“ชัยวุฒิ” ฟาด ก.ล.ต.ไม่ตรวจสอบ “Forex 3D” เชิงลึก บริษัทลงทุนมีใคร ปล่อยหลอกลวงประชาชนเสียหายหมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการหลอกหลวงประชาชน ในคดี “Forex 3D” เสียหายเป็นหมื่นล้านว่า ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ มีความเป็นห่วงในเรื่องของการเชิญชวนคนมาลงทุนทางช่องทางโซเชียลมีเดียผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ช่องทาง Facebook หรือช่องทางในระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งมีการเชิญชวนคนมาลงทุนในหลายรูปแบบ และก็ได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าโดยอำนาจหน้าที่ของกระทรวงดิจิทัล ไม่สามารถไปปิดเว็บไซด์ หรือ ปิดกั้นโซเชียลมีเดียในช่องทางนั้นได้ทันที เนื่องจากต้องรอให้หน่วยงานที่มีอำนาจรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อมีความผิดตามกฏหมาย
ถึงจะเรื่องมายังยังกระทรวงดิจิทัลฯเพื่อปิดเว็บไซต์ ดังกล่าว จากนั้นก็จะมีการแจ้งเตือนประชาชน ขณะเดียวกันส่วนตัวเห็นว่า เสียดายที่ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ที่ไม่ทำหน้าที่ มีการปล่อยปะ ละเลยให้มีการจัดตั้งบริษัทมาลงทุน และทำให้ประชาชนเสียหายเป็น นับหมื่นล้านบาท โดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนแต่กลับไปจับผิดเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ใส่ใจเรื่องใหญ่ใหญ่เช่นนี้
จึงขอฝากไปยัง กลต.ต้องปรับปรุงการทำงานเพราะต้องทำงานถึงตรวจสอบ เชิงลึก สอบถามถึงต้นตอ ที่มาที่ไป ของบุคคลที่จะมาลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้มาหลอกลวงนักลงทุน อีกทั้ง กลต.เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็ต้องลงมาดูด้วย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีและแจ้งไปยังกระทรวงดิจิทัลฯเพื่อปิดเฟซบุ๊กไม่ให้หลอกลวงประชาชน อีกต่อไป
“ไม่ใช่ กลต.รอให้คนเสียหายเป็นหมื่นล้านบาท แล้วดำเนินคดี ส่วนการแก้กฎหมาย ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯสิ่งแรกคือต้องใช้กฎหมายเดิม คือ พรบ.คอมพิวเตอร์ ในส่วน ของ กลต. ก็ต้องเข้าไปกำกับดูแลนักลงทุนกันเอง โดยต้องดูแลเชิงลึก ไปตรวจสอบติดตามการลงทุนของประชาชนในช่องทางมีเดียว่ามีใครมาหลอกลวงบ้างไม่ใช่ว่าดูแค่การลงทุน ต้องดูถึงการเชิญชวนคนมาลงทุนโดยที่ไม่ขออนุญาตด้วยเมื่อพบว่ามีคนทำผิด กฏหมายก็ต้องรีบมาประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อใช้อำนาจ พรบ.คอมพิวเตอร์ เข้าไปปิดกั้นปิดเว็บไซด์ ไม่ใช่เมื่อทำไปแล้ว ค่อยแจ้งเตือนประชาชนก็จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” นายชัยวุฒิกล่าวอย่างดุดัน
นายชัยวุฒิ ยังย้ำว่า ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ ก็จะมีการปรับปรุง พรบ.คอมพิวเตอร์ เพื่อให้กระทรวงดิจิทัล รวมพยานหลักฐานปิดเว็บให้ได้มากกว่านี้ ดังนั้นอำนาจจึงมีจำกัด แต่รอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กลต.เป็นคนส่งข้อมูลมา เพราะกระทรวงดิจิทัลฯเองยังลงไปเก็บข้อมูลเองไม่ได้ถือ ว่ายังเป็นข้อจำกัดในด้านนี้