“เต้-อัจฉริยะ” พาทีมบินโดรนใต้น้ำ ค้นหามีด หลักฐานใช้ทำร้าย “แตงโม”
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานมูลนิธิช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมงานบินโดรนสำรวจใต้น้ำ เพื่อค้นหาพยานหลักฐานที่เชื่อว่า มีคนบนเรือสปีดโบ๊ตใช้ทำร้ายร่างกาย น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงสาวชื่อดัง จนเสียชีวิต
นายณัฎฐ์นันธ์ พฤกษาณัฐกุล ผู้เขี่ยวชาญด้านการใช้โดรนใต้น้ำ เปิดเผยว่า โดรนใต้น้ำสามารถดำน้ำได้ลึก 100 เมตร มีกล้อง 4k ถ่ายภาพได้ 30 เฟรมต่อวินาที ไฟสว่าง 4,000 ลูเมน พิเศษคือ จะมีแขนจับวัตถุใต้น้ำรับน้ำหนักได้ 8 กิโล ใบพัดที่หมุนได้ 360 องศา ซึ่งเครื่องนี้สามารถแสกนได้หมดไม่ว่าวัตถุนั้นจะอยู่ใต้น้ำมาแล้วกี่ปีก็สามารถตรวจเจอ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสีของน้ำด้วย เพราะยิ่งขุ่นก็จะยิ่งหายาก
ด้าน นายอัจริยะ เปิดเผยว่า หากมีการทิ้งวัตถุพยานจริงก็จะยังมีอยู่ ซึ่งสิ่งที่ตั้งใจจะมาหาวันนี้ก็คือ ที่เปิดขวดไวน์, มีด หรือ แก้ว ซึ่งวัตถุเหล่านี้ถ้าอยู่ใต้น้ำกี่ปีก็เจอ เพราะเป็นแก้วและโลหะ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าบาดแผลขาข้างขวาของ แตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่เกิดจากของมีคม ซึ่งคนที่ทำไม่น่าจะเอามีดกลับบ้าน เพราะมีคราบเลือด แตงโม ติดอยู่ ซึ่งวิธีง่ายที่สุด คือ การทิ้งน้ำ เพราะคิดว่า คงหาไม่เจอ ส่วนพิกัดที่จะหานั้น ได้มาจากดาวเทียม ส่วนมีดที่จะหานั้นคิดว่า ความยาวน่าจะไม่ยาวเท่าไหร่ น่าจะเป็นมีดเอาไว้เปิดขวดไวน์ หรือตัดเชือดที่อยู่บนเรือ
นายอัจฉริยะ เปิดเผยอีกว่า ตนเองเตรียมจะฟ้องคนบนเรือ แต่จะเป็นข้อหาใดยังไม่ขอเปิดเผยในขณะนี้ แต่มีมาตราอยู่ในใจอยู่แล้ว โดยจะประชุมทีมทนายความกับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในวันเสาร์นี้ โดยจะไม่พึ่งพากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ อีกต่อไป เนื่องไม่อยากให้ความหวังกับ ดีเอสไอ แต่จะดำเนินการฟ้องด้วยตนเอง ก่อนที่อัยการจะสั่งฟ้องศาลในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ซึ่งยังไม่บอกหลักฐานว่า จะเอาอะไรไปฟ้องบ้าง แต่ทราบว่า ตอนนี้มีคราบเลือดของคุณแตงโม 2 จุด อยู่บนเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ซึ่งเป็น 1 ใน 5 คนบนเรือ
ส่วนกรณีที่คุณแม่ของคุณแตงโม เชื่อว่า ลูกสวเสียชีวิตบนบก แต่มีผลชันสูตรออกมาว่า มีทราย มีโคลน อยู่ในปอด นายอัจฉริยะ ชี้แจงว่า คุณแม่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายและไม่ได้มีความเข้าใจ แต่ตนเองได้อธิบายไปแล้วว่า แตงโม ถูกทำร้ายบนบก หรือบนเรือ แต่ไปเสียชีวิตในน้ำ เป็นการเสียชีวิตอย่างทรมาน ซึ่งตอนนี้คุณแม่ก็เข้าใจดีแล้ว พร้อมฝากถึง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความแม่แตงโม ควรหยุดได้แล้ว เนื่องจากถอนตัวไปแล้ว เนื่องจากคุณแม่ของแตงโมไม่ค่อยสบายใจ และยังทำให้ นายมงคลกิตติ์ ไม่พอใจ จนเกิดการข่มขู่ทำร้ายร่างกายตามเป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ก็ได้มาติดตามการเคลื่อนไหวของ นายอัจริยะ ซึ่งได้มีการจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง รวมถึงพระสยามเทวาธิราช ให้นาย อัจฉริยะเจอวัตถุพยานหลักฐานตามที่ตั้งใจ หลังจากนั้นก็ให้สัมภาษณ์ว่า การหาวัตถุพยานครั้งนี้ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งตนเองก็พึ่งจะเคยเห็นโดรนใต้น้ำ ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ในการช่วยหาพยานหลักฐาน ซึ่งหากเจอมีดจริง ก็ต้องดูว่า เป็นมีดแบบไหน เพราะใต้ท้องน้ำ ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง
