Connect with us

Politics

พร้อมทำงานร่วม 4 กุมาร พา พปชร. ตั้งรัฐบาล

Published

on

“สมศักดิ์” ยันไม่เคยลงชื่อขับไล่ 4กุมาร เชื่อปรับตัวทำงานร่วมกันได้ดี

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ร่วมลงชื่อขับไล่ 4 กุมาร และล่าสุด นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถกลับมาร่วมงานกันได้หรือไม่นั้น ว่า อย่าไปใช้คำว่า ลงชื่อขับไล่เลย ไม่เคยขับไล่ จำได้ว่า ช่วงนั้นเป็นการเลือกหัวหน้าพรรคชุดใหม่ เป็นเรื่องความเหมาะสมสถานการณ์ในช่วงนั้น

การกลับมาของนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค โดยเราไม่สามารถเลือกงานด้วยตัวเองได้ เป็นขบวนการทางการเมือง ผู้ใหญ่ในพรรคเป็นผู้กำหนดทิศทาง ตัวเราเป็นเหมือนน้ำในแก้ว ที่จะประสานทำงานร่วมกันได้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

ทั้งนี้หากนายอุตตมและนายสนธิรัตน์กลับมาจะทำงานร่วมกัน พรรคจะดีขึ้นหรือมีความขัดแย้งกันอยู่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า หากมีคนที่มีความรู้ ความสามารถ ในทิศทางการเมืองและการบริหารเข้ามาเสริม เชื่อว่าพรรคไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม ต้องดีขึ้น และทั้ง2คน จะทำงานร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นฤมล และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หรือไม่ เชื่อว่า ทุกคนจะปรับตัวเข้ากันได้

ส่วนนายสมศักดิ์และกลุ่มสามมิตรยังอยู่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงเป็นเช่นนั้น

เมื่อสื่อถามย้ำว่า สามมิตรยังอยู่เป็นกลุ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เปรียบเหมือนครอบครัวใหญ่ที่ต้องออกเรือนมีลูกมีหลาน ออกเรือนไปเพื่อไปเติบใหญ่ ก็ให้โอกาสแต่ละคน ไม่ไปบังคับ เราไม่ใช่นักเลง เราเป็นคนทำงานต้องให้โอกาสคน และพลเอกประวิตร ก็กล่าวไว้ว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อกลับมาเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล ตนเคยบอกแล้วว่า 99% ยังไม่เปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้งานเปิดระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 30ม.ค.มีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ร่วมงานด้วย เนื่องจากยังมีที่ว่างเหลืออยู่จึงเชิญมา ซึ่งได้คุยกันถึงอนาคตทางการเมืองแล้ว แต่ทนายตั้มไม่เล่นการเมือง แต่อนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัว และตนไม่ได้พบปะทนายตั้มตลอดเวลา แต่เคยนำคดีอนาจารของดารามาช่วยประชาสัมพันธ์ด้านกฎหมายเรื่องการกระทำความผิดซ้ำ

ส่วนที่กรณีอาการของนายทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า เมื่อวานนี้มีตัวแทนแกนนำมาปรึกษาตน แบ่งเป็น 3 ระยะ ช่วยกันแก้ปัญหา ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ได้พูดคุยเรื่องสิทธิมนุษยชนและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีแนวทางที่จะปรับเข้าหากัน โดย2คนนี้ตั้งใจอดอาหารจริง อดเอาเป็นเอาตาย คนอื่นไม่ได้อดแบบนี้ การอดข้าวจะแข็งแรงได้อย่างไร แต่ในทางการแพทย์ วินิจฉัยว่า ยังมีน้ำตาลในร่างกาย จึงดำเนินชีวิตต่อได้ แต่หากเป็นเราอดข้าวแค่วันเดียวก็แย่แล้ว ทั้งนี้ ช่วงบ่าย จะมีเดินทางเข้าเยี่ยมอาการ ก็อยากให้หยุดอดอาหาร

ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงเปลี่ยนผู้ครอบครองยาเสพติดมากกว่า 1 เม็ด เป็นผู้ค้า จะทำให้ผู้ต้องขังล้นคุกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เอาที่เข้าใจง่าย ก่อนหน้านี้ถ้าจับมา หากไม่สมัครใจบำบัดก็คุมขัง และหากเกิน48ชั่วโมงก็จะดำเนินการส่งศาล ต้องมาดูว่า การใช้ยาแรงก็เป็นสถานการณ์ในช่วงนี้เพราะการฟื้นฟูบำบัดทำไม่ทัน เพราะประมวลกฎหมายยาเสพติด มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณะสุข หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขมองว่า

แพทย์และพยาบาลหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เห็นว่าผู้ติดยาบ้าหลอนและทำอันตราย จึงคิดว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวในส่วนนี้มาก จึงผลักให้เข้าห้องขัง อันนี้คือความคิดส่วนตัวของตน แต่หน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมคือ การยึดทรัพย์เป็นหลัก หากปล่อยไปลักษณะนี้เป็นช่วงรอยต่อระหว่างการเลือกตั้ง จึงต้องปรับในส่วนนี้ แต่ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขตัดสินใจ ตนไม่มีอำนาจบอกว่า เห็นด้วยหรือไม่ และการออกกฎกระทรวงดังกล่าว มองว่าไม่ช่วยแก้สถานการณ์ยาเสพติดเช่นกัน

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: