Connect with us

News

ตำรวจแถลง​ ยืนยันแล้ว​ จะจับ​ “บอส​ อยู่วิทยา” คดี​ ชนตำรวจตายได้หรือไม่!!

Published

on

ตำรวจตั้งโต๊ะแถลง​ แนวทางจับกุม​ บอส​ อยู่วิทยา​ ที่หนีอยู่ต่างประเทศ​ ยัน! จะจับตัวมาดำเนินคดีก่อนคดีหมดอายุความ

ผู้​สื่อข่าว​โต​โจ้​นิว​ส์ราย​งานว่า​ พลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทเชษฐา โกมลวรรธนะ หัวหน้าจเรตำรวจ (หน.จต.) , พลตำรวจตรีโสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และพันตำรวจเอกทรงเอก พัชรวิชญ์ ผู้กำกับการฝ่ายสิทธิสัญญาและกฎหมาย กองการต่างประเทศ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการติดตามตัว นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง กรณีขับรถยนต์ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และหลบหนีไปต่างประเทศนานหลายปี

พันตำรวจเอก ทรงเอก เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ให้ประสานกับสถานทูตฯไทยในต่างประเทศ, สถานทูตฯต่างๆ ประจำประเทศไทย และตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โปล จำนวน 195 ประเทศ ที่ นายวรยุทธ ถูกออกหมายแดง นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังทำคำร้องเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไว้แล้ว เมื่อได้รับแจ้งข้อมูลถิ่นที่อยู่ จะสามารถประกอบคำร้องเสนอให้อัยการสูงสุด ดำเนินการตามขั้นตอนได้ นอกจากนี้ ยังยอมรับว่า กองการต่างประเทศ ไม่มีข้อมูลว่า นายวรยุทธไปหลบอยู่ในสถานที่ใด หลังพบข้อมูลการเดินทางออกจากประเทศไทยในปี 2560

ขณะที่ในส่วนของการดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีของนายวรยุทธ พลตำรวจโทเชษฐา ชี้แจงว่า จเรตำรวจสอบสวนเอาผิดทางวินัย กับตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีของนายวรยุทธ และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมาแล้ว 3 ชุด ช่วงระหว่างปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีตำรวจถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงรวมแล้ว 17 นาย ซึ่งในจำนวนนี้บางส่วนมีคำสั่งให้ลงทัณฑ์กักขัง และบางส่วนยุติเรื่อง และยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเท็จจริง คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนธันวาคม

ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี เพิ่มเติมกับ นายวรยุทธ นั้น พลตำรวจตรีโสภณ ชี้แจงว่า ในส่วนของการดำเนินคดีอาญาว่า ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ สอบเพิ่มเติมตามคำสั่งของอัยการ และต่อมาศาลอาญา กรุงเทพฯใต้ ออกหมายจับในความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และเสพยาเสพติดโคเคน ประเภทที่ 2 โดยพนักงานสอบสวน ส่งหมายจับให้พนักงานอัยการ รับไปดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อนำตัวกลับมายื่นฟ้องต่อศาล

ขณะที่ พลตำรวจตรียิ่งยศ ชี้แจงประเด็นที่คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่า ตำรวจไม่มีงบประมาณเพียงพอในการบินไปจับตัวนายวรยุทธ ที่ต่างประเทศนั้น ข้อเท็จจริงคือ การติดตามตัวนายวรยุทธ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ใช้ช่องทางการส่งหมายแดงประสานกับตำรวจสากล อีกทั้ง ตำรวจไทยไม่สามารถนำกำลังเข้าไปจับตัว นายวรยุทธ ที่ต่างประเทศได้ เพราะเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย ดังนั้น หน้าที่ของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำได้เพียงการขอความร่วมมือยังตำรวจสากล เพื่อสืบสวนถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา และใช้ช่องทางการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนผ่านอัยการสูงสุด ซึ่งการที่จะมีงบประมาณหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการจับนายวรยุทธ เพราะถึงมีงบประมาณก็ไม่สามารถไปจับตัวนายวรยุทธในประเทศอื่นได้

นอกจากนี้ พลตำรวจตรียิ่งยศ ยังยอมรับว่า มีการสอบถามไปยังประเทศออสเตรีย ว่านายวรยุทธอาศัยอยู่ในประเทศหรือไม่ ทางประเทศออสเตรีย ยังไม่ได้ตอบกลับ อีกทั้งรายชื่อของนายวรยุทธ ยังไม่ปรากฏในฐานข้อมูลของตำรวจสากลในประเทศออสเตรีย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังอยู่ระหว่างการรอประเทศออสเตรียประสานข้อมูลกลับมา โดยขณะนี้ตำรวจสากลของไทยได้ อัพเดทข้อมูลระบบไบโอเมตริกของ นายวรยุทธ เข้าสู่ระบบของสมาชิกตำรวจสากลแล้ว ขณะที่หนังสือเดินทางของนายวรยุทธกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ยกเลิกไปแล้ว แต่ทั้งนี้ หากนายวรยุทธ จะใช้หนังสือเดินทางของประเทศอื่น คงไม่สามารถก้าวล่วงได้ และยืนยันว่า จะพยายามนำตัวนายวรยุทธ กลับมาดำเนินคดี ก่อนที่คดีขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต จะหมดอายุความในปี 2570 และคดีเสพยาเสพติด หมดอายุความในปี 2565

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: