เผยวิธีรับเงินเยียวยา สำหรับ นายจ้าง-ลูกจ้าง ไม่ได้อยู่ในประกันสังคม
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ชี้แจงภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเพื่อหารือถึงมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 หลังมีการออกประกาศข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 25
โดยตามประกาศดังกล่าวนี้ จะมีผลบังคับใช้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลครอบคลุม 6 จังหวัดได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- จังหวัดนครปฐม
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดสมุทรปราการ
- จังหวัดสมุทรสาคร
นอกจากนี้ยังมี 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่
- จังหวัดนราธิวาส
- จังหวัดปัตตานี
- จังหวัดยะลา
- จังหวัดสงขลา
สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบที่จะได้รับการเยียวยาได้แก่
- ธุรกิจการก่อสร้าง ที่มีการปิดไซต์งานก่อสร้าง
- ร้านอาหารที่ให้เปิดบริการเฉพาะซื้อกลับไปทานเท่านั้น (Take Away)
แต่ถ้าหากผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม มีขั้นตอนในการรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลได้ด้วยการให้นายจ้างและลูกจ้างที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งนายจ้างจะได้ได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท ในขณะที่ลูกจ้างที่มีสัญชาติไทยได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท
ทั้งนี้เงินเยียวยาเหตุสุดวิสัยนั้น ตามกฎหมายประกันสังคมลูกจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนจึงจะได้รับเงินชดเชยร้อยละ 50 ของฐานเงินเดือน ทำให้ลูกจ้างนอกระบบประกันสังคมจะไม่ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนประกันสังคมได้เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง สามารถลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ผ่านทางโครงการคนละครึ่ง โดยเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยจะได้รับเงินจำนวน 3,000 บาท
You must be logged in to post a comment Login