คดี ม.112 ทักษิณ อัยการสูงสุดสั่งสอบ เพิ่มเติม นัดฟังคำสั่งทางคดี 10 เม.ย.67
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้า การดำเนินคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 112 ว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้นำตัว นายทักษิณ ที่ได้รับการพักโทษจากคดีอาญาอื่น มายังสำนักงานอัยการ และได้ดำเนินการรับตัวตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในคดีนี้นายทักษิณได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวนขณะเข้าแจ้งข้อกล่าวหา นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์อัยการสูงสุดจึงได้มีคำสั่งให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้สิ้นกระแสความ จากนั้นทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้มีอำนาจในการลงความเห็นหรือมีคำสั่งทางคดี ซึ่งคำสั่งของอัยการสูงสุดถือว่าเป็นที่สุด และจะมีคำสั่งแจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องให้ทราบต่อไป ระหว่างนี้จึงได้ปล่อยชั่วคราวนายทักษิณไป โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดในบัญชีธนาคาร 500,000 บาท โดยอัยการไม่มีเงื่อนไขในการปล่อยตัว ขึ้นอยู่กับกรมคุมประพฤติ
และนัดหมายให้มาพบอีกครั้งในวันที่ 10 เมษายน เวลา 9.00 น. ที่สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 อัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก
อย่างไรก็ตามไม่สามารถเปิดเผยประเด็นที่หมายถึงสิ่งที่ร้องขอความเป็นธรรมมาได้แต่จะเร่งสอบสวนโดยเร็วที่สุด ขอให้มั่นใจในกระบวนการทำงานสอบสวนของอัยการ เพราะว่าคดีสำคัญเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญเป็นข้อหาสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ ไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใดจะต้องสามารถอธิบายได้ทั้งหมด
ด้านนายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า คำสั่งของอัยการสอบสวนจะแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ สั่งฟ้อง, ไม่สั่งฟ้อง หรือเลื่อนนัดฟังคำสั่ง ถ้าหากสำนวนที่สอบเพิ่มเติมนั้นยังไม่ครบถ้วน และจะต้องแจ้งผลให้นายทักษิณทราบ ขณะที่การเข้ารับทราบคำสั่งของอดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง พบว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีอาการป่วยจริงเข้าขั้นวิกฤต พบว่าเดินไม่ไหวจึงต้องนั่งวีลแชร์เข้ามา
และการพูดคุยก็เห็นว่าแทบไม่มีเสียง อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้นายทักษิณยังสามารถยื่นขอความเป็นธรรมมาได้ แต่หากพบว่าส่งมาในประเด็นซ้ำ หรือเป็นการทำเพื่อประวิงคดีก็จะไม่รับไว้พิจารณา และสั่งยุติเรื่อง
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
