หวั่น! หัวลำโพงจะเป็นปาหี่ตบตาคนทั้งประเทศ!!

“นภาพร” วอนสื่อมวลชนช่วยเกาะติดรายละเอียดการเปิดเวทีรับฟังความเห็นเรื่องการปิดหัวลำโพงในวันที่ 14 ธันวาคม เพราะเกรงว่าจะเป็นเพียงปาหี่ตบตาคนทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะ กมธ.คมนาคม เปิดเผยถึงการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาสถานีรถไฟหัวลำโพงในวันนี้ว่ามีเพียงตัวแทนสหภาพการรถไฟฯและผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเท่านั้นที่เข้าร่วม โดยปลัดกระทรวงคมนาคมไม่ยอมมาและไม่ได้ส่งตัวแทนมา เช่นเดียวกับผู้ว่าการรถไฟฯ ที่ไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่ส่งนายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถมาแทน

ซึ่งทาง กมธ. ได้เตรียมคำถามไว้มากมาย แต่รองผู้ว่าการรถไฟฯไม่สามารถให้คำตอบได้ เช่นเมื่อถามถึงเหตุผลจริงๆของการสั่งหยุดขบวนรถไฟเข้าหัวลำโพงคืออะไร เพื่อต้องการแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพ แก้ปัญหาการขาดทุนของการรถไฟหรือเพื่อต้องการเปลี่ยนผังเมืองเพื่อเอื้อนายทุนกันแน่ ทำไมถึงได้รีบตัดสินใจย้ายแบบเร่งด่วนในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ทั้งที่การรถไฟเองก็ไม่มีความพร้อม ซึ่งทางรองผู้ว่าการรถไฟฯปฎิเสธที่จะตอบคำถามโดยอ้างว่าไม่ได้รับผิดชอบด้านนโยบาย แต่ถ้าเป็นความคิดส่วนตัวน่าจะมาจากปัญหาการจราจรติดขัดเนื่องจากมีจุดตัดรถไฟหลายช่วง

แต่เมื่อถามกลับไปว่า หากพัฒนาหัวลำโพงเป็นศูนย์การค้าเชิงพาณิชย์จริงคิดว่ารถจะติดหนักกว่าเดิมหรือไม่และสามารถใช้วิธีการอื่นในการแก้ปัญหาเรื่องจุดตัดรถไฟแทนการปิดหัวลำโพงได้หรือไม่เนื่องจากมีเพียงไม่กี่จุด แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนอะไรจากผู้เกี่ยวข้อง เพราะได้แต่อ้างว่า ไม่ได้รับผิดชอบด้านนโยบาย ต้องให้ผู้ว่าฯรถไฟหรือผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเป็นคนชี้แจง

ซึ่งเมื่อประธานในที่ประชุมเห็นว่า ตัวแทนที่ส่งมาไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้ จึงเลิกการประชุมและจะเชิญผู้บริหารที่เกี่ยวข้องมาประชุมด้วยตนเองอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จึงทำให้การประชุมในวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบใดใดเกี่ยวกับแผนการพัฒนาหัวลำโพงโดยเฉพาะเวทีการรับฟังความเห็นในวันที่ 14 ธันวาคมนี้จะมีรูปแบบเป็นอย่างไร จะเชิญใครมาร่วมบ้าง และจะมีแนวทางการตัดสินใจจากการรับฟังความเห็นอย่างไร

“ที่สำคัญจะใช้หลักเกณฑ์ใดในการวัดว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการปิดหัวลำโพง เพราะเรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่การเดินหน้าโครงการต่อไปหรือจะหยุดทุกอย่างไว้ก่อน แต่ปรากฎว่าทางตัวแทนการรถไฟฯได้ปฎิเสธที่จะตอบคำถามโดยอ้างว่าไม่มีข้อมูล ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว จึงยิ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าการเปิดเวทีรับฟังความเห็นในครั้งนี้ต้องการรับฟังความเห็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริงหรือต้องการเล่นปาหี่ตบตาคนทั้งสังคมหรือไม่ จึงอยากขอให้สื่อมวลชนช่วยติดตามประเด็นดังกล่าวด้วยเพราะตอนนี้ยังไม่มีใครรู้อะไรเลย” น.ส.นภาพรกล่าว