“นายกฯ” สั่งรวมเงินแต่ละกระทรวง ช่วย ปปช.

“นายกฯ” สั่งปลัดสำนักนายกฯ รวบรวมเงินทดรองแต่ละกระทรวง ช่วย ปปช. ภายใน 3 เดือน

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ช่วงก่อนเข้าวาระการประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้เล่าให้ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรวมถึงที่ประชุมครม.ฟังว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบราชการไทยอย่างมหาศาล

เดิมเวลาติดต่อราชการเจ้าตัวต้องไปปรากฏตัวพร้อมบัตรประชาชน แต่เวลานี้การติดต่อราชการทุกแห่งสามารถทำได้ด้วยออนไลน์ เจ้าตัวไม่ต้องไปปรากฏตัวก็ได้ ยกเว้น 5 ประเภท ได้แก่ จดทะเบียนสมรส หย่า แจ้งรับบุตรบุญธรรม การทำบัตรประชาชน และ พาสปอร์ต ส่วนนอกเหนือ จาก 5 ประเภทนี้ประชาชนไม่จำเป็นต้องต้องไปทำธุรกรรมด้วยตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่ไปถึงบอกไม่รู้แบบนี้จะผิดกฎหมาย ประชาชนจะฟ้องร้องได้ ขณะนี้หลายกระทรวงอาจไม่พร้อม อาจจะผ่อนผันไปก่อนได้ แต่ต้องเตรียมพร้อม ซักซ้อมทำความเข้าใจ โดยให้หน่วยงาน ก.พ.ร.เป็นหน่วยงานประสานหลักกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรายงานกลับมาให้ ครม.รับทราบ

อย่างไรก็ตาม นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมกฤษฎีกา ได้แสดงความห่วงใยถึงข้าราชการระดับล่างว่า เกรงว่าข้าราชการระดับล่างจะไม่รู้และไปปฏิเสธ แล้วจะทำให้ถูกฟ้องร้องจากประชาชน และถ้ามีการฟ้องร้องข้าราชการระดับปฏิบัติอาจจะไล่ไปได้ถึงผู้บังคับบัญชาจนถึงรัฐมนตรี โดยนายปกรณ์ยังได้ฝากรัฐมนตรีให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ทราบกันทั่วถึง

นอกจากนี้ นายวิษณุยังรายงานว่า พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติที่เพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เป็นการปฏิรูปตำรวจครั้งยิ่งใหญ่ ผลคือ ยกเลิกกฎหมายเก่าทั้งหมด 11 ฉบับ จะใช้กฎหมายฉบับนี้ฉบับเดียว และจะมีการปรับปรุงระเบียบใหม่ตามมา โดยในกฎหมายใหม่จะแบ่งสายงานเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ บริหาร ปราบปราม สอบสวน เฉพาะกิจ และบัญชาการ โดยจะให้ความสำคัญกับโรงพัก ทั้งเรื่องการจัดงบ จัดอาวุธ และกำลังพลให้เพียงพอ ที่สำคัญ จะขอตำรวจมาช่วยราชการไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะมีการจัดหาตำรวจไปทดแทนในจุดที่ดึงมา ขณะที่เรื่องการโยกย้าย จะยึดลำดับอาวุโส ยกเว้นตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมีคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ที่จะให้ตำรวจสามารถร้องเรียนตำรวจด้วยกันได้ รวมถึงจะมีหน่วยงานหนึ่งให้ประชาชนร้องเรียนตำรวจได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปรวบรวมเงินทดรองทางราชการของแต่ละกระทรวงที่ไว้ช่วยเหลือประชาชนว่ามีอะไรบ้าง ให้รวมทั้งหมด จะได้เอามาช่วยประชาชนโดยเร็ว อะไรทำได้ให้รีบทำเลย ต้องเสร็จภายใน 3 เดือนนี้ และต้องทำโดยใช้กฎหมาย ไม่สร้างปัญหา

นอกจากในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระหว่างการพิจารณาโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา – อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้แจ้งว่า โครงการนี้กระทรวงการคลังได้ทาบทามขอกู้เงินธนาคารโลก แต่ติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ธนาคารโลกเป็นห่วงเรื่องการอนุรักษ์โลมาอิรวดี สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เหลือเพียง 14 ตัว และมีเฉพาะที่นี่เป็นฝูงสุดท้าย ซึ่งอาจจะต้องอาศัยความรู้จากต่างประเทศ ไม่ให้มีผลกระทบกับโลมา อาจจะย้ายถิ่นที่อยู่ หาวิธีดูแล อาจจำเป็นต้องใช้ Man-Made Environment เพราะถ้ากระทบกับสิ่งแวดล้อมเขาจะไม่ให้เรากู้เงิน

พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามว่า โลมาอิรวดีมาจากไหน และเหลือแค่ในประเทศไทยใช่หรือไม่ ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม อธิบายให้ฟังว่า มาจากลุ่มน้ำอิรวดี แต่จำนวนลดลงมาก เราจึงอาจจะใช้ Man-Made Environment แทนที่จะปล่อยตามธรรมชาติ ทำให้นายอาคมเสริมว่า สาเหตุที่โลมาอิรวดีลดลงเป็นเพราะการทำประมง โดนอวน และโลมาชนิดนี้ออกทะเลไม่ได้ เพราะจะทำให้อ่อนแอ สืบพันธุ์ไม่ได้ ต้องหาอนุรักษ์ อาจต้องใช้เทคโนโลยีต่างประเทศเข้ามาช่วย ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลสาบที่ประชาชนใช้ประโยชน์เยอะ การทำอะไรค่อนข้างมีผลกระทบกับโลมาอิรวดีมาก ควรจะหาทางโยกย้ายโลมาอิรวดี และควรให้สำคัญเรื่องนี้ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้มีผลกระทบต่อโลมาอิรวดีที่เหลืออยู่เพียง 14 ตัว และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ช่วงท้ายการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศไทยฯ เรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่จะมีการแข่งขันในช่วงเดือน พ.ย. นี้ว่า เป็นอย่างไรเพราะประชาชนเรียกร้องอยากให้มีการถ่ายทอดสด เห็นเขาพูดกันเยอะโดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า เรื่องคณะกรรมการโอลิมปิกกำลังคุยกันอยู่ว่าจะเอาอย่างไรกันในอาเซียน

ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเคยเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา จึงกล่าวเสริมว่าคงต้องพูดคุยกันในกลุ่มอาเซียนก่อนว่าจะเอาอย่างไร ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เสนอว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมีถ่ายทอดสด แต่ยังไม่ต้องบอกให้ใครทราบ เพื่อจะได้ค่าลิขสิทธิ์ในราคาถูก พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า ให้รีบทำได้แล้ว

#เพื่อไม่พลาดข่าวสาร เรื่องราวสำคัญ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS