จาก 9 รพ.หลังยกเลิกสัญญา สปสช.ยืนยันไม่ลอยแพ ผู้ป่วยเกือบ 7 แสนคนยังรักษาได้ตามสิทธิเช่นเดิม 1 ต.ค. 2565
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยืนยัน สปสช.ไม่ทอดทิ้งผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่กับ 9 โรงพยาบาล และพร้อมรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ หลังได้ยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุข รพ.เอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท 9 แห่ง ได้แก่ รพ.มเหสักข์, รพ.บางนา 1, รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป หลังตรวจพบการเบิกจ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง
1.ผู้ป่วยในที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ใน รพ. 9 แห่ง หากยังไม่ได้ออกจาก รพ. หลังวันที่ 30 ก.ย. 2565 ยังคงนอนรักษาตัวต่อไปได้ จนกว่าจะหายป่วย โดย สปสช.จะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
2.ผู้ป่วยนัดรักษา 5 กลุ่ม ได้แก่ สตรีใกล้คลอด, ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องรับเคมีบำบัดและรังสีรักษา, ผู้ป่วยมีนัด ทำอัลตราซาวด์, ทำซีทีสแกน และทำ MRI ยังคงรักษาตัวตามนัดต่อไปได้
3.ผู้ป่วยของทั้ง 9 รพ.ที่ได้รับใบส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.แห่งอื่น ยังคงได้รับสิทธิส่งตัวไปรักษาตามปกติ
4.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่นัดติดตามอาการให้ไปรับการรักษาตัวต่อที่ คลินิกเวชกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา ฯลฯ พร้อมจัดระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้บริการ ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ใดก็ได้
5.ผู้ป่วยเอชไอวี และวัณโรค ให้ไปรับการรักษาตัวต่อได้ เช่นเดียวกับ (ข้อ 4)
6.ผู้ป่วยที่ต้องรับการฟอกไต หรือมีนัดผ่าตัดหัวใจ ทำบอลลูนหัวใจ หรือใส่สายสวนหัวใจ ยังคงรับการรักษาที่ 9 รพ.เดิมได้ตามปกติ
7.สำหรับผู้ที่ยังไม่เป็นผู้ป่วย แต่ได้สิทธิรับรักษาใน รพ. 9 แห่ง สามารถเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ โดยเข้าไปลงทะเบียนในเวปไซต์ สปสช.
ทั้งนี้ รพ. 9 แห่ง มีสิทธิบัตรทองจำนวน 696,103 คน ในจำนวนนี้มีเพียง 62,331 คน (ร้อยละ 9) ที่ใช้สิทธิรับบริการ และเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวน 24,058 คน
