ยุทธการคว่ำชามหมา!! วิโรจน์ ลุยกวาดล้างสัสดี ขายใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ

วิโรจน์ ตึงจัด! เปิดยุทธการคว่ำชามหมา แฉ มีขบวนการขายใบ สด.43 ปีละ 3 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานกรรมาธิการการทหาร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ ระบุว่า

เมื่อตะกี๊ คมชัดลึกถามผมว่า การกวาดล้างขบวนการสัสดี (บางกลุ่ม) ที่ขายใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ ที่มีมูลค่า 3 พันล้านบาทต่อปี

และการปล่อยพลทหารกลับบ้าน ชื่ออยู่ตัวไป มูลค่า 200 ล้านบาทต่อปี

รวมปีละ 3,200 ล้านบาท

ชื่อยุทธการอะไร

ผมตอบว่า “ยุทธการคว่ำชามข้าวหมา”

โดยนายวิโรจน์ให้รายละเอียดถึงยุทธการคว่ำชามข้าวหมา ไว้ว่า…

[เปิดยุทธการคว่ำชามข้าวหมา ทลายขุมทรัพย์มืด ขบวนการขายใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ ปีละ 3 พันล้าน]

ผมขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่า กรณีใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผมมีจุดยืนในความถูกต้อง และจะไม่มีการปกป้องคุณจิรัฏฐ์ อย่างแน่นอน และขอให้ พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ให้ความร่วมมือในการขยายผลการตรวจสอบ กับคณะกรรมาธิการการทหารอย่างเต็มที่

เบื้องต้น กมธ.ทหาร มีมติให้ส่งสำเนาใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ให้กับ ผบ.นรด. ตรวจสอบ ว่าลายเซ็นของนายทหารระดับนายพันที่ปรากฎในใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ นั้นมีตัวตนในกองทัพจริงหรือไม่ มีชื่อว่าอะไร และปรากฎในใบ สด.43 ในการตรวจเลือกทหาร ณ เวลานั้นหรือไม่

จากนั้นทาง กมธ.ทหาร ได้ขอให้ ผบ.นรด. จัดส่งเอกสารต้นขั้วของใบ สด.43 ใบอื่น ที่มีเลขเล่มเดียวกันกับเลขเล่มของคุณจิรัฏฐ์ มาให้กับ กมธ.ทหาร เพื่อจะประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่ากระดาษที่ใช้เป็นกระดาษชนิดเดียวกัน ที่พิมพ์จากโรงพิมพ์ทหารหรือไม่ มีความเก่าอยู่ในช่วงอายุเดียวกันหรือไม่

ซึ่งตรงนี้เป็นหลักฐานที่สำคัญอย่างมาก เพราะถ้าใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ ทาง ผบ.นรด. ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ถูกต้อง ก็ต้องสืบสวนต่อว่าใครเป็นคนทำปลอมขึ้นมา ถ้าพบว่าลายเซ็นของนายทหารระดับนายพัน ที่ปรากฎในใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ เป็นนายทหารที่ไม่มีตัวตน หรือเป็นลายเซ็นปลอม หรือพบร่องรอยการตัดต่อภาพ ก็จะยืนยันได้ว่าคนที่ทำเอกสารปลอมขึ้นมา คือ คุณจิรัฏฐ์ หรือคุณจิรัฏฐ์อาจจะไปให้ใครทำขึ้นมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ คุณจิรัฏฐ์ต้องรับผิดแบบเต็มๆ

แต่ถ้าพบว่า ชื่อของนายทหารระดับนายพันที่ปรากฎในใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ มีตัวตนจริงในกองทัพ เป็นลายเซ็นจริง ตรงกับใบ สด.43 ใบอื่นๆ เนื้อกระดาษก็เป็นเนื้อกระดาษจากโรงพิมพ์ทหาร ที่มีความเก่าอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็แสดงว่าคนที่ทำเอกสารปลอมขึ้นมา ก็คือ คนในกองทัพเอง และผู้ต้องหาที่จะต้องถูกดำเนินคดีในลำดับแรก ก็คือ นายทหารระดับนายพันทุกนายที่เป็นคนลงนามในใบ สด.43 ของคุณจิรัฏฐ์ และถ้า ผบ.นรด. มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า คุณจิรัฏฐ์ เป็นคนจ้างวาน หรือสนับสนุน คุณจิรัฏฐ์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีในลำดับถัดไป

อย่างไรก็ดี หากสิ่งที่คุณจิรัฏฐ์พูดนั้นเป็นความจริง ว่าคุณจิรัฏฐ์ได้ทำตามคำแนะนำของสัสดีทุกอย่าง เอกสารใบ สด.43 ก็รับจากมือสัสดี รับในสถานที่ราชการ ก็ต้องตั้งคำถามตรงๆ ว่า ประชาชนโดยทั่วไป ก็ย่อมต้องเข้าใจว่าเป็นใบ สด.43 ที่ถูกต้อง ทำตามทหาร รับจากมือทหาร ลายเซ็นก็ลายเซ็นทหาร รับในสถานที่ราชการ ใครจะไปรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม และพอได้รับเอกสารมาแล้ว คนทั่วไปใครจะเอาใบ สด.43 ของตัวเอง ไปให้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนตรวจสอบในภายหลัง “ใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ” แบบนี้ ประชาชนที่ไหนจะรู้ว่าเป็นของปลอม เพราะเจ้าหน้าที่เป็นผู้ทำปลอมให้

ถ้ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ย่อมเท่ากับว่า มีสัสดีบางคน บางกลุ่มของ กองทัพ ประพฤติชั่ว เอาใบ สด.43 มาฉ้อโกงหลอกขายประชาชน

ผมได้รับข้อสงสัยจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่า ในแต่ละปีมีสัสดีจำนวนไม่น้อย นำเอาใบ สด.43 ที่เป็นกระดาษที่พิมพ์จากโรงพิมพ์ทหาร มาหลอกขายประชาชน ลายเซ็นของนายทหารในใบ สด.43 ก็เป็นลายเซ็นจริง จากคำครหาคาดว่าราคาของ “ใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ” นั้นแพงถึงใบละ 50,000 บาท และมีการส่งต่อผลประโยชน์ใหักับนายทหารระดับสูงเป็นทอดๆ ด้วย

คำครหา เกี่ยวกับ “ใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ” มีมาช้านานแล้ว ประชาชนที่เดินดินกินข้าวแกง ชาวบ้านตามตลาด ต่างพูดกันมาหนาหู มีประสบการณ์ตรงบ้าง รู้มาจากคนอื่นบ้าง เป็นขุมทรัพย์ลึกลับดำมืด ที่ควรต้องถูกกระชากให้ออกมาจากใต้พรมเสียที ว่าตกลงแล้วมันมีจริง หรือไม่

สำหรับข้อโต้แย้งว่า ประชาชนอาจจะรู้เห็นเป็นใจด้วย นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องไปดำเนินคดีกับประชาชนที่จ้างวาน หรือเป็นผู้สนับสนุน แต่ประชาชนที่เขาเชื่อโดยสุจริต ทำตามคำแนะนำของสัสดี แล้วได้ใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอมา ตามกฎหมายต้องถือว่าประชาชนเหล่านี้เป็นผู้เสียหาย และต่อให้ประชาชนจะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ก็ไม่ได้เป็นเหตุที่จะให้นายทหาร หรือเจ้าหน้าที่ของกองทัพ ที่ทำใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ มาฉ้อโกงหลอกขายประชาชนพ้นผิด

ปีๆ หนึ่ง ผมประเมินเบื้องต้นว่า มีประชาชนตกเป็นเหยื่อสัสดีบางกลุ่มที่ประพฤติชั่วเอาใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ มาหากิน ราวๆ 6 หมื่นคน ดังนั้นมูลค่าของการทุจริตฉ้อโกงใบ สด.43 จึงประเมินในเบื้องต้นว่าน่าจะอยู่ราวๆ ปีละไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการฉ้อโกงประชาชนที่มหาศาล และทำกันมาต่อเนื่องหลายสิบปีแล้ว

นี่ยังไม่นับการแอบปล่อยพลทหารกลับบ้าน แลกกับเงินเดือน และเบี้ยประกอบเลี้ยงที่ยกให้กับนายทหารระดับสูง คาดว่าปีๆ หนึ่งมีพลทการถูกปล่อยกลับบ้านไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน ถ้าเงินเดือนพลทหาร 10,000 บาท เท่ากับว่ามูลค่าการทุจริตในการปล่อยพลทหารกลับบ้าน น่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

แสดงว่า ยุทธการคว่ำชามข้าวหมา ทลายขบวนการขายใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ และการแอบปล่อยพลทหารกลับบ้าน ชามข้าวหมาใบนี้ นี่มีมูลค่าการทุจริตอาจมากกว่า 3,200 ล้านบาท เลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงได้แจ้งกับคุณสุทิน ในฐานะรมว.กลาโหม ระหว่างที่สัมภาษณ์ร่วมกัน ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 ว่า จะมีอาสาสมัครจำนวนมาก อาสาที่จะเข้าไปตรวจสอบ บันทึกคลิปภาพ และเสียง ในกรณีที่ถูกสัสดีพูดหว่านล้อม หรือตะล่อม เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อขายใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ และเมื่อผมได้รับหลักฐานเหล่านั้น ผมจะนำเข้ามาสอบสวนใน กมธ.ทหาร และจะส่งมอบหลักฐานเหล่านั้นให้กับกระทรวงกลาโหมเพื่อดำเนินการกับสัสดีบางคนที่ประพฤติชั่วทันที และจะทำหนังสือชี้เบาะแสการทุจริต เพื่อให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาไต่สวนชี้มูล และสั่งฟ้องตามสมควรต่อไป

สำหรับประชาชนจำนวนมากที่สอบถาม กมธ.ทหารเข้ามาว่า รู้สึกไม่มั่นใจว่า ใบ สด.43 ของตนเอง เป็น “ใบ สด.43 แท้” หรือว่าเป็น “ใบ สด.43 ก๊อปเกรดเอ” ทั้งๆ ที่ได้มาตามคำแนะนำของสัสดีทุกประการ

สำหรับการแอบปล่อยพลทหารกลับบ้าน เดี๋ยว กมธ.ทหาร จะจัดตารางเข้าไปสุ่มตรวจสอบตามค่ายทหาร ที่เป็นเป้าหมาย และถ้าตรวจนับพลทหารไม่ครบ ก็จะมีการส่งผลการตรวจสอบให้กระทรวงกลาโหมจัดการ พร้อมกับส่งเบาะแสให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง และไต่สวนมูลฟ้อง และพิจารณาสั่งฟ้อง เช่นกัน

ประเด็นข้อกังวลนี้ เดี๋ยวการประชุม กมธ.ทหาร ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.พ. นี้ ผมจะทำหนังสือถึง ผบ.นรด. เพื่อสอบถามว่าประชาชนที่สงสัยน่าจะมีอยู่หลายแสนคน จะขอตรวจสอบความถูกต้องของใบ สด.43 ของตนเองได้จากที่ไหน อย่างไร แล้วจะมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบครับ

เรามาคว่ำชามข้าวหมามูลค่า 3,200 ล้านบาทต่อปีร่วมกันครับ

เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS