“นายกฯ” ลุยตรวจน้ำท่วมท่าอิฐ จ.นนทบุรี ช๊อกการข่าวแจ้ง ‘ไบรท์ 3นิ้ว’ ขู่เตรียมมือปาถุงอึ-น้ำปลาร้า ใส่
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดการลงพื้นที่ 2 จุด
คือ เวลา 09.00 น. ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ที่วัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และเวลา 10.40 น. นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ที่วัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
แต่ เมื่อเวลา 08.49 น.สำนักโฆษกสำนักนายกฯ ได้แจ้งสื่อมวลชน นายกฯเปลี่ยนกำหนดการกะทันหัน โดยจะเดินทางไปที่จุด 2 วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐก่อน เนื่องจาก มีรายงานข่าวว่า นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ”ไบรท์ ราษฎร “ และป้าเป้า แกนนำม็อบ 3 นิ้ว เตรียมระดมคนเพื่อมาต่อต้านการลงพื้นที่ของ นายกฯ โดยได้มีรายงานว่า ปลุกระดมให้มีการเตรียมถุงอุจจาระ ถุงเลือดและน้ำปลาร้า มาปาใส่นายกฯในขณะลงพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้มีการปรับเปลี่ยนจุดลงพื้นที่ทันที ทำให้สื่อมวลชน และทีมรักษาความปลอดภัย ที่ไปปักหลักรอที่จุดวัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร ต้องรีบถอนกำลังมาที่วัดแสงสิริธรรมเป็นการด่วน
จากนั้นเวลา 08.45 น.นายกฯ พร้อมคณะเดินทางถึงวัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินลุยน้ำเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี โดยมีนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าอิฐ พร้อมด้วยนายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่น นำประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมรอรับและพาเดินลุยน้ำเยี่ยมให้กำลังในชุมชนริมน้ำวัดแสงสิริธรรม กว่า 200 หลังคาเรือน
โดยระหว่างเดินเยี่ยมเยียนให้กำลังประชากำลัง นายกฯได้พูดคุยกับนายปรีดา ถึงกลุ่มคนที่เตรียมมาต่อต้านการลงพื้นที่ของตนเองที่จุดวัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร พร้อมระบุว่า การลงพื้นที่อยากมาช่วยเหลือจริงๆ ทำไมต้องมีแบบนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้อะไร
โดยนายกฯ พูดกับชาวบ้านว่า นายกฯมาดูเพื่อช่วยเหลือมีความเดือดร้อนอะไรขอให้แจ้งได้ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ขอบคุณนายกฯ และขอให้ช่วยเยียวยาเนื่องจากได้รับผลกระทบหนัก ทั้งนี้ระหว่างเดินเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนนายกฯ ได้แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าดังในชุมชน จากนั้นนายกฯแวะทักทายประชาชนที่บ้านน้ำท่วมและเลี้ยงสุนัข 2 ตัว
นอกจากนี้ นายกฯ สอบถามว่าสุนัขชื่ออะไร เจ้าของตอบกลับว่า “พองๆกับคุณนายเซ” และกล่าวว่า ตนเป็นคนชอบสุนัข สุนัขมันไม่กัด พร้อมถามกลับว่า “สุนัขกับแมว” มีนิสัยแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งชาวบ้าน ตอบกลับว่า “ต่างตรงคำว่าสุนัขกับแมว โดยแมวขี้อ้อน สุนัขซื่อสัตย์” นายกฯ กล่าวว่าย้ำว่า “สุนัขจะซื่อสัตย์และดูแลเจ้านายของมัน และสุนัขชอบให้เล่นคลอเคลียกับเขา ขอแต่แมวไม่ค่อยชอบ แมวชอบไปอยู่ในโลกของเขา พอถึงเวลาจะมาหาเราเอง แต่สุนัขจะมาเล่นด้วยทั้งวันนี่คือความแตกต่างเราต้องสังเกตธรรมชาติของมัน คนเรายังแตกต่างกัน จากนั้นชาวบ้านและเด็ก ๆ ได้ขอเซลฟี่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับนายกฯ พร่อมส่งเสียงตะโกนให้กำลังใจ ว่า นายกฯสู้ ๆ ลุงตู่อยู่ยาว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ ว่าในแต่ละปีก็มีปัญหามากมาย ซึ่งในปีนี้มีพายุ แล้วฝนตามฤดูกาลมากกว่าทุกปี ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการปรับตัว ซึ่งรัฐบาลก็พยายาม จัดสรรงบแก้ไขปัญหาในหลายโครงการ บางพื้นที่ต้องใช้งบถึง 500 ล้านบาท ก็ต้องทำไปเรื่อยๆขณะเดียวกันต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำสำหรับประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ในขณะที่โครงการต่างๆยังไม่แล้วเสร็จ หรือยังแก้ไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้
ซึ่งไม่ควรตอบโต้กันไปมาเพราะไม่สร้างสรรค์ ซึ่ง จึงต้องขอชื่นชมในพื้นที่ ที่มีการดูแลเป็นอย่างดีแสดงให้เห็นว่าทุกคนร่วมใจกันและที่สำคัญยังมีรอยยิ้มให้นายกฯและที่สำคัญยังมีรอยยิ้มให้นายกฯ แสดงว่าประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาย่อมได้รับผลกระทบ
ส่วนจากการลงพื้นที่ประชาชนต้องการให้ช่วยเหลืออะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีประสบการณ์อยู่แล้วรู้ว่าจะต้องทำอะไรรับมืออย่างไร ทั้งการเตรียมความพร้อมด้านบ้านเรือนชีวิตความเป็นอยู่ชีวิตความเป็นอยู่ ส่วนที่ต้องการให้นำไดโว่มาสูบน้ำออกนั้น จะต้องดูว่าไม่ให้กระทบกับพื้นที่อื่น
โดยก่อนเดินทางกลับพลเอกประยุทธ์ได้ทักทายเด็ก ๆและชาวบ้านที่มายืนรอส่งพร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นายกฯทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยู ก่อนขึ้นรถกลับทันที โดยนายกฯ ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าได้รับรายชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ จาก นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้วหรือยัง
#เพื่อไม่พลาดข่าวสาร เรื่องราวสำคัญ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
