สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 64 ที่ผ่านมา ได้มีการ podcast โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งทีมโตโจ้นิวส์ได้สรุปเนื้อหาออกมา 4 หัวข้อด้วยกัน เริ่มด้วย
- ความคืบหน้าการฉีดและกระจายวัคซีนโควิด-19
ในตอนนี้ รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ในกลางปีนี้ ส่วนผู้ที่ไม่มี สมาร์ทโฟน สามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลตำบล และ อสม.
อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า เมื่อทั่วโลกมีวัคซีนแล้ว สถานการณ์ก็จะเริ่มดีชึ้น ดังนั้นในประเทศไทย จะเริ่มเดินหน้าฉีดวัคซีน กลุ่มเสี่ยงตามเป้าหมายก่อน เพื่อที่จะเน้นพื้นที่ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และเตรียมเปิดประเทศ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาได้ โดยมีแผนตามนี้ จะมีทั้งหมด 4 ระยะด้วยกัน คือ
ระยะแรก : จะเริ่ม 1 เมษายนนี้ โดยจะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีน และใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้าไทยใน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา พัทยา เชียงใหม่โดยกักตัวแค่ 7 วันในโรงแรม ก่อนจะไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ จากปกติที่ต้องกักตัว 14 วัน
ระยะที่สอง : จะเริ่ม 1 กรกฎาคม ให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว มาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยไม่ต้องกักตัว แต่หากไปพื้นที่อื่น ยังต้องกักตัว 7 วัน
ระยะที่สาม : 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ใน 5 จังหวัดนำร่อง คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ พัทยา และเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่มีความจำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป หากว่ามีการฉีดวัคซีนและมีรับรองการฉีดวัคซีน
ระยะที่สี่ : เริ่ม 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไม่จำเป็นต้องกักตัว หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีน
- การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน
มีการยืนยัน ยังไม่มีการขึ้น VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ในปีนี้ ได้มีเป้าหมายให้ GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น 4% โดยอาศัย
- การส่งออก 8%
- การลงทุนของภาครัฐ 12%
- การบริโภคของประชาชน
อย่างไรก็ตาม นายกได้พูดต่อด้วยเรื่องอนาคตของไทย คาดว่าภายใน 10-15 ข้างหน้า ไทยจะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ให้ประเทศไทยเป็น Hub ในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
นอกจากนี้จะส่งเสริมเรื่องของการแพทย์ ให้ไทยเป็น Medical Hub ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ที่รองรับคนทั่วโลก
สำหรับในปีนี้ ที่ยังคงเกิดวิกฤตโควิด-19 อยู่ รัฐบาลได้กำหนดแนวทางรณรงค์ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย”
ซึ่งการเดินทางไปไหนในช่วงสงกรานต์นี้ไม่ได้มีข้อห้าม แต่อยากให้ยึดมั่นมาตรการ New Normal
คือ D M H T T
D : Social Distancing เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด
M : Mask สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
H : Hand Washing ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
T : Testing การตรวจวัดอุณหภูมิและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่มีอาการเข้าข่าย
T : Thaichana สแกนไทยชนะ ก่อนเข้า-ออก สถานที่ทุกครั้ง เพื่อให้มีข้อมูลในการประสานงานได้ง่ายขึ้น
*ขอให้งดการรวมกลุ่ม และขอความร่วมมือ งดดื่มแอลกอฮอในที่สาธารนะ*
- เรื่องของสถานการณ์น้ำที่น่าเป็นห่วง ตั้งแต่ปีที่แล้ว รัฐบาลได้มีการวางแผนการใช้น้ำจากโครงการชลปาทานขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อจะลดความเดือนร้อนของประชาชนและเกษตรกรให้ได้มากที่สุด ซึ่งรัฐบาลได้วางแผนทั้งหมด เพื่อจะรองรับน้ำจากฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
- เรื่องของผู้อพยพชาวเมียนม่า ที่เข้ามาพักพิงชั่วคราวในประเทศไทย ซึ่งนายกได้บอกว่า ยืนยันว่าจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม ของให้มั่นใจว่าเรามีประสบการณ์ในการรับมือกับผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านมานาน และที่ผ่านมาเราก็ได้ช่วยเหลืออย่างดีมาโดยตลอด
และสุดท้ายอยากฝากไว้ว่า “ผมพยายามจะทำทุกส่วนให้ดีที่สุด สำหรับทุกส่วนและทุกฝ่าย”
You must be logged in to post a comment Login