ก้าวไกล แฉ ‘บิ๊กตู่’ ซื้อสปายแวร์ สอดแนมประชาชน

ส.ส.ก้าวไกล เปิดโปงนายกฯ ซื้อสปายแวร์สอดแนมประชาชน แฉใช้เพกาซัสในไทยช่วงใกล้รัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า

ไม่ใช่เพียงการบริหารที่ล้มเหลวและการทุจริต แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จงใจปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขาดจิตสำนึกความเป็นประชาธิปไตย ไร้การเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน

มีการจัดสรรงบประมาณของกองทัพบกสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับงบของกองทัพ ดูแล้วเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จะให้ความสำคัญกับการสะสมไพร่พลทหารราบรบกับข้าศึก แต่ในทางกลับกันประชาชนที่เห็นต่างและวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กลับเล่นงานพวกเขา ด้วยอาวุธไซเบอร์ขั้นสูง และลงทุนทั้งคน เวลาจัดหาอาวุธไซเบอร์ระดับโลกอย่างเพกาซัส ซึ่งเป็นสปายแวร์ที่มีอนุภาพร้ายกาจที่สุด

ผู้ผลิตเป็นบริษัทเอกชนในประเทศอิสราเอล เพกาซัสนี้เหมือนอาวุธสงครามชนิดหนึ่งที่จะขายให้รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐบาลเท่านั้น ยืนยันว่าเป็นอาวุธจริง เพราะการจะขายได้ต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมของประเทศอิสราเอลก่อน

โดยวัตถุประสงค์ของการผลิตเพื่อติดตามทางการทหาร ทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ ตลอดจนปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ที่เป็นภัยต่อรัฐ ถ้าเพกาซัสเข้าไปในโทรศัพท์เราแล้ว พล.อ.ประยุทธ์สามารถรู้ข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ของเราได้ โดยไม่จำเป็นต้องเอามือถือเราไป ยืนยันว่าเพกาซัสไม่ต่างอะไรกับอาวุธสงครามที่ทรงพลังอย่างมาก

ทั้งนี้ พบการใช้เพกาซัส ใน 45 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย แต่ต่อมาเฟซบุ๊กก็ได้ยื่นฟ้องบริษัทเอกชนดังกล่าว เพราะพบว่ามีการโจมตีผู้ใช้งานเว็บไซต์ 1,400 บัญชี หรือจะเป็น Apple ยื่นฟ้องบริษัทเอกชนดังกล่าวเพราะเหตุเดียวกัน จากนั้น สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ซื้อสินค้าจากบริษัทเอกชนรายนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า เพกาซัสถูกใช้ผิดวิธี ยืนยันว่าการสอดแนมประชาชนที่เห็นต่างแบบนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

จากนั้นบริษัทเอกชนดังกล่าวลดการส่งของสปายแวร์ จากเดิมมีถึง 102 ประเทศ เหลือ 37 ประเทศ และไม่มีประเทศไทย เพราะเท่าที่ดู ประเทศที่ถูกยกเลิกส่งสินค้าเพราะใช้เพกาซัสผิดวิธี อย่างประเทศไทยที่มีผู้นำมาจากรัฐประหารและละเมิดสิทธิมนุษยชน ทางอิสราเอลเขาก็ไม่ขายให้ แม้มีคำสั่งหยุดขายให้ไทย แต่ใช่ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเลิกใช้ เพราะไม่มีผลย้อนหลัง เพกาซัสถูกซื้อและสัญญาเซ็นไปแล้ว มันจะยังสามารถใช้งานต่อได้ เพียงแต่จะซื้อใหม่ไม่ได้

นอกจากนั้น มีรายงานว่าพบเพกาซัสในไทยช่วงเดือนพ.ค.2557 เป็นเวลาใกล้เคียงกับการทำรัฐประหาร ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เปรียบเสมือนรัฐบาลเผด็จการเต็มรูปแบบ ถือเป็นรัฐบาลที่ละเมิดสิทธิประชาชนอย่างร้ายกาจ และเป็นรัฐบาลที่คุกคามการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยิ่ง วันนี้สิ่งที่เป็นภัยต่อเราไม่ใช่เพกาซัส แต่เป็นคนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา