (คือตอบให้คนถามโมโหเล่น) ว่า
1.ประชาธิปไตยเริ่มจากสมัยกรีก – โรมัน ประชาธิปไตย เริ่มต้นจากการพูดคุยกันหลังจากกินมื้อเย็นอิ่มแล้ว และเริ่มเสริฟของหวาน, ไวน์ แล้ว ไม่มีการคุยประชาธิปไตยขณะที่ท้องยังหิว ประชาธิปไตยเริ่มถือกำเนิดบนโลกใบนี้จากจุดนั้น
2.ประชาธิปไตย กำเนิดจากคนที่มีเวลาว่างเยอะๆ เขามาคุยกัน คนที่ไม่มีเวลาว่างเยอะๆ จะไม่คุยเรื่องแบบนี้
-แล้วผมก็รวบยอดมาถึงประชาธิปไตยในยุคปัจจุบัน เป็นข้อที่ 3 ว่า
3.ประชาธิปไตยที่ดี จะทำให้ท้องอิ่ม แต่ประชาธิปไตยที่เลวไม่สามารถทำให้ท้องอิ่ม(แบบยั่งยืนได้) บางสังคมผู้นำเลยทำให้คนท้องอิ่มบ้าง ท้องหิวบ้าง ทำให้ประชาธิปไตยกลายเป็นยาเสพติดที่ผู้มีอำนาจหลอกให้ประชาชนเสพอยู่ตลอดเวลา
4.มีผู้ถามขึ้นว่า แล้วทำไมเมืองไทยไม่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ผมก็ตอบว่า ประชาธิปไตยก็เหมือนต้นไม้ที่งอกงามได้ในดินบางชนิดเท่านั้น ดินบางชนิดเท่านั้นที่ปลูกแล้วต้นไม้เจริญงอกงาม
5.มีผู้ถามแบบทะลุกลางปล้องขึ้นว่า ทำไมเมืองไทยมีการซื้อสิทธิ-ขายเสียง อย่างรุนแรง จน ส.ส./ส.ว. ในสภามีความคิดที่จะออกกฎหมายให้มีการซื้อสิทธิ-ขายเสียงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ผมก็เอาคำตอบของ Jean-Jacques Rousseau(ฌอง-ฌากส์ รูสโซ) มาตอบ ว่า สังคมที่ดีต้องไม่มีคนรวยมากจนสามารถซื้อคนจนได้และ ต้องไม่มีคนจนมากถึงขนาดที่ต้องขายสิทธิของตัวเองให้คนรวย เขาก็เถียงว่า เมืองไทยมีคนจนเยอะจนต้องขายเสียง ผมก็ตอบว่า อินเดียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่มีประชากรมากที่สุดในโลก และมีชนชั้นวรรณะ ถึง 4 ชั้น คือ วรรณะพราหมณ์,วรรณะกษัตริย์,วรรณะแพศย์,และ วรรณะศูทร อินเดียก็ยากจนมาก แต่ไม่มีวิกฤติเรื่องการซื้อเสียง กกต.และนักการเมืองประเทศไทย เวลาไปดูการเลือกตั้งก็มักไปดูที่อินเดีย
-ทุกคนจ้องมาที่ผมแล้วถามว่า งั้นมันเกิดอะไรขึ้นในเมืองไทย ผมตอบสั้นๆโดยยังไม่อธิบายรายละเอียด ว่า เป็นเพราะระบบทุนนิยม(สามานย์)กัดกร่อนสังคมไทย